เสียงขุ่นนาสิก (ญี่ปุ่น: 鼻濁音; โรมาจิ: bidakuon; ทับศัพท์: บิดากูอง) หรือเสียงนาสิกวรรค が (ga) (ญี่ปุ่น: ガ行鼻音; โรมาจิ: gagyō-bion; ทับศัพท์: กาเงียว บิอง) หรือเสียงขุ่นนาสิกวรรค が (ga) (ญี่ปุ่น: ガ行鼻濁音; โรมาจิ: gagyō-bidakuon; ทับศัพท์: กาเงียว บิดากูอง) หมายถึง เสียงของตัวอักษร 「が・ぎ・ぐ・げ・ご」 ที่พยัญชนะออกเสียงขึ้นจมูกเป็นเสียงนาสิก [ŋ] และถือเป็นหน่วยเสียงย่อยของหน่วยเสียง /g/ โดยทั่วไปจะปรากฏในตำแหน่งกลางคำ (ตำแหน่งอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ต้นคำ) ตรงกับพยัญชนะ ง ของภาษาไทย[1][หมายเหตุ 1]
เสียงนี้เป็นลักษณะเด่นอย่างหนึ่งของภาษาถิ่นโตเกียวซึ่งกลายเป็นภาษากลางของประเทศญี่ปุ่นในปัจจุบัน ผู้ประกาศข่าว นักแสดง นักพากย์ ฯลฯ จึงฝึกฝนในฐานะการออกเสียงมาตรฐาน[3] ปัจจุบันประชากรที่ออกเสียงเป็นเสียงขุ่นนาสิกลดจำนวนลงอย่างต่อเนื่องยกเว้นภูมิภาคโทโฮกุ[4]
ประวัติ
が (GA), ぎ (GI), ぐ (GU), げ (GE) และ ご (GO) ตามลำดับ
เสียงขุ่นนาสิก [ŋ] ซึ่งปรากฏกลางคำนี้พบได้มากในภาษาญี่ปุ่นตะวันออก (ญี่ปุ่น: 東日本方言; โรมาจิ: Higashi Nihon Hōgen; ทับศัพท์: ฮิงาชิ นิฮง โฮเง็ง) ตั้งแต่ภาษาถิ่นคิงกิ (คันไซ) เรื่อยไปตามทิศตะวันออกจนถึงเกาะฮกไกโด แต่แทบไม่พบในภาษาถิ่นชูโงกุและภาษาถิ่นคีวชู[5] และในพื้นที่ที่มีเสียงขุ่นนาสิกเองก็ยังสามารถแบ่งเป็นภาษาถิ่นที่ออกเสียง /g/ กลางคำเป็นเสียงขุ่นนาสิก [ŋ] หรือเสียงขุ่นธรรมดา [g] สลับกันไปมาอย่างอิสระ (เช่น ภาษาถิ่นเกียวโต) ภาษาถิ่นที่ออกเสียง /g/ เป็นเสียงขุ่นนาสิก [ŋ] ในบางสภาพแวดล้อมตามเงื่อนไข (เช่น ภาษาถิ่นโตเกียว) และภาษาถิ่นที่เสียง /g/ กลางคำออกเสียงเป็นเสียงขุ่นนาสิก [ŋ] เสมอ (ภาษาถิ่นโทโฮกุ)[หมายเหตุ 2]
ที่มาของเสียงขุ่นนาสิก [ŋ] ในภาษาถิ่นโตเกียวไม่ชัดเจนเนื่องจากหลักฐานเกี่ยวกับภาษาญี่ปุ่นยุคก่อนสมัยใหม่มักเป็นภาษาถิ่นเกียวโต (เมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น) อย่างไรก็ตามหลักฐานช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 17 แสดงให้เห็นว่าภาษาถิ่นเกียวโตในช่วงเวลานั้นหน่วยเสียง /g/ เคยออกเสียงนาสิกนำ (prenasalization) เป็น [ᵑɡ] และปัจจุบันก็ยังคงพบการออกเสียงเช่นนี้ในภาษาถิ่นบางภาษา เราจึงอนุมานได้ว่าในอดีตการออกเสียงนาสิกนำเคยเป็นลักษณะร่วมของภาษาญี่ปุ่นหลาย ๆ ถิ่น Inoue (1971 อ้างใน Takayama, 2015) ได้ศึกษาการปรากฏเป็นรูป (phonetic realization) ของเสียง /g/ ของภาษาถิ่นทั้งประเทศและสรุปว่า เดิมทีหน่วยเสียง /g/ เคยออกเสียงเป็น [ᵑɡ] จากนั้นจึงมีวิวัฒนาการแยกเป็น 2 สาย สายหนึ่งวิวัฒนาการเป็นเสียง [ŋ] และอีกสายหนึ่งวิวัฒนาการเป็นเสียง [ɡ] ภาษาถิ่นโตเกียวจัดว่าเป็นแบบแรก[6]
ปัจจุบันประชากรที่ใช้เสียงขุ่นนาสิก [ŋ] ได้ลดจำนวนลงเรื่อย ๆ แม้แต่ในกลุ่มเจ้าของภาษาถิ่นโตเกียวรุ่นใหม่ ๆ เองก็เปลี่ยนจากออกเสียง [ŋ] ในบางสภาพแวดล้อมตามเงื่อนไขมาเป็นออกเสียง [ŋ]↔[g] สลับกันไปมาอย่างอิสระ และบางคนก็ไม่ใช้เสียงขุ่นนาสิกเลย[7][หมายเหตุ 3] แนวโน้มนี้พบเห็นได้กระทั่งในกลุ่มคนที่น่าจะได้รับการอบรมและฝึกฝนเสียงขุ่นนาสิกมาอย่างเข้มงวด เช่น ดารา นักแสดง ผู้ประกาศข่าวที่อายุยังน้อยของสถานีโทรทัศน์เอกชน โดยมีการระบุว่าผู้ประกาศข่าวรุ่นใหม่ของสถานีโทรทัศน์เอกชนประมาณ 2 ใน 3 และผู้ประกาศข่าวรุ่นใหม่ของสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค (NHK) ประมาณ 1 ใน 3 ไม่ได้ใช้เสียงขุ่นนาสิกตามภาษาถิ่นโตเกียว[8] อนึ่ง ประชากรที่ไม่ใช้เสียงขุ่นนาสิกมักจะออกเสียงกลางคำเป็นเสียงขุ่นธรรมดา ส่วนประชากรที่ใช้สลับกันไปมามักจะใช้เสียงขุ่นนาสิกเฉพาะในบริบทที่ผู้พูดไม่ระวังตัวเท่านั้น[7][หมายเหตุ 4]
เสียงขุ่นนาสิกเคยถูกบรรจุในหลักสูตรการเรียนการสอนระดับประถมศึกษาจนกระทั่งญี่ปุ่นแพ้สงครามและถูกฝ่ายสัมพันธมิตรนำโดยสหรัฐอเมริกาเข้ายึดครอง[9] ปัจจุบันพบเห็นได้ในสื่อการสอนสำหรับเด็กเล็ก เช่น เพลง『華麗に鼻濁音』(Karei ni bidakuon, คาเร นิ บิดากูอง) ในรายการโทรทัศน์ช่อง NHK Educational TV ซึ่งมีเนื้อหาเชิญชวนให้เด็ก ๆ และผู้ปกครองออกเสียงขุ่นนาสิกเพื่อให้คำพูดฟังดูนุ่มนวลขึ้น[10]
กฎการเปลี่ยนเป็นเสียงขุ่นนาสิก
คำอธิบายในที่นี้เป็นแนวโน้มการออกเสียงเป็นเสียงขุ่นนาสิกในภาษาถิ่นโตเกียว[11][12][13] ข้อมูลในส่วน "พจนานุกรมการออกเสียง" มีการใช้สัญลักษณ์พิเศษตามที่ปรากฏในพจนานุกรมดังนี้
- 「ガ・ギ・グ・ゲ・ゴ」 ที่ออกเป็นเสียงขุ่นนาสิกจะแสดงด้วยอักษรพิเศษ 「カ゚・キ゚・ク゚・ケ゚・コ゚」 ตามลำดับ
- เครื่องหมาย 「\」 ใช้เพื่อแสดงตำแหน่งเสียงตก (ญี่ปุ่น: 下がり目; โรมาจิ: sagari-me; ทับศัพท์: ซางาริเมะ) ของคำหรือหน่วยคำนั้น ส่วนเครื่องหมาย 「 ̄」 ใช้เพื่อแสดงว่าคำหรือหน่วยคำนั้นไม่มีตำแหน่งเสียงตก
- ตัวอักษรไม่เข้มใช้เพื่อแสดงว่าตัวอักษรดังกล่าวออกเสียงโดยมีการลดความก้อง (devoicing) ของเสียงสระด้วย
หลักการทั่วไป
- เมื่อเสียง /g/ ปรากฏในตำแหน่งต้นคำ จะออกเป็นเสียงขุ่นธรรมดา: [g]
ภาษาญี่ปุ่น
|
ระบบเฮ็ปเบิร์น
|
ระดับหน่วยเสียง
|
เสียงโดยละเอียด
|
พจนานุกรมการออกเสียง
|
ความหมาย
|
学校
|
gakkō
|
/gaQkoː /
|
[gak̚koː]
|
ガッコー ̄
|
โรงเรียน
|
外国
|
gaikoku
|
/gaikoku/
|
[gai̯kokɯ]
|
ガイコク ̄
|
ต่างประเทศ
|
元気
|
genki
|
/geNki/
|
[geŋːkʲi]
|
ゲ\ンキ
|
แข็งแรง, กระปรี้กระเปร่า
|
- เมื่อ /g/ ปรากฎในตำแหน่งที่ไม่ใช่ต้นคำ (รวมถึงหน่วยคำเติมท้าย เช่น คำช่วย 「が」「ぐらい」「ごろ」) จะออกเป็นเสียงขุ่นนาสิก: [ŋ]
ภาษาญี่ปุ่น
|
ระบบเฮ็ปเบิร์น
|
ระดับหน่วยเสียง
|
เสียงโดยละเอียด
|
พจนานุกรมการออกเสียง
|
ความหมาย
|
鍵
|
kagi
|
/kagi/
|
[kaŋʲi]
|
カキ゚\
|
กุญแจ
|
告げる
|
tsugeru
|
/tugeru/
|
[t͡sɯŋeɾɯ]
|
ツケ゚ル ̄
|
แจ้ง, บอก
|
事業
|
jigyō
|
/zigyoː/
|
[d͡ʑiŋjoː]
|
ジ\キ゚ョー
|
กิจการ
|
タイ語
|
tai-go
|
/tai-go/
|
[tai̯ŋo]
|
タイコ゚ ̄
|
ภาษาไทย
|
山が
|
yama-ga
|
/yama-ga/
|
[jamaŋa]
|
ヤマ\カ゚
|
ภูเขา+(คำช่วย)
|
三時間ぐらい
|
san-jikan-gurai
|
/saN-jikaN-gurai/
|
[sanːd͡ʑikaŋːŋɯɾai̯]
|
サンジカンク゚\ライ
|
ประมาณ 3 ชั่วโมง
|
三時ごろ
|
san-ji-goro
|
/saN-ji-goro/
|
[sanːd͡ʑiŋoɾo]
|
サンジコ゚\ロ
|
ราว ๆ บ่ายสาม/ตีสาม
|
- คำที่ปกติอยู่กลางคำหรือประโยค แต่ถูกนำมาใช้ขึ้นต้นคำหรือประโยค จะออกเป็นเสียงขุ่นนาสิกเช่นกัน
ภาษาญี่ปุ่น
|
辞書で引いてみた。が、出ていなかった。
|
ระบบเฮ็ปเบิร์น
|
Jisho de hiite mita. Ga, dete inakatta.
|
ระดับหน่วยเสียง
|
/jisyo de hiːte mita. ga, dete inakatta/
|
เสียงโดยละเอียด
|
[d͡ʑiɕo de çiːte mʲita. ŋa, dete inakat̚ta]
|
ความหมาย
|
"ลองค้นในพจนานุกรมดูแล้ว แต่ไม่มี"
|
ภาษาญี่ปุ่น
|
ระบบเฮ็ปเบิร์น
|
ระดับหน่วยเสียง
|
เสียงโดยละเอียด
|
พจนานุกรมการออกเสียง
|
ความหมาย
|
雨傘
|
amagasa
|
/ama-/+/kasa/ → /amagasa/
|
[amaŋasa]
|
アマカ゚サ ̄
アマカ゚\サ
|
ร่มกันฝน
|
人柄
|
hitogara
|
/hito/+/kara/ → /hitogara/
|
[çi̥toŋaɾa]
|
ヒトカ゚ラ ̄
|
นิสัยใจคอ
|
冬景色
|
fuyugeshiki
|
/huyu/+/kesiki/ → /huyugesiki/
|
[ɸɯjɯŋeɕi̥kʲi]
|
フユケ゚\シキ
|
ทิวทัศน์ในฤดูหนาว
|
ガス会社
|
gasugaisha
|
/gasu/+/kaisya/ → /gasugaisya/
|
[gasuŋai̯ɕa]
|
ガスカ゚\イシャ
|
บริษัทแก๊ส
|
ข้อยกเว้น
- คำยืมจากภาษาต่างประเทศ (ญี่ปุ่น: 外来語; โรมาจิ: gairaigo; ทับศัพท์: ไกไรโงะ) จะยึดตามภาษาต้นทาง นั่นคือ หากภาษาต้นทางเป็น [g] ก็จะออกเป็นเสียงขุ่นธรรมดา ([g]) หากภาษาต้นทางเป็น [ŋ] ก็จะออกเป็นเสียงขุ่นนาสิก ([ŋ])
ภาษาญี่ปุ่น
|
ระบบเฮ็ปเบิร์น
|
ระดับหน่วยเสียง
|
เสียงโดยละเอียด
|
พจนานุกรมการออกเสียง
|
ความหมาย
|
ハンバーガー
|
hanbāgā
|
/haNbaːgaː/
|
[hamːbaːgaː]
|
ハンバ\ーガー
|
แฮมเบอร์เกอร์ (อังกฤษ: hamburger)
|
エネルギー
|
enerugii
|
/enerugiː/
|
[eneɾɯgʲiː]
|
エネ\ルギー
エネル\ギー
|
พลังงาน (เยอรมัน: Energie)
|
モンゴル
|
mongoru
|
/moNgoru/
|
[moŋːgoɾɯ]
|
モ\ンゴル
|
มองโกเลีย (อังกฤษ: Mongol)
|
キング
|
kingu
|
/kiNgu/
|
[kʲiŋːŋɯ]
|
キ\ンク゚
|
พระราชา (อังกฤษ: king)
|
シンガー
|
singā
|
/siNgaː/
|
[ɕiŋːŋaː]
|
シ\ンカ゚ー
|
นักร้อง (อังกฤษ: singer)
|
メレンゲ
|
merenge
|
/mereNge/
|
[meɾeŋːŋe]
|
メレンケ゚ ̄
メレ\ンケ゚
|
ชื่อขนมชนิดหนึ่ง (ฝรั่งเศส: meringue)
|
- คำยืมจากภาษาต่างประเทศบางคำ แม้ภาษาต้นทางจะเป็นเสียง [g] แต่ถ้าใช้กันมานานก็อาจจะออกเป็นเสียงขุ่นนาสิกได้
ภาษาญี่ปุ่น
|
ระบบเฮ็ปเบิร์น
|
ระดับหน่วยเสียง
|
เสียงโดยละเอียด
|
พจนานุกรมการออกเสียง
|
ความหมาย
|
イギリス
|
igirisu
|
/igirisu/
|
[iŋʲiɾisɯ]
|
イキ゚リス ̄
|
สหราชอาณาจักร (โปรตุเกส: Inglez)
|
ペンギン
|
pengin
|
/peNgiN/
|
[peŋːŋʲiɴ]
|
ペンキ゚ン ̄
|
เพนกวิน (อังกฤษ: penguin)
|
ジャガいも
|
jagaimo
|
/zyagaimo/
|
[d͡ʑaŋaimo]
|
ジャカ゚イモ ̄
|
มันฝรั่ง (「ジャガ」 มาจาก 「ジャガタラ」 ดัตช์[15]หรือโปรตุเกส[16][17]: Jacatra "จาการ์ตา")
|
ภาษาญี่ปุ่น
|
ระบบเฮ็ปเบิร์น
|
ระดับหน่วยเสียง
|
เสียงโดยละเอียด
|
พจนานุกรมการออกเสียง
|
ความหมาย
|
昼ごはん
|
hiru-gohan
|
/hiru/+/gohaN/
|
[çiɾɯgohaɴː]
|
ヒルゴ\ハン
|
อาหารเที่ยง
|
生ごみ
|
nama-gomi
|
/nama-/+/gomi/
|
[namagomʲi]
|
ナマ\ゴミ
ナマゴミ ̄
|
ขยะเปียก
|
高等学校
|
kōtō-gakkō
|
/koːtoː/+/gaQkoː/
|
[koːtoːgak̚koː]
|
コートーガ\ッコー
|
โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย
|
- คำประสมที่คำหลังขึ้นต้นด้วย /g/ แต่เส้นแบ่ง (ญี่ปุ่น: 切れ目; โรมาจิ: kireme; ทับศัพท์: คิเรเมะ) ระหว่างคำทั้งสองได้เลือนรางไม่ชัดเจนไปแล้ว จะออกเสียงเป็นขุ่นนาสิก
ภาษาญี่ปุ่น
|
ระบบเฮ็ปเบิร์น
|
ระดับหน่วยเสียง
|
เสียงโดยละเอียด
|
พจนานุกรมการออกเสียง
|
ความหมาย
|
小学校
|
shōgakkō
|
/syoːgaQkoː/
|
[ɕoːŋak̚koː]
|
ショーカ゚\ッコー
|
โรงเรียนประถมศึกษา
|
中学校
|
chūgakkō
|
/tyuːgaQkoː/
|
[t͡ɕɯːŋak̚koː]
|
チューカ゚\ッコー
|
โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น
|
管楽器
|
kangakki
|
/kaNgaQki/
|
[kaŋːŋak̚kʲi]
|
カンカ゚\ッキ
|
เครื่องดนตรีเป่า
|
- กรณีที่มีหน่วยคำอุปสรรค 「お-」「ご-」(หน่วยคำแสดงความสุภาพ) อยู่หน้าคำที่ขึ้นต้นด้วย /g/ โดยปกติจะไม่ออกเป็นเสียงขุ่นนาสิก
ภาษาญี่ปุ่น
|
ระบบเฮ็ปเบิร์น
|
ระดับหน่วยเสียง
|
เสียงโดยละเอียด
|
พจนานุกรมการออกเสียง
|
ความหมาย
|
お元気
|
o-genki
|
/o-/+/geNki/
|
[ogeŋkʲi]
|
オゲ\ンキ
|
แข็งแรง, กระปรี้กระเปร่า
|
お義理
|
o-giri
|
/o-/+/giri/
|
[ogʲiɾʲi]
|
オギリ ̄
|
หน้าที่
|
ご議論
|
go-giron
|
/go-/+/giroN/
|
[gogʲiɾoɴː]
|
ゴギ\ロン
|
ข้อถกเถียง
|
ご学友
|
go-gakuyū
|
/go-/+/gakuyuː/
|
[gogakɯyɯː]
|
ゴガクユー ̄
|
เพื่อนที่โรงเรียน
|
- กรณีที่มีหน่วยคำอุปสรรค 「非-」「不-」 อยู่หน้าคำที่ขึ้นต้นด้วย /g/ บางคำออกเป็นเสียงขุ่นธรรมดาหรือเสียงขุ่นนาสิกก็ได้
ภาษาญี่ปุ่น
|
ระบบเฮ็ปเบิร์น
|
ระดับหน่วยเสียง
|
เสียงโดยละเอียด
|
พจนานุกรมการออกเสียง
|
ความหมาย
|
非合法
|
higōhō
|
/hi-/+/goːhoː/
|
[çiŋoːhoː ], [çigoːhoː ]
|
ヒコ゚\ーホー
ヒゴ\ーホー
|
ผิดกฎหมาย
|
非合理
|
higōri
|
/hi-/+/goːri/
|
[çiŋoːɾʲi], [çigoːɾʲi]
|
ヒコ゚\ーリ
ヒゴ\ーリ
|
ไม่สมเหตุสมผล
|
不合格
|
fugōkaku
|
/hu-/+/goːkaku/
|
[ɸɯŋoːkakɯ], [ɸɯgoːkakɯ]
|
フコ゚\ーカク
フゴ\ーカク
|
สอบตก
|
不合理
|
fugōri
|
/hu-/+/goːri/
|
[ɸɯŋoːɾʲi], [ɸɯgoːɾʲi]
|
フコ゚\ーリ
フゴ\ーリ
|
ไม่สมเหตุสมผล
|
- เลข "5" ไม่ออกเป็นเสียงขุ่นนาสิก ยกเว้นบางคำที่ความหมายของเลข "5" ได้เลือนรางไปแล้วจะออกเป็นเสียงขุ่นนาสิก
ภาษาญี่ปุ่น
|
ระบบเฮ็ปเบิร์น
|
ระดับหน่วยเสียง
|
เสียงโดยละเอียด
|
พจนานุกรมการออกเสียง
|
ความหมาย
|
十五人(15人)
|
jū-go-nin
|
/zyuːgoniN/
|
[d͡ʑɯːgoɲiɴː ]
|
ジュ\ー・ゴニ\ン
ジュ\ーゴニン
|
15 คน
|
百五十人(150人)
|
hyaku-go-jū-nin
|
/hyakugojuːniN/
|
[çakɯgoʑɯːɲiɴː]
|
ヒャクゴジュ\ーニン
|
150 คน
|
七五三
|
shichigosan
|
/sitigosaN/
|
[ɕi̥t͡ɕiŋosaɴː]
|
シチコ゚サン ̄
シチコ゚\サン
|
เทศกาลฉลองสำหรับเด็กอายุ 3 ขวบ 5 ขวบ และ 7 ขวบ
|
十五夜
|
jūgoya
|
/zyuːgoya/
|
[d͡ʑɯːŋoja]
|
ジューコ゚ヤ ̄
|
คืนเดือนเพ็ญ
|
- คำสัทพจน์ (คำเลียนเสียงและแสดงสภาพ) ที่ดูเป็นการซ้ำคำสองครั้งและมีเสียง /g/ ปรากฏต้นคำไม่ออกเป็นเสียงขุ่นนาสิก
ภาษาญี่ปุ่น
|
ระบบเฮ็ปเบิร์น
|
ระดับหน่วยเสียง
|
เสียงโดยละเอียด
|
พจนานุกรมการออกเสียง
|
ความหมาย
|
げらげら
|
geragera
(gera+gera)
|
/geragera/
|
[geɾageɾa]
|
ゲ\ラゲラ
|
คำแสดงเสียงหัวเราะเสียงดังโดยไม่สงวนท่าที
|
がんがん
|
gangan
(gan+gan)
|
/gaNgaN/
|
[gaŋːgaɴː]
|
ガ\ンガン
|
คำแสดงเสียงดังที่เกิดจากตีโลหะ ฯลฯ
|
ぎとぎと
|
gitogito
(gito+gito)
|
/gitogito/
|
[gʲitogʲito]
|
ギ\トギト
|
สภาพไขมันเยิ้ม
|
ส่วนคำสัทพจน์ที่ /g/ ไม่ได้ปรากฏต้นคำจะออกเป็นเสียงขุ่นนาสิก เช่น
ภาษาญี่ปุ่น
|
ระบบเฮ็ปเบิร์น
|
ระดับหน่วยเสียง
|
เสียงโดยละเอียด
|
พจนานุกรมการออกเสียง
|
ความหมาย
|
もぐもぐ
|
mogumogu
(mogu+mogu)
|
/mogumogu/
|
[moŋɯmoŋɯ]
|
モ\ク゚モク゚
|
(เคี้ยว) ตุ้ย ๆ
|
หมายเหตุ
- ↑ ส่วนเสียงขุ่นธรรมดา [g] ไม่ตรงกับเสียงใด ๆ ในภาษาไทย ผู้เรียนภาษาญี่ปุ่นชาวไทยมักแทนเสียงนี้ด้วย [g̊] หรือ [k] ซึ่งเป็นเสียงพยัญชนะ ก [2]
- ↑ ในภาษาถิ่นโทโฮกุ /g/ กลางคำออกเสียงเป็น [ŋ] และไม่สามารถออกเสียงเป็น [g] ได้ เพราะภาษาถิ่นโทโฮกุ /k/ กลางคำออกเสียงเป็น [g] เช่น /kaki/ "ลูกพลับ" ออกเสียงเป็น [kagi] และ /kagi/ "กุญแจ" ออกเสียงเป็น [kaŋi] กล่าวได้ว่าภาษาถิ่นโทโฮกุ [g] และ [ŋ] มีหน้าที่สำคัญในการแยกความหมายของคำ
- ↑ /g/ ที่ออกเสียงเป็น [ŋ] ในบางสภาพแวดล้อมถือเป็น "หน่วยเสียงย่อยตามเงื่อนไข" (conditional allophone, 条件異音) ส่วน /g/ ที่ออกเสียงเป็น [ŋ] หรือ [g] สลับไปมาได้อย่างอิสระถือเป็น "หน่วยเสียงย่อยแปรอิสระ" (free allophone, 自由異音)
- ↑ ประชากรกลุ่มนี้จะไม่ใช้เสียงขุ่นนาสิกเมื่อต้องออกเสียงอย่างระมัดระวัง เช่น การอ่านรายการคำศัพท์
- ↑ เร็นดากุ คือ ปรากฏการณ์ที่คำศัพท์สองคำเชื่อมต่อกันแล้วเสียงพยัญชนะตัวแรกของคำหลังเปลี่ยนจากเสียงไม่ก้องเป็นเสียงก้อง เช่น /ama-/+/kumo/ → /amagumo/ (เมฆฝน), /hana/+/hi/ → /hanabi/ (ดอกไม้ไฟ, พลุ)[14]
อ้างอิง
- ↑ ยุพกา ฟูกุชิม่า (2014). การออกเสียงภาษาญี่ปุ่น จากทฤษฎีสู่ปฏิบัติ(日本語の発音ー理解から実践へー). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. ISBN 978-616-556-144-0. OCLC 900808629.
- ↑ Kashima, Tanomu; 鹿島央 (2002). Nihongo kyōiku o mezasu hito no tame no kiso kara manabu onseigaku (Shohan ed.). Tōkyō: Surīē Nettowāku. ISBN 4-88319-231-8. OCLC 51080098.
- ↑ Yamaoka, Kanako; 山岡花菜子 (2020). Meikai Nihongogaku jiten (ภาษาญี่ปุ่น). Takurō Moriyama, Katsumi Shibuya, 卓郎 森山, 勝己 渋谷. Tōkyō. ISBN 978-4-385-13580-9. OCLC 1160201927.
- ↑ 国立国語研究所 [NINJAL], 『国語研教授が語る「濁る音の謎」 (1) 鼻濁音』 (ภาษาญี่ปุ่น), สืบค้นเมื่อ 2021-06-22
- ↑ 国立国語研究所 『日本言語地図』第1集 第1図 地図画像 (ภาษาญี่ปุ่น) สืบค้นเมื่อ 23 ธันวาคม 2564
- ↑ Takayama, Tomoaki (2015). "Historical Phonology". Handbook of Japanese phonetics and phonology. Haruo Kubozono. Boston. ISBN 978-1-61451-198-4. OCLC 905734789.
- ↑ 7.0 7.1 Vance, Timothy J. (2008). The sounds of Japanese. Cambridge, UK: Cambridge University Press. ISBN 978-0-521-61754-3. OCLC 227031753.
- ↑ 2012年4月19日ラジオ深夜便「くらしの中のことば」(当該部分の放送は20日0時台):国立国語研究所名誉所員 佐藤亮一による。
- ↑ "文化庁 | 国語施策・日本語教育 | 国語施策情報 | 第5期国語審議会 | 語形の「ゆれ」の問題". www.bunka.go.jp.
- ↑ "にほんごであそぼ 月の歌 - キッズワールド NHK Eテレ こどもポータル". www.nhk.or.jp. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-12-16. สืบค้นเมื่อ 2021-12-24.
- ↑ Akinaga, Kazue; 秋永一枝 (2014). Shin Meikai Nihongo akusento jiten (ภาษาญี่ปุ่น). Haruhiko Kindaichi, 金田一春彦 (Dai 2-han ed.). Tōkyō Chiyoda-ku. ISBN 978-4-385-13672-1. OCLC 874517214.
- ↑ Enueichikē nihongo hatsuon akusento shinjiten (ภาษาญี่ปุ่น). NHK Hōsō Bunka Kenkyūjo, 日本放送協会放送文化研究所. Tōkyō: Enueichikēshuppan. 2016. ISBN 978-4-14-011345-5. OCLC 950889281.
{{cite book}}
: CS1 maint: others (ลิงก์)
- ↑ "鼻濁音の位置づけと現況|NHK放送文化研究所". NHK放送文化研究所 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2021-06-24.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
- ↑ Suzuki, Yutaka; 鈴木豊 (2020). Meikai Nihongogaku jiten (ภาษาญี่ปุ่น). Takurō Moriyama, Katsumi Shibuya, 卓郎 森山, 勝己 渋谷. Tōkyō. ISBN 978-4-385-13580-9. OCLC 1160201927.
- ↑ Sanseidō Kokugo jiten (ภาษาญี่ปุ่น). Hidetoshi Kenbō, 見坊豪紀, Sanseidō, 三省堂 (Daishichihan ed.). Tōkyō. 2014. ISBN 978-4-385-13926-5. OCLC 881844599.
{{cite book}}
: CS1 maint: others (ลิงก์)
- ↑ Nihon kokugo daijiten (ภาษาญี่ปุ่น). Shōgakkan. Kokugo Jiten Henshūbu, 小学館. 国語辞典編集部. (Seisenban, shohan ed.). Tōkyō: Shōgakkan. 2006. ISBN 4-09-521021-4. OCLC 70216445.
{{cite book}}
: CS1 maint: others (ลิงก์)
- ↑ Daijirin (ภาษาญี่ปุ่น). Akira Matsumura, 松村明, Sanseidō. Henshūjo, 三省堂. 編修所. (Daishihan ed.). Tōkyō. 2019. ISBN 978-4-385-13906-7. OCLC 1117711467.
{{cite book}}
: CS1 maint: others (ลิงก์)