สมเด็จพระเจ้าอัลแบร์ที่ 1 แห่งเบลเยียม
ธรรมเนียมพระยศของ สมเด็จพระเจ้าอัลแบร์ที่ 1 แห่งเบลเยียม พระราชลัญจกร
ธงประจำพระอิสริยยศ
ตราประจำพระองค์
ธงประจำพระองค์
การทูล His Majesty(ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท) การแทนตน ข้าพระพุทธเจ้า การขานรับ Your Majesty (พระพุทธเจ้าข้า/เพคะ)
สมเด็จพระเจ้าอัลแบร์ที่ 1 (8 เมษายน ค.ศ. 1875 - 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1934) ทรงเป็นพระมหากษัตริย์แห่งชาวเบลเยียม ตั้งแต่ปีค.ศ. 1909 ถึงค.ศ. 1934 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศเบลเยียม เนื่องจากอยู่ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 (ค.ศ. 1914 - 1918) เมื่อประเทศเบลเยียม เกือบทั้งหมดถูกบุกรุก ยึดครอง และปกครองโดยจักรวรรดิเยอรมัน นอกจากนั้นยังมีอีกเหตุการณ์สำคัญอื่น ๆ คือ การร่วมลงนามในสนธิสัญญาแวร์ซาย , การปกครองเบลเยียมคองโกเป็นส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรเบลเยียม การปฏิรูปประเทศภายหลังสงคราม และภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (ค.ศ. 1929 - 1934) สมเด็จพระเจ้าอัลแบร์ที่ 1 เสด็จสวรรคตเนื่องจากทรงประสบอุบัติเหตุจากการปีนเขาในภาคตะวันออกของเบลเยียมในปีค.ศ. 1934 มีพระชนมพรรษา 58 พรรษา ราชสมบัติจึงตกเป็นของพระโอรสพระองค์ใหญ่ คือ เจ้าชายเลโอโปลด์
พระราชประวัติ
พระองค์ทรงมีพระนามเมื่อประสูติว่า อัลแบร์ เลโอโปลด์ เคลม็อง มารี ไมน์ราด (Albert Léopold Clément Marie Meinrad , เยอรมัน : Albrecht Leopold Clemens Marie Meinrad ประสูติ ณ กรุงบรัสเซลส์ ทรงเป็นพระโอรสลำดับที่ 2 ของเจ้าชายฟิลิป เคานต์แห่งแฟลนเดอส์ กับเจ้าหญิงมารีแห่งโฮเฮนซอลเลิร์น-ซิกมาริงเงิน ซึ่งพระราชบิดา (เจ้าชายฟิลิป ) นั้นทรงเป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 3 (พระองค์ที่ 2 ที่ยังทรงพระชนม์) ในพระเจ้าเลออปอลที่ 1 แห่งเบลเยียม กับสมเด็จพระราชินีหลุยส์-มารี พระราชบิดานั้นเป็นพระราชอนุชาของสมเด็จพระเจ้าเลออปอลที่ 2
ฝ่ายพระราชมารดา คือ เจ้าหญิงมารีแห่งโฮเฮนซอลเลิร์น-ซิกมาริงเงิน นั้นเป็นพระญาติสนิทของสมเด็จพระจักรพรรดิวิลเฮล์มที่ 2 แห่งเยอรมนี และยังเป็นสมาชิกของราชวงศ์โฮเฮนซอลเลิร์น สายโรมันคาทอลิก (ซึ่งมิได้ปกครองอาณาจักรใด ๆ) เจ้าชายอัลแบร์ ทรงเจริญพระชันษาในพระราชวังแห่งฟลานเดอร์ และทรงเป็นรัชทายาท อันดับที่ 4 แห่งการสืบสันตติวงศ์ แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อองค์รัชทายาทซึ่งมีสิทธิในราชบัลลังซึ่งเป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระราชปิตุลา สิ้นพระชนม์ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ และพระเชษฐาของพระองค์ คือ เจ้าชายโบดวงแห่งเบลเยียม ซึ่งได้เตรียมพระองค์ในการสืบราชสมบัติเป็นอย่างดี กลับสิ้นพระชนม์เมื่อทรงพระเยาว์เช่นกัน จึงทำให้พระองค์ทรงขยับขึ้นมาอยู่เป็นอันดับที่สองของการสืบราชสมบัติต่อจากสมเด็จพระราชบิดาเมื่อมีพระชนมายุเพียง 16 พรรษา
พระองค์ทรงตระเตรียมพระองค์เพื่อรับราชสมบัติเป็นอย่างดี ในสมัยที่ยังทรงพระเยาว์ เจ้าชายอัลแบร์ทรงห่วงใยในความเป็นอยู่ของราษฎรชั้นกรรมาชีพในเบลเยียม และเสด็จประพาสส่วนพระองค์ไปตามเขตอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยมิให้ราษฎรรู้ เพื่อทรงทราบถึงความเป็นอยู่ของราษฎร[ 1] และภายหลังก่อนที่จะเสวยราชสมบัติในปีค.ศ. 1909 ได้เสด็จประพาสเบลเยียมคองโก อย่างจริงจัง ซึ่งได้รวมดินแดนเข้ากับราชอาณาจักรในปีค.ศ. 1908 (ภายหลังจากการถูกครอบครองในฐานะราชสมบัติส่วนพระองค์โดยสมเด็จพระเจ้าเลโอโปลด์ที่ 2) ทรงพบเห็นว่าสภาพของดินแดนนั้นอยู่ในสภาพย่ำแย่ และเมื่อเสด็จนิวัติแล้ว ทรงให้จัดการปฏิรูปเพื่อปกป้องชาวพื้นเมืองคองโก และเพื่อพัฒนาอาณานิคมแห่งนี้ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นต่อไป[ 2]
พระองค์ทรงเป็นอัศวิน แห่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์การ์เตอร์ เป็นลำดับที่ 851 ในปีค.ศ. 1914 และอัศวิน แห่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์ขนแกะทองคำเป็นลำดับที่ 1,152
อภิเษกสมรส
พระองค์ทรงอภิเษกสมรสกับดัชเชสเอลิซาเบธ กาบรีเอล วาเลรี มารี แห่งบาวาเรีย เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ค.ศ. 1900 ที่มิวนิก พระคู่หมั้นนั้นคือเจ้าหญิงในราชวงศ์วิตเตลส์บาค ที่ทรงพบเป็นครั้งแรกในงานศพของครอบครัว ทรงเป็นพระธิดาของดยุกคาร์ล-ธีโอดอร์แห่งบาวาเรีย กับอินฟานตามาเรีย โจเซฟาแห่งโปรตุเกส พระองค์ประสูติที่ปราสาทโพสเซินโฮเฟิน ในรัฐบาวาเรีย เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ค.ศ. 1876 และสิ้นพระชนม์เมื่อ 23 พฤศจิกายน ค.ศ. 1965
จากพระราชสาสน์ที่ทรงตอบโต้กันในระหว่างช่วงทรงหมั้น (กล่าวถึงในบันทึกของพระราชธิดา คือ เจ้าหญิงมารี-โจเซ ว่าทรงรักใคร่ผูกพันกันมาก[ 3] และทั้งสองพระองค์ยังทรงสนับสนุนซึ่งกันและกันในบทบาทของทั้งสองพระองค์ในฐานะพระมหากษัตริย์และพระราชินี ทั้งสองพระองค์ทรงมีส่วนร่วมในการอุทิศพระวรกายให้แก่ประเทศชาติและประชาชนของพระองค์ ทั้งสองพระองค์ยังมีความสนพระทัยในด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ศิลปะ การดนตรี และปรัชญา ทำให้ราชสำนักของพระองค์ที่ลาเคินนั้นเป็นเหมือนดั่งศูนย์วัฒนธรรมอย่างกลาย ๆ[ 3] [ 4]
พระโอรส-ธิดา
ขึ้นครองราชย์
สมเด็จพระเจ้าอัลแบร์ที่ 1 และพระราชินี กับพระเจ้าฟูอัดที่ 1 แห่งอียิปต์ (เบื้องขวา)
จากการสวรรคตของพระราชปิตุลา สมเด็จพระเจ้าเลออปอลที่ 2 แห่งเบลเยียม พระองค์จึงเสวยราชสมบัติขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์แห่งชาวเบลเยียมในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1909 เนื่องจากพระราชบิดานั้นสิ้นพระชนม์ไปแล้วตั้งแต่ปีค.ศ. 1905 ในอดีตนั้น พระมหากษัตริย์เบลเยียมนั้นจะทรงกล่าวคำปฏิญาณเป็นภาษาฝรั่งเศส เท่านั้น แต่พระองค์ได้ตรัสเป็นภาษาดัตช์ ด้วย[ 1] พระองค์และพระราชินีนั้นเป็นที่รักใคร่ของราษฎรมากอันเนื่องมาจากความเป็นกันเองต่อพสกนิกร และความรักใคร่กลมเกลียวของทั้งสองพระองค์ ซึ่งล้วนแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับรัชกาลก่อน ซึ่งเข้มงวดทางพิธีรีตอง เผด็จการ และชีวิตส่วนตัวแบบลับ ๆ ของสมเด็จพระเจ้าเลโอโปลด์ที่ 2
การเปลี่ยนแปลงสำคัญช่วงต้นรัชกาล ได้แก่การริเริ่มการปฏิรูปการปกครองของเบลเยียมคองโก ซึ่งเป็นอาณานิคมเพียงแห่งเดียวของราชอาณาจักรเบลเยียม [ 5]
สงครามโลกครั้งที่ 1
ช่วงเริ่มต้นของสงคราม พระองค์ได้ทรงปฏิบัติตามคำร้องขอของสหราชอาณาจักร ที่ให้ปฏิเสธคำร้องขอของกองทัพเยอรมันในการเคลื่อนทัพผ่านเบลเยียมเพื่อเข้าโจมตีฝรั่งเศสซึ่งเป็นสัมพันธมิตรของอังกฤษในขณะนั้น ซึ่งฝ่ายเยอรมันได้คาดการณ์ไว้ว่าฝรั่งเศสจะประกาศสงครามกับเยอรมนีเพื่อสนับสนุนรัสเซีย (อังกฤษเป็นหนึ่งในชาติมหาอำนาจยุโรปในสมัยนั้นที่รับรองสถานะของการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดของเบลเยียมภายใต้สนธิสัญญาลอนดอน ค.ศ. 1839) ซึ่งพระองค์ได้ทรงตอบปฏิเสธคำร้องขอของฝ่ายเยอรมัน กองทัพเยอรมันจึงเปิดฉากบุกรุกเบลเยียม ซึ่งพระองค์ ในฐานะพระมหากษัตริย์มีพระราชอำนาจตามรัฐธรรมนูญของเบลเยียม เป็นจอมทัพของเบลเยียมและทรงกำกับดูแลเพื่อต้านกองกำลังของฝ่ายเยอรมันเป็นเวลานานพอให้กองทัพของอังกฤษและฝรั่งเศสเตรียมการสำหรับการรบในยุทธการแห่งมาร์น (6-9 กันยายน ค.ศ. 1914) พระองค์ทรงนำทัพผ่านการปิดล้อมเมืองแอนต์เวิร์ป และยุทธการแห่งอิแซร์ เมื่อกองทัพเบลเยียมถูกผลักดันให้ล่าถอยไปยังส่วนปลายที่สุดของดินแดน ซึ่งติดกับทะเลเหนือ ซึ่งเป็นสถานที่ที่กองทัพเบลเยียมได้รับการช่วยเหลือจากกองทัพไตรภาคี และทำสงครามเต็มรูปแบบในดินแดนแถบนี้กินเวลายาวนานถึงสี่ปี ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอัลแบร์ได้ทรงนำทัพและบัญชาการอยู่ที่แนวหน้าเคียงข้างกับกองทัพของพระองค์ ในขณะที่สมเด็จพระราชินีนั้นทรงดูแลงานพยาบาลอยู่ที่แนวหน้า นอกจากนี้พระองค์ยังทรงมีพระบรมราชานุญาตให้พระราชโอรส เจ้าชายเลโอโปลด์ พระชันษาเพียง 14 ปีเข้าเป็นพลทหารร่วมกับกองทัพเบลเยียมในขณะนั้น [ 2] [ 5]
สงครามครั้งนั้นได้นำพาเบลเยียมเข้าสู่ช่วงยากลำบาก ซึ่งเกิดขึ้นจากการถูกยึดครองโดยกองทัพเยอรมัน พระองค์ด้วยทรงเกรงถึงผลลัพธ์อันร้ายแรงของสงครามต่อเบลเยียมและยุโรป รวมถึงจำนวนผู้สูญเสียอันมากมาย จึงได้ทรงเจรจาทางการทูตกับฝ่ายเยอรมันอย่างลับๆ และตกลงกันในพื้นฐานว่า "ไม่มีผู้ใดชนะ และไม่มีผู้ใดพ่ายแพ้" (no victors, no vanquished) แต่อย่างไรก็ตามทั้งฝ่ายเยอรมัน และฝ่ายไตรภาคีไม่มีผู้ใดเห็นด้วยต่อข้อเสนอของพระองค์ พระองค์จึงไม่สามารถเจรจาสันติภาพต่อไปได้อีก ท่ามกลางสถานการณ์นี้ พระองค์อาจจะพิจารณาถึงการเจรจาสงบศึกกับเยอรมนี หากแลกกับการรับรองอิสรภาพของเบลเยียม และนำพาเบลเยียมออกจากสงครามได้อย่างเด็ดขาด แต่ทัศนคติของฝ่ายเยอรมันในขณะนั้นทำให้ตัวเลือกนี้ดูจะเป็นไปไม่ได้เสียเลย เนื่องจากกองทัพฝ่ายเยอรมันนั้นกำลังใช้เบลเยียม เป็นแรงกดดันฝ่ายไตรภาคี และดังนั้นจึงไม่มีความต้องการที่จะนำความสงบสุขมาสู่ภูมิภาคนี้ได้ และช่วงปลายของสงคราม ในฐานะของผู้บัญชาการกองกำลังฟลานเดอร์ ซึ่งเป็นกองกำลังผสมระหว่างทหารเบลเยียม อังกฤษ และฝรั่งเศส พระองค์ได้นำทัพอย่างกล้าหาญและพาชัยชนะเข้าปลดปล่อยประเทศเบลเยียมจากการยึดครองของกองทัพเยอรมันได้ พระองค์และพระราชินีเสด็จนิวัติกลับกรุงบรัสเซลส์ ด้วยการต้อนรับดั่งวีรบุรุษสงคราม
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
ในฐานะของประมุขแห่งพระราชวงศ์ ทรงเป็นองค์ประธานแห่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งเบลเยียม ได้แก่ Order of Leopold, Order of the African Star, Royal Order of the Lion, Order of the Crown และ Order of Leopold II
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ
พงศาวลี
พงศาวลีของสมเด็จพระเจ้าอัลแบร์ที่ 1 แห่งเบลเยียม
อ้างอิง
↑ 1.0 1.1 Carlo Bronne. Albert 1er: le roi sans terre.
↑ 2.0 2.1 Evelyn Graham. Albert, King of the Belgians.
↑ 3.0 3.1 Luciano Regolo. La regina incompresa: tutto il racconto della vita di Maria José di Savoia.
↑ Marie-José, Queen, Consort of Umberto II, King of Italy. Albert et Elisabeth de Belgique, mes parents.
↑ 5.0 5.1 Roger Keyes. Outrageous Fortune: The Tragedy of Leopold III of the Belgians.
↑ Belgian Army Royal Museum , Decorations of King Albert I เก็บถาวร 2016-03-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน , Afghanistan, Ordre d'Ustar [ลิงก์เสีย ]
↑ See List of Austrian Knights of the Golden Fleece (20th century)
↑ Belgian Army Royal Museum, Decorations of King Albert I, Bolivia, Ordre du Condor des Andes [ลิงก์เสีย ] - Ribbon bar เก็บถาวร 2016-03-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
↑ Belgian Army Royal Museum, Decorations of King Albert I, Chile, Ordre Al Merito เก็บถาวร 2016-03-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน - World Medals Index, Chile: Order of Merit
↑ Belgian Army Royal Museum, Decorations of King Albert I, Colombia, Ordre de Boyaca [ลิงก์เสีย ]
↑ Belgian Army Royal Museum, Decorations of King Albert I, Cuba, Ordre du Mérité "Carlos Manuel de Cespedes" เก็บถาวร 2016-03-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
↑ Belgian Army Royal Museum, Decorations of King Albert I, Czechoslovakia, Ordre du Lion Blanc เก็บถาวร 2016-03-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน - Croix de Guerre [ลิงก์เสีย ]
↑ Belgian Army Royal Museum, Decorations of King Albert I, Ecuador, Ordre Al Merito เก็บถาวร 2016-03-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน - World Medals Index, Ecuador: National Order of Merit
↑ Belgian Army Royal Museum, Decorations of King Albert I, Egypt, Ribbon bar เก็บถาวร 2016-03-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
↑ Belgian Army Royal Museum, Decorations of King Albert I, Ethiopia, Ordre du Sceau de Salomon เก็บถาวร 2016-03-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน - Ribbon bar เก็บถาวร 2013-01-15 ที่ archive.today
↑ 16.0 16.1 16.2 Belgian Army Royal Museum, Decorations of King Albert I, France, Ordre de la Légion d'Honneur เก็บถาวร 2016-03-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน - Médaille Militaire เก็บถาวร 2016-03-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน - Croix de Guerre เก็บถาวร 2016-03-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน - Ribbon bars เก็บถาวร 2013-01-15 ที่ archive.today of the 3 orders
↑ Belgian Army Royal Museum, Decorations of King Albert I, France (Algeria), Scarabée vert de Tabelbala เก็บถาวร 2016-03-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
↑ Belgian Army Royal Museum, Decorations of King Albert I, Italy, Croix du Mérite de Guerre [ลิงก์เสีย ] - Ribbon bar เก็บถาวร 2013-01-15 ที่ archive.today
↑ Belgian Army Royal Museum, Decorations of King Albert I, Japan, Ordre Suprême du Chrisanthème [ลิงก์เสีย ] - Ribbon bar เก็บถาวร 2013-01-15 ที่ archive.today
↑ Belgian Army Royal Museum, Decorations of King Albert I, Lithuania, Ordre de Vytis เก็บถาวร 2016-03-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
↑ Belgian Army Royal Museum, Decorations of King Albert I, Luxembourg, Ordre du Lion de la Maison de Nassau เก็บถาวร 2016-03-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน - Ribbon bar เก็บถาวร 2016-03-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
↑ Belgian Army Royal Museum, Decorations of King Albert I, Monaco, Ordre de Saint Charles เก็บถาวร 2016-03-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
↑ 23.0 23.1 Belgian Army Royal Museum, Decorations of King Albert I, Morocco, Ordre Ouissam Alaouite เก็บถาวร 2016-03-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (Ribbon bar เก็บถาวร 2013-01-15 ที่ archive.today ) - Ordre du Mérite Chérifien เก็บถาวร 2016-03-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
↑ Belgian Army Royal Museum, Decorations of King Albert I, Netherlands, Ordre du Lion Néerlandais [ลิงก์เสีย ] - Ribbon bar เก็บถาวร 2016-03-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
↑ Belgian Army Royal Museum, Decorations of King Albert I, Norway, Ordre de Saint-Olaf เก็บถาวร 2016-03-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
↑ Belgian Army Royal Museum, Decorations of King Albert I, Persia, Ordre de la Couronne de Perse [ลิงก์เสีย ] - Ribbon bar เก็บถาวร 2016-03-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
↑ Belgian Army Royal Museum, Decorations of King Albert I, Peru, Ribbon bar เก็บถาวร 2016-03-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
↑ Belgian Army Royal Museum, Decorations of King Albert I, Poland, Ordre Militaire "Virtuti Militari" เก็บถาวร 2010-08-31 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน - Ribbon bar เก็บถาวร 2013-01-15 ที่ archive.today
↑ Belgian Army Royal Museum , Decorations of King Albert I, Portugal, Ordre des trois Ordres Militaires réunis du Christ, Saint-Benoît d'Aviz et de Saint-Jacques et de l'Epée เก็บถาวร 2016-03-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
↑ Belgian Army Royal Museum, Decorations of King Albert I, Portugal, Ordre de la Tour et de l'Epée เก็บถาวร 2016-03-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
↑ 31.0 31.1 31.2 Belgian Army Royal Museum, Decorations of King Albert I, Romania, Ribbon bar เก็บถาวร 2016-03-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
↑ 32.0 32.1 Belgian Army Royal Museum, Decorations of King Albert I, Romania, Ordre Militaire de Michel le Brave [ลิงก์เสีย ] - Croix du Mérite Aéronautique [ลิงก์เสีย ]
↑ Belgian Army Royal Museum, Decorations of King Albert I, Russian Empire, Ordre Militaire de Saint Georges เก็บถาวร 2016-03-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
↑ 34.0 34.1 Belgian Army Royal Museum, Decorations of King Albert I, Serbia, Ordre de Karageorge avec Glaives เก็บถาวร 2016-03-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน - Ribbon bar เก็บถาวร 2016-03-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน - Médaille d'Or pour le Bravoure [ลิงก์เสีย ]
↑ The Royal Tourist—Kalakaua's Letters Home from Tokio to London. Editor: Richard A. Greer. Date: 10 March 1881
↑ Belgian Army Royal Museum, Decorations of King Albert I, Spain, Ordre de Charles III [ลิงก์เสีย ] - Ribbon bar เก็บถาวร 2016-03-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
↑ Belgian Army Royal Museum, Decorations of King Albert I, Sweden, Ordre des Séraphins เก็บถาวร 2016-03-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน - Ribbon bar เก็บถาวร 2013-01-15 ที่ archive.today
↑ 38.0 38.1 38.2 Belgian Army Royal Museum, Decorations of King Albert I, United Kingdom, Ordre Militaire du Bath เก็บถาวร 2016-03-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน - DFC [ลิงก์เสีย ] - Méd. du Couronnement d'Édouard VII [ลิงก์เสีย ]
↑ 39.0 39.1 39.2 Belgian Army Royal Museum, Decorations of King Albert I, United Kingdom, Ribbon bar เก็บถาวร 2016-03-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
↑ Belgian Army Royal Museum, Decorations of King Albert I, United States, Distinguished Service Medal เก็บถาวร 2015-01-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
↑ Belgian Army Royal Museum, Decorations of King Albert I, Venezuela, Ordre du Buste du Libérateur เก็บถาวร 2016-03-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน - Ribbon bar เก็บถาวร 2016-03-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
บรรณานุกรม
Galet, Emile Joseph. Albert King of the Belgians in the Great War (1931), detailed memoir by the military advisor to the King; covers 1912 to the end of October, 1914
Woodward, David. "King Albert in World War I" History Today (1975) 25#9 pp 638–43
Catherine Barjansky. Portraits with Backgrounds.
Mary Elizabeth Thomas, "Anglo-Belgian Military Relations and the Congo Question, 1911-1913," Journal of Modern History, Vol. 25, No. 2 (June 1953), pp. 157–165.
แหล่งข้อมูลอื่น
รุ่นที่ 1 รุ่นที่ 2 รุ่นที่ 3 รุ่นที่ 4 รุ่นที่ 5 รุ่นที่ 6 *สถาปนาเป็นเจ้าชายแห่งเบลเยียมเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ค.ศ. 1995 **สถาปนาเป็นเจ้าชายแห่งเบลเยียมเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ค.ศ. 1991
ต้นราชวงศ์ รุ่นที่ 1 รุ่นที่ 2
รุ่นที่ 3
รุ่นที่ 4
สหราชอาณาจักร โปรตุเกส Koháry บัลแกเรีย เบลเยียม
รุ่นที่ 5
สหราชอาณาจักร โปรตุเกส Koháry บัลแกเรีย เบลเยียม
รุ่นที่ 6
ดัชชี Koháry บัลแกเรีย เบลเยียม
รุ่นที่ 7
ดัชชี Koháry บัลแกเรีย
เจ้าชายบอริส †
Prince Beltrán†
Prince Tassilo†
Prince Mirko†
Prince Lukás†
Prince Tirso†
Prince Umberto†
เบลเยียม
รุ่นที่ 8
^เจ้าชายแห่งซัคเซิน-โคบวร์ค-ซาลเฟลด์ จนถึง ค.ศ. 1826 *ทรงเป็นเจ้าชายแห่งสหราชอาณาจักรด้วย #ทรงเป็นเจ้าชายแห่งเบลเยียมด้วย ¶ทรงเป็นสมาชิกพระราชวงศ์โปรตุเกสด้วย †ทรงเป็นสมาชิกพระราชวงศ์บัลแกเรียด้วย 1 ทรงเป็นสมาชิกพระราชวงศ์บราซิลด้วย