อันวาร์ อิบราฮิม
ดาโต๊ะ ซรี อันวาร์ บิน อิบราฮิม (มลายู: Dato' Sri Anwar bin Ibrahim, ยาวี: انوار بن ابراهيم; เกิด 10 สิงหาคม พ.ศ. 2490) เป็นนักการเมืองชาวมาเลเซีย นายกรัฐมนตรีมาเลเซียคนปัจจุบัน เคยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีหลายกระทรวง ผู้นำฝ่ายค้าน ใน พ.ศ. 2542 เขาถูกตัดสินจำคุกหกปีด้วยข้อหาทุจริต และใน พ.ศ. 2543 ถูกตัดสินจำคุกอีกเก้าปีด้วยข้อหาร่วมเพศทางทวารหนัก ใน พ.ศ. 2547 ศาลสหพันธรัฐกลับการพิพากษาลงโทษที่สองและเขาได้รับการปล่อยตัว ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2551 เขาถูกจับกุมจากข้อกล่าวหาว่า เขาร่วมเพศกับเพื่อนร่วมงานชายคนหนึ่งทางทวารหนัก แต่ศาลพิพากษายกฟ้องในเดือนมกราคม พ.ศ. 2555[1] ต่อมา อัลวาร์เป็นบุคคลนำในฝ่ายค้านและช่วยรวมพรรคฝ่ายค้านเป็นปากาตันรักยัต ซึ่งลงสมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2551 และ 2556 ผู้นำฝ่ายค้านสมัยแรกที่การประชุมใหญ่สหองค์การมลายูแห่งชาติ มีการแจกจ่ายหนังสือ 50 Dalil Kenapa Anwar Tidak Boleh Jadi PM ("50 เหตุผลว่าทำไมอันวาร์จึงเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้") ซึ่งมีเนื้อหากล่าวหาชัดเจนเช่นเดียวกับกล่าวโทษอันวาร์ว่าฉ้อราษฎร์บังหลวง หนังสือนี้เขียนขึ้นโดย คาลิด จาฟรี อดีตบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์อูตูซานมาเลเซียซึ่งรัฐบาลควบคุม และอดีตบรรณาธิการฮาเรียนเนชันแนลที่ล้มเหลว อันวาร์ได้คำสั่งห้ามจากศาลมิให้จำหน่ายหนังสืออีกและดำเนินคดีต่อผู้เขียนในข้อหาหมิ่นประมาท ตำรวจแจ้งข้อหาตีพิมพ์ข่าวเท็จโดยเจตนาร้ายต่อผู้เขียนหนังสือ[2] ในบรรดาข้อกล่าวหาในหนังสือ หนึ่งในนั้นคือ อันวาร์เป็นพวกรักร่วมเพศ ตำรวจได้รับการชี้แจงให้สอบสวนความถูกต้องของการอ้างนี้ อันวาร์ถูกแจ้งข้อหาร่วมเพศทางทวารหนัก ถูกตัดสินโทษจำคุก 15 ปี ซึ่งซิดนีย์มอร์นิงแฮโรลเรียกว่า "การจัดฉากทางการเมืองอย่างโจ๋งครึ่ม"[3] ระหว่างการคุมขังของตำรวจใน พ.ศ. 2541 อันวาร์ถูกทุบตีโดย เราะฮิม นูร์ ซึ่งขณะนั้นเป็นจเรตำรวจ ภายหลังเราะฮิมถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงฐานทำร้ายร่างกายและถูกจำคุกสองเดือนใน พ.ศ. 2543 เขาขอโทษอย่างเป็นทางการต่ออันวาร์และจ่ายค่าเสียหายไม่ทราบจำนวน[4] ใน พ.ศ. 2542 อันวาร์แจ้งความดำเนินคดีต่อนายกรัฐมนตรีมหาเธร์ในข้อหาหมิ่นประมาทที่กล่าวหาว่าประพฤติผิดศีลธรรมและเรียกอันวาร์ว่าพวกรักร่วมเพศในการแถลงข่าวในมาเลเซีย[5] คำตัดสินนี้ถูกพลิกบางส่วนใน พ.ศ. 2547 เป็นผลให้อันวาร์ถูกปล่อยตัวจากเรือนจำ ผู้เขียนหนังสือดั้งเดิมเสียชีวิตใน พ.ศ. 2548 ด้วยภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน แต่ไม่ก่อนหน้าที่ศาลสูงจะพิพากษาว่าเขามีความผิดฐานหมิ่นประมาทและต้องจ่ายค่าชดเชยแก่อันวาร์หลายล้านริงกิต[6] ศาลสหพันธ์พิพากษาเมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2553 ว่า การที่มหาเธร์ปลดอันวาร์จากตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีของเขาชอบตามรัฐธรรมนูญและชอบด้วยกฎหมาย หมายความว่า อันวาร์ล้มเหลวในการต่อสู้คัดค้านการปลดเขาออกจากตำแหน่ง[7][8][9] ข้อกล่าวหาการร่วมเพศทางทวารหนักวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2551 เว็บท่าข่าวออนไลน์มาเลเซียกินีรายงานว่า ผู้ร่วมงานของอันวาร์ อิบราฮิมฟ้องรายงานตำรวจโดยอ้างว่า เขาถูกอันวาร์ร่วมเพศทางทวารหนัก[10] อันวาร์กล่าวว่า โทษจำคุกจากข้อหานี้ที่เป็นไปได้นั้นอาจถูกมองได้ว่าเป็นความพยายามปลดเขาจากตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านหลังเขาได้รับการสนับสนุนเพิ่มขึ้นและชัยชนะในการเลือกตั้งซ่อม เขายังยืนยันความบริสุทธิ์ของตนอีกและอ้างหลักฐานในแบบรายงานการแพทย์ด้วย[11] ศาลตัดสินยกฟ้องในวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2555 เกือบสองปีหลังการพิจารณาเริ่มขึ้น ซึ่งผู้พิพากษาเห็นว่าหลักฐานดีเอ็นเอที่อัยการส่งมานั้นเชื่อถือไม่ได้ และยกฟ้องอันวาร์[12] สองปีให้หลัง ศาลอุทธรณ์กลับคำตัดสินปล่อยตัวจำเลยเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2557 ทำให้อันวาร์ถูกตัดสินจำคุกห้าปี แต่ยังได้ประกันตัวระหว่างเขาอุทธรณ์คำตัดสินของคณะลูกขุน ฮิวแมนไรท์วอตช์และคณะกรรมการนักนิติศาสตร์ระหว่างประเทศกล่าวหารัฐบาลมาเลเซียว่าแทรกแซงในประเด็นตุลาการนี้[13] วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2558 ศาลกลางมาเลเซียสนับสนุนคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์และยืนยันโทษจำคุกห้าปี[14] อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่นวิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อที่เกี่ยวข้องกับ อันวาร์ อิบราฮิม |