แกรนด์ดยุกกีโยมที่ 4 แห่งลักเซมเบิร์ก
แกรนด์ดยุกกีโยมที่ 4 แห่งลักเซมเบิร์ก (22 เมษายน พ.ศ. 2395 - 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2455) ทรงดำรงเป็นแกรนด์ดยุคผู้ปกครองแห่งราชรัฐลักเซมเบิร์กตั้งแต่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2448 จนกระทั่งสิ้นพระชนม์ เป็นพระบิดาของแกรนด์ดัชเชสมารี-อาเดลาอีดแห่งลักเซมเบิร์กและแกรนด์ดัชเชสชาร์ล็อตแห่งลักเซมเบิร์ก ทรงครองราชบัลลังก์สืบต่อจากแกรนด์ดยุกอดอล์ฟแห่งลักเซมเบิร์ก พระบิดา และพระองค์ทรงอ้างสิทธิในบรรดาศักดิ์ ดยุกแห่งนัสเซา[1] พระองค์ทรงเป็นแกรนด์ดยุกพระองค์สุดท้ายแห่งลักเซมเบิร์กที่สิ้นพระชนม์ขณะยังเป็นพระประมุข ช่วงต้นพระชนม์ชีพเจ้าชายวิลเฮ็ล์ม อาเล็คซานเดอร์ทรงประสูติในวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2395 ณ พระราชวังบรีบริช,วีสบาเดิน โดยเป็นพระราชโอรสพระองค์โตในดยุกอดอลฟ์แห่งนัสเซากับพระมเหสีพระองค์ที่สอง เจ้าหญิงอาเดิลไฮท์-มารีอาแห่งอันฮัลท์-เดสซู ตั้งแต่ประสูติพระองค์ทรงได้เป็นรัชทายาทแห่งนัสเซา พระราชบิดาของพระองค์ทรงสนับสนุนจักรวรรดิออสเตรียในสงครามออสเตรีย-ปรัสเซียปีพ.ศ. 2406 หลังจากจักรวรรดิออสเตรียพ่ายแพ้ในสงคราม นัสเซาได้ถูกผนวกเข้ากับราชอาณาจักรปรัสเซียและทำให้พระราชบิดาสูญเสียราชบัลลังก์ในวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2409 ในราชสำนักลักเซมเบิร์กในปีพ.ศ. 2422 พระญาติของพระองค์ซึ่งมีศักดิ์เป็นพระราชนัดดาของดยุกอดอลฟ์ พระราชบิดา คือ เจ้าหญิงเอ็มมาแห่งวัลเด็คและเพือร์ม็อนท์ได้อภิเษกสมรสกับสมเด็จพระเจ้าวิลเลิมที่ 3 แห่งเนเธอร์แลนด์ซึ่งทรงเป็นแกรนด์ดยุคแห่งลักเซมเบิร์กด้วย ในปีพ.ศ. 2433 พระเจ้าวิลเลิมที่ 3 แห่งเนเธอร์แลนด์เสด็จสวรรคต มีพระราชธิดาเพียงพระองค์เดียวได้สืบราชบัลลังก์เนเธอร์แลนด์เป็น สมเด็จพระราชินีนาถวิลเฮลมินาแห่งเนเธอร์แลนด์ เนื่องจากพระราชโอรสของพระองค์สิ้นพระชนม์ก่อนหน้านี้แล้ว พระนางวิลเฮลมินาทรงถูกตัดสิทธิ์ในราชบัลลังก์ลักเซมเบิร์กอันเนื่องมาจากกฎหมายแซลิกที่ไม่อนุญาตให้สตรีครองบัลลังก์ ราชรัฐซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเนเธอร์แลนด์ตั้งแต่พ.ศ. 2358 ได้ผ่านราชบัลลังก์ไปสู่พระราชบิดาของพระองค์ซึ่งได้ขึ้นครองราชย์เป็น แกรนด์ดยุกอดอลฟ์แห่งลักเซมเบิร์ก ด้วยข้อสัญญาราชสกุลนัสเซา นับได้ว่าแกรนด์ดยุคอดอล์ฟทรงมีศักดิ์เป็นพระญาติลำดับที่ 17 ของพระเจ้าวิลเลมที่ 3 แห่งเนเธอร์แลนด์ โดยสืบราชสกุลผ่านทางบุรุษ ที่ซึ่งมีความเกี่ยวพันที่ห่างกันมากที่สุดในประวัติศาสตร์ เจ้าชายวิลเฮ็ล์ม อาเล็คซานเดอร์ทรงได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นเจ้าชายกีโยม อาแล็กซ็องดร์ แกรนด์ดยุกรัชทายาทแห่งลักเซมเบิร์ก ครองราชย์ในวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2448 แกรนด์ดยุคอดอลฟ์สิ้นพระชนม์ แกรนด์ดยุกรัชทายาทกีโยม อาแล็กซ็องดร์ได้ครองราชบัลลังก์สืบต่อเป็น แกรนด์ดยุกกีโยมที่ 4 แห่งลักเซมเบิร์ก พระองค์ทรงเป็นโปรแตสแตนต์ และทรงอภิเษกสมรสตั้งแต่ก่อนครองราชย์ กับอิงฟังตามารีอา อานาแห่งโปรตุเกสพระราชธิดาในสมเด็จพระเจ้ามีแกลแห่งโปรตุเกสกับเจ้าหญิงอาเดิลไฮท์แห่งเลอเวินชไตน์-แวร์ทไฮม์-โรเซินแบร์คในวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2436 ณ ปราสาทฟิสช์ฮอร์น แซล อัม ซี ออสเตรีย พระองค์ทรงเชื่อว่าการอภิเษกสมรสกับพระราชธิดาจากประเทศโรมันคาทอลิกจะนำมาสู่การมีพระประมุขที่เป็นโรมันคาทอลิกด้วย โดยนับตั้งแต่หลังรัชสมัยแกรนด์ดยุกกีโยมที่ 4 พระประมุขทุกพระองค์ล้วนเป็นคาทอลิก หลังจากการสิ้นพระชนม์ของพระปิตุลา เจ้าชายนิโคเลาส์-วิลเฮล์มในปีพ.ศ. 2448 สายสกุลบุรุษองค์เดียวที่ถูกต้องตามกฎหมายของราชวงศ์นัสเซา-ไวล์บวร์กคือ พระญาติของแกรนด์ดยุกกีโยมที่ 4 เจ้าชายเกออร์ค นิโคเลาส์, เคานต์แห่งมาเรินแบร์ค ซึ่งเป็นพระโอรสจากการแต่งงานต่างฐานันดร ดังนั้นในพ.ศ. 2450 แกรนด์ดยุกกีโยมที่ 4 ทรงประกาศให้เคานต์แห่งมาเรินแบร์คไม่ใช่ราชนิกุล โดยทรงประกาศให้พระราชธิดาพระองค์โต เจ้าหญิงมารี-อาเดลาอีดขึ้นเป็นทายาทโดยสันนิษฐานแห่งราชบัลลังก์ของราชรัฐ สิ้นพระชนม์แกรนด์ดยุกกีโยมที่ 4 แห่งลักเซมเบิร์กสิ้นพระชนม์ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2455 ณ ปราสาทเบิร์ก ในเมืองคอลมาร์-เบิร์ก ประเทศลักเซมเบิร์ก สิริพระชนมายุ 59 พรรษา พระองค์ทรงเป็นแกรนด์ดยุกพระองค์สุดท้ายแห่งลักเซมเบิร์กที่สิ้นพระชนม์ขณะยังเป็นพระประมุข พระราชธิดาได้ขึ้นครองราชย์ต่อเป็น แกรนด์ดัชเชสมารี-อาเดลาอีดแห่งลักเซมเบิร์ก ภายใต้การสำเร็จราชการของพระนางมารี อาน พระชายาของพระองค์ และต่อมาแกรนด์ดัชเชสมารี-อาเดลาอีดทรงทำให้เกิดวิกฤตในการดำรงอยู่ของสถาบันประมุขแห่งรัฐลักเซมเบิร์ก และแกรนด์ดัชเชสชาร์ล็อตแห่งลักเซมเบิร์ก พระราชธิดาองค์รองของพระองค์ซึ่งจะได้ครองราชย์สืบต่อจากแกรนด์ดัชเชสมารี-อาเดลาอีด ทรงสามารถแก้ไขวิกฤตต่างๆที่เกิดขึ้นในสมัยพระเชษฐภคินีได้ พระอิศริยยศ
พระราชธิดาแกรนด์ดยุกวิลเลมที่ 4 แห่งลักเซมเบิร์กมีพระราชธิดาร่วมกับเจ้าหญิงมารี แอนน์แห่งโปรตุเกส 6 พระองค์ แต่ไม่มีพระราชโอรส พระราชธิดาได้แก่
พระราชตระกูลเชิงอรรถอ้างอิง
|