สฺวิน อี่
สฺวิน อี่ (จีน: 荀顗; พินอิน: Xún Yǐ; ต้นคริสต์ทศวรรษ 200 - 19 มิถุนายน ค.ศ. 274[b]) ชื่อรอง จิ่งเชี่ยน (จีน: 景倩; พินอิน: Jǐngqiàn) เป็นขุนนางของรัฐวุยก๊กในยุคสามก๊กของจีน หลังการล่มสลายของวุยก๊ก สฺวิน อี่ยังคงรับราชการต่อไปกับราชวงศ์จิ้นซึ่งแทนที่วุยก๊กในปี ค.ศ. 266 สฺวิน อี่เป็นบุตรชายคนที่ 6 ของซุนฮก (荀彧 สฺวิน ยฺวี่)[1] ภูมิหลังครอบครัวและประวัติช่วงต้นบ้านเกิดตามบรรพบุรุษของสฺวิน อี่คือในเมืองเองฉวน (穎川郡 อิ่งชฺวานจฺวิ้น; อยู่บริเวณนครสฺวี่ชาง มณฑลเหอหนานในปัจจุบัน) สฺวิน อี่เกิดในตระกูลตระกูลซุน (荀 สฺวิน) ซึ่งเป็นตระกูลทรงอิทธิพล โดยสฺวิน อี่เป็นบุตรชายคนที่ 6 ของซุนฮก (荀彧 สฺวิน ยฺวี่) รัฐบุรุษที่มีชื่อเสียงในช่วงปลายยุคราชวงศ์ฮั่นตะวันออกและเป็นที่ปรึกษาของขุนศึกโจโฉ เมื่อสฺวิน อี่อยู่ในวัยเยาว์ ตันกุ๋นผู้เป็นพี่เขย (ตันกุ๋นสมรสกับพี่สาวของสฺวิน อี่) ชื่นชมสฺวิน อี่อย่างมาก ก่อนสฺวิน อี่เข้าสู่วัยรุ่น ก็มีชื่อเสียงในเรื่องความกตัญญู ความรอบรู้ ความมองการณ์ไกล และความละเอียดรอบคอบ[3] รับราชการในวุยก๊กเนื่องจากความดีความชอบในอดีตของบิดา สฺวิน อี่จึงได้รับการแต่งตั้งเป็นนายทหารมหาดเล็ก (中郎 จงหลาง) ในรัฐวุยก๊ก เมื่อสุมาอี้เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์แห่งวุยก๊ก สุมาอี้เห็นว่าสฺวิน อี่เป็นผู้มีความสามารถที่หาได้ยากและครั้งหนึ่งเคยกล่าวว่า "บุตรชายของท่านหัวหน้าซุนเทียบได้กับยฺเหวียน ข่าน (袁侃) บุตรชายของเย่าชิง (曜卿)[c]"[4] ภายหลังสฺวิน อี่ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นเจ้าพนักงานทหารม้ามหาดเล็ก (散騎侍郎 ซ่านฉีชื่อหลาง) จากนั้นได้เป็นขุนนางมหาดเล็ก (侍中 ชื่อจง)[5] สฺวิน อี่เป็นพระอาจารย์ของโจฮองจักรพรรดิวุยก๊กลำดับที่ 3 สฺวิน อี่ยังได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกองทหารม้า (騎都尉 ฉีตูเว่ย์) และได้รับบรรดาศักดิ์ระดับกวนไล่เหา (關內侯 กวานเน่ย์โหว) สฺวิน อี่ศึกษาตำราอี้จิงกับจงโฮย และถกประเด็นทางปรัชญากับซือหม่า จฺวิ้น (司馬駿) ในเรื่องค่านิยมเหริน (仁; มนุษยธรรม) และเซี่ยว (孝; ความกตัญญู) ในลัทธิขงจื๊อ[6] ในช่วงที่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์โจซองกุมอำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 239 ถึง ค.ศ. 249[7] ขุนนางโฮอั๋นและคนอื่น ๆ ต้องการทำร้ายเปาต้าน แต่สฺวิน อี่ช่วยเปาต้านไว้ หลังผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สุมาสูปลดโจฮองและตั้งโจมอเป็นจักรพรรดิแห่งวุยก๊กในปี ค.ศ. 254[8] สฺวิน อี่แนะนำสุมาสูให้ใช้โอกาสนี้ในการประกาศการตั้งจักรพรรดิองค์ใหม่และคอยดูการตอบสนองของคู่แข่งทางการเมืองที่สำคัญ ในปีเดียวกันนั้น[8] ขุนพลบู๊ขิวเขียมและบุนขิมต่อต้านการเปลี่ยนจักรพรดิของสุมาสู และเริ่มก่อกบฏในอำเภอฉิวฉุน (壽春 โช่วชุน; อยู่บริเวณอำเภอโช่ว มณฑลอานฮุยในปัจจุบัน) สฺวิน อี่ช่วยเหลือสุมาสูในการปราบปรามกบฏ จากความดีความชอบนี้ สฺวิน อี่จึงได้รับบรรดาศักดิ์เป็นว่านซุ่ยถิงโหว (萬歲亭侯) และมีศักดินา 400 ครัวเรือน[9] หลังการเสียชีวิตของสุมาสูในปี ค.ศ. 255 สุมาเจียวน้องชายของสุมาสูขึ้นเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์คนใหม่[8] สฺวิน อี่ได้เลื่อนขึ้นเป็นราชเลขาธิการ (尚書 ช่างชู) ระหว่าง ค.ศ. 257 และ ค.ศ. 258[10] ในช่วงที่สุมาเจียวทำศึกปราบกบฏที่นำโดยจูกัดเอี๋ยน สุมาเจียวมอบหมายให้สฺวิน อี่อยู่รักษานครหลวงลกเอี๋ยง (洛陽 ลั่วหยาง) ระหว่างที่ตัวสุมาเจียวไม่อยู่ ในปี ค.ศ. 260[10] หลังต้านท่ายที่เป็นหลานน้าของสฺวิน อี่เสียชีวิต สฺวิน อี่ขึ้นสืบทอดตำแหน่งรองราชเลขาธิการ (僕射 ผูเช่อ) และรับผิดชอบกำกับกรมบุคคลากร หลังจากสฺวิน อี่รับช่วงกำกับกรม ก็ได้นำแนวทางที่เข้มงวดขึ้นมาใช้เพื่อให้มั่นใจว่ามีการคัดเลือกและแต่งตั้งขุนนางเข้ารับราชการอย่างรอบคอบ ในช่วงศักราชเสียนซี (咸熙; ค.ศ. 264-265) ในรัชสมัยของโจฮวนจักรพรรดิลำดับสุดท้ายของวุยก๊ก สฺวิน อี่ดำรงตำแหน่งเป็นเสนาบดีโยธาธิการ (司空 ซือคง) และได้เลื่อนบรรดาศักดิ์จากโหวระดับหมู่บ้านเป็นโหวระดับตำบล[11] สฺวิน อี่มีชื่อเสียงในเรื่องความกตัญญู ซึ่งยังคงรักษาคุณธรรมข้อนี้ไว้แม้จะมีอายุในวัยหกสิบปีแล้ว เมื่อมารดาของสฺวิน อี่เสียชีวิต สฺวิน อี่ลาออกจาตำแหน่งเพื่อไว้ทุกข์และแสดงความโศกเศร้าอย่างลึกซึ้งต่อการเสียชีวิตของมารดา สฺวิน อี่จึงได้รับการยกย่องจากคนร่วมสมัยจากเรื่องกตัญญู สุมาเจียวยังจัดหาทหารมาคุ้มกันในสฺวิน อี่เมื่อสฺวิน อี่เดินทางไปที่ไหน ๆ ในปี ค.ศ. 265[12] หลังรัฐวุยก๊กพิชิตจ๊กก๊กอันเป็นรัฐอริรัฐหนึ่งลงได้ วุยก๊กต้องการฟื้นฟูระบบบรรดาศักดิ์ห้าขั้น สฺวิน อี่จึงได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบกระบวนการดังกล่าว สฺวิน อี่เสนอต่อราชสำนักให้มอบหมายเอียวเก๋า, เริ่น ข่าย (任愷), เกิง จฺวิ้น (庚峻), อิง เจิน (應貞) และข่ง เฮ่า (孔顥) มาช่วยเหลือตน ทั้งหมดร่วมกันร่างชุดระเบียบและธรรมเนียมในการปกครอง สฺวิน อี่ยังได้เลือนบรรดาศักดิ์จากโหวระดับตำบลเป็นโหวระดับอำเภอในชื่อบรรดาศักดิ์ว่า "หลินหฺวายโหว" (臨淮侯)[13] รับราชการกับราชวงศ์จิ้นสฺวิน อี่รับราชการต่อไปกับราชสำนักราชวงศ์จิ้นซึ่งขึ้นมาแทนที่รัฐวุยก๊กในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 266[12] หลังจากสุมาเอี๋ยน (จักรพรรดิจิ้นอู่ตี้) ขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิลำดับแรกของราชวงศ์จิ้น พระองค์เลื่อนบรรดาศักดิ์ให้สฺวิน อี่จากโหวระดับอำเภอเป็นก๋ง (公 กง) ในชื่อบรรดาศักดิ์ว่า "หลินหฺวายกง" (臨淮公) มีศักดินา 1,800 ครัวเรือน สุมาเอี๋ยนยังทรงแต่งตั้งให้สฺวิน อี่เป็นเสนาบดีมหาดไทย (司徒 ซือถู) ภายหลังสฺวิน อี่ได้รับการแต่งตั้งเป็นขุนนางมหาดเล็ก (侍中 ชื่อจง) และเลื่อนขึ้นเป็นเสนาบดีกลาโหม (太尉 ไท่เว่ย์) รับผิดชอบดูแลการทหารและบังคับบัญชาทหารราชองครักษ์ 100 นาย ไม่นานหลังจากนั้นสฺวิน อี่ได้รับการแต่งตั้งเพิ่มเติมเป็นรักษาการราชครูของราชทายาท (太子太傅 ไท่จื่อไท่ฟู่)[14] สฺวิน อี่เสียชีวิตในปี ค.ศ. 274[15] ในช่วงศักราชไท่ฉื่อ (泰始; ค.ศ. 265–274) ในรัชสมัยของสุมาเอี๋ยน ก่อนที่สวิน อี่จะเสียชีวิต สวิน อี่ได้รับมอบหมายให้ประพันธ์ดนดรีสำหรับการเต้นรำ 2 บทเพลงคือ เจิ้งเต๋อ (正德) และ ต้า-ยฺวี่ (大豫) จักรพรรดิสุมาเอี๋ยนทรงจัดงานศพให้สฺวิน อี่อย่างยิ่งใหญ่ และมีรับสั่งให้รัชทายาทสุมาซอง (司馬衷 ซือหม่า จง) เสด็จไปเซ่นไหว้ในงานศพ พระองค์ยังพระราชทานสมัญญานามแก่สฺวิน อี่ว่า "คาง" (康) สฺวิน อี่จึงได้รับการเรียกอย่างเป็นทางการว่า "หลินหฺวายคางกง" (臨淮康公) สมาชิกในครอบครัวของสฺวิน อี่ได้รับเหรียญเงินสองล้านเหรียญเพื่อใช้สร้างบ้านเพราะสฺวิน อี่และครอบครัวไม่มีที่อยู่ถาวรขณะสฺวิน อี่ยังมีชีวิตอยู่ ในช่วงต้นศักราชเสียนหนิง (咸寧; ค.ศ. 275-280) ในรัชสมัยของสุมาเอี๋ยน จักรพรรดิสุมาเอี๋ยนทรงออกพระราชโองการเชิดชูเกียรติขุนนางผู้มีคุณงามความดีในการปฏิบัติราชการ สฺวิน อี่เป็นหนึ่งในขุนนางที่ได้รับการระบุชื่อในพระราชโองการ และได้รับการตั้งรูปเคารพในศาลบรรพกษัตริย์[16] สฺวิน อี่มีความคุ้นเคยกับกฎเกณฑ์ของมารยาทและความเหมาะสมเป็นอย่างดี ได้อ่านและเข้าใจเนื้อหาของหนังสือเช่น อี๋หลี่ (儀禮; "มารยาทและพิธีกรรม"), หลี่จี้ (禮記; "คัมภีร์พิธีกรรม") และโจวหลี่ ( 周禮; "พิธีกรรมราชวงศ์โจว") แม้ว่าอุปนิสัยทางศีลธรรมของสฺวิน อี่โดยทั่วไปถือว่าดี แต่อุปนิสัยก็มัวหมองไปเนื่องจากพฤติกรรมที่ประจบสอพลอ และการข้องเกี่ยวกับกาอุ้น (賈充 เจี่ยชง) และซุนโจย (荀勗 สฺวิน ซฺวี่) เมื่อรัชทายาทสุมาซองถึงวัยที่ควรสมรส สฺวิน อี่เสนอชื่อเจี่ย หนานเฟิง (賈南風) บุตรสาวของกาอุ้นให้เป็นพระชายาของรัชทายาท สฺวิน อี่จึงถูกคนอื่นดูถูกเพราะเรื่องนี้[17] การสืบทอดสฺวิน อี่เมื่อเสียชีวิตนั้นไม่มีบุตรชายจึงไม่มีใครสืบทอดบรรดาศักดิ์ถัดจากสฺวิน อี่ ในช่วงปลายคริสต์ทศวรรษ 380 สฺวิน ซฺวี่ (荀序) เหลนของหลานอาของสฺวินอี่ได้สืบทอดบรรดาศักดิ์ "หลินหฺวายกง" หลังสฺวิน ซฺวี่เสียชีวิต จักรพรรดิจิ้นเซี่ยวอู่ (ครองราชย์ ค.ศ. 372–396) ทรงแต่งตั้งให้สฺวิน เหิง (荀恆) บุตรชายของสฺวิน ซฺวี่เป็นหลินหฺวายกงคนใหม่ ภายหลังบรรดาศักดิ์สืบทอดไปถึงสฺวิน หลงฝู (荀龍符) บุตรชายของสฺวิน เหิง และสุดท้ายบรรดาศักดิ์ถูกยกเลิกในปี ค.ศ. 420[18] เมื่อหลิว ยฺวี่ (劉裕) โค่นล้มราชวงศ์จิ้นและก่อตั้งราชวงศ์หลิวซ่ง[19] ดูเพิ่มหมายเหตุ
อ้างอิง
บรรณานุกรม
|