เอฟเอคัพ ฤดูกาล 2019–20

2019–20 เอฟเอ คัพ

สมาคมฟุตบอลชาลเลนจ์คัพ
ประเทศ	อังกฤษ เกิร์นซีย์ เวลส์
วันที่แข่งขัน	10 สิงหาคม ค.ศ. 2019 – 23 พฤษภาคม ค.ศ. 2020
จำนวนทีม	735 ทีม (โดยรวม) 644 ทีม (การแข่งขันรอบคัดเลือก) 123 ทีม (การแข่งขันหลัก)
ชนะเลิศฤดูกาลที่แล้ว	แมนเชสเตอร์ซิตี
ชนะเลิศ	อาร์เซนอล (14th title)
รองชนะเลิศ	เชลซี
จำนวนนัด	156
จำนวนประตู	429 (2.75 ประตูต่อนัด)
ผู้ทำประตูสูงสุด	เจมส์ บอลล์ แฮร์รี มัคเคอร์ดี (คนละ 5 ประตู)
← 2018–19 2020–21 → (หมายเหตุ: สถิติทั้งหมดไม่ได้นับรวมรอบคัดเลือกรอบเพลย์ออฟ)

เอฟเอคัพ ฤดูกาล 2019–20 (หรือที่เรียกว่า เอฟเอแชลเลนจ์คัพ) เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งที่ 139 ของ เอฟเอคัพ ถ้วยหลักของการแข่งขันฟุตบอลในประเทศอังกฤษและการแข่งขันถ้วยน็อคเอาท์เก่าแก่ที่สุดในโลก. รายการนี้ได้รับการสนับสนุนจาก เอมิเรตส์, และเป็นที่รู้จักในชื่อของ เอมิเรตส์ เอฟเอ คัพ สำหรับวัตถุประสงค์ในการเป็นผู้สนับสนุน.

ทีมจาก พรีเมียร์ลีก แมนเชสเตอร์ซิตี เป็นแชมป์เก่าที่จะต้องป้องกันแชมป์.

รอบ	สโมสร ที่เหลืออยู่	สโมสร ที่เกี่ยวข้อง	ได้รับรางวัลจาก รอบที่ผ่านมา	รายการใหม่ รอบนี้	ลีกที่เข้ามาในรอบนี้
รอบแรก	123 ขั้นต้น 124	79 ขั้นต้น 80	32	47 ขั้นต้น 48[a]	23 ทีมจาก อีเอฟแอลลีกวัน 24 ทีมจาก อีเอฟแอลลีกทู
รอบสอง	84	40	40	ไม่มี	ไม่มี
รอบสาม	64	64	20	44	20 ทีมจาก พรีเมียร์ลีก 24 ทีมจาก อีเอฟแอลแชมเปียนชิป
รอบสี่	32	32	32	ไม่มี	ไม่มี
รอบห้า	16	16	16	ไม่มี	ไม่มี
รอบก่อนรองชนะเลิศ	8	8	8	ไม่มี	ไม่มี
รอบรองชนะเลิศ	4	4	4	ไม่มี	ไม่มี
รอบชิงชนะเลิศ	2	2	2	ไม่มี	ไม่มี

ระยะ	รอบ	วันที่จับสลาก	วันที่แข่งขัน	Ref.
รอบคัดเลือก	รอบเบื้องต้นพิเศษ	12 กรกฎาคม ค.ศ. 2019	10 สิงหาคม ค.ศ. 2019	[3]
	รอบเบื้องต้น		24 สิงหาคม ค.ศ. 2019
	รอบคัดเลือก รอบแรก	27 สิงหาคม ค.ศ. 2019	7 กันยายน ค.ศ. 2019
	รอบคัดเลือก รอบสอง	9 กันยายน ค.ศ. 2019	21 กันยายน ค.ศ. 2019
	รอบคัดเลือก รอบสาม	23 กันยายน ค.ศ. 2019	5 ตุลาคม ค.ศ. 2019
	รอบคัดเลือก รอบสี่	7 ตุลาคม ค.ศ. 2019	19 ตุลาคม ค.ศ. 2019
ทัวร์นาเมนต์หลัก	รอบแรก	21 ตุลาคม ค.ศ. 2019	9 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019
	รอบสอง	11 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019	30 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019
	รอบสาม	2 ธันวาคม ค.ศ. 2019	4 มกราคม ค.ศ. 2020
	รอบสี่	6 มกราคม ค.ศ. 2020	25 มกราคม ค.ศ. 2020
	รอบห้า	27 มกราคม ค.ศ. 2020	4 มีนาคม ค.ศ. 2020
	รอบก่อนรองชนะเลิศ	4 มีนาคม ค.ศ. 2020	21 มีนาคม ค.ศ. 2020
	รอบรองชนะเลิศ	22 มีนาคม ค.ศ. 2020	18 เมษายน ค.ศ. 2020
	รอบชิงชนะเลิศ		23 พฤษภาคม ค.ศ. 2020

ทั้งหมดของทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันนั้นคือทีมที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของ พรีเมียร์ลีก หรือ อิงกลิชฟุตบอลลีก มีเข้าแข่งขันในรอบคัดเลือกเพื่อรักษาหนึ่งจาก 32 ที่ว่างใน รอบแรก. การแข่งขันรอบคัดเลือกจะเริ่มต้นกับรอบเบื้องต้นพิเศษในวันที่ 10 สิงหาคม ค.ศ. 2019. รอบสี่และรอบคัดเลือกรอบสุดท้ายจะถูกเล่นในช่วงสุดสัปดาห์ของวันที่ 19 ตุลาคม ค.ศ. 2019.

การจับสลากสำหรับรอบแรกได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ค.ศ. 2019. 32 ทีมชนะเลิศที่มาจากการแข่งขันรอบคัดเลือกจะได้เข้าร่วมกับ 47 สโมสรที่มาจาก ลีกวัน และ ลีกทู ใน 39 คู่ที่ลงเล่นในสุดสัปดาห์ของวันที่ 9 พฤศจิกายน.

การจับสลากสำหรับรอบสองได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019. 39 ผู้ชนะของรอบแรกและผู้รับสิทธิ์บาย ชิชิสเตอร์ซิตี ลงเล่นใน 20 คู่ในรอบสองจะลงเล่นในสุดสัปดาห์ของวันที่ 30 พฤศจิกายน.^[6] รอบนี้ประกอบไปด้วยสองทีมที่มาจาก ระดับ 8, ชิชิสเตอร์ซิตี และ มัลดอน แอนด์ ทิปทรี, ผู้ที่เป็นทีมที่มีอันดับต่ำที่สุดที่ยังอยู่ในการแข่งขัน.

การจับสลากสำหรับรอบสามได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ค.ศ. 2019. 20 ผู้ชนะรอบสองได้เข้าร่วม โดยที่ 20 สโมสร พรีเมียร์ลีก และ 24 สโมสร อีเอฟแอลแชมเปียนชิป ใน 32 คู่ที่จะลงเล่นระหว่างสุดสัปดาห์ของวันที่ 4–6 มกราคม ค.ศ. 2020.^[7] รอบนี้ประกอบไปด้วยสองทีมที่มาจากระดับ 5, เอเอฟซี ฟีลเด และ ฮาร์ตลีพูลยูไนเต็ด, ผู้ที่เป็นทีมอันดับที่ต่ำที่สุดที่ยังอยู่ในการแข่งขัน.

ทั้งหมดสามสิบสองนัดจะลงเตะล่าช้ากว่าหนึ่งนาที เพื่อกระตุ้นให้แฟนบอลได้คิดเกี่ยวกับ สุขภาพจิต ของพวกเขา, และที่จะออกอากาศเป็นภาพยนตร์ ซึ่งบรรยายโดยประธานเอฟเอ เจ้าชายวิลเลียม เกี่ยวกับสุขภาพจิต.^[8]

การจับสลากได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 6 มกราคม ค.ศ. 2020, ก่อนหน้าแมตช์ อาร์เซนอล พบ ลีดส์ยูไนเต็ด.^[10] แต่ละคู่จะลงเล่นระหว่างวันที่ 24 และ 27 มกราคม ค.ศ. 2020. นอร์แทมป์ตันทาวน์ ของลีกทู (ระดับ 4) เป็นทีมอันดับต่ำที่สุดที่ได้รับการยืนยันที่จะเข้าร่วมการแข่งขันในรอบนี้.

การจับสลากสำหรับรอบห้าได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 มกราคม ค.ศ. 2020, ก่อนหน้าแมตช์รอบสี่ บอร์นมัท พบ อาร์เซนอล.^[11] แต่ละนัดจะลงเล่นในช่วงกลางสัปดาห์ของวันจันทร์ที่ 2 มีนาคม ค.ศ. 2020. โดยฤดูกาลนี้, การต่อเวลาพิเศษและการดวลลูกโทษตัดสินจะแทนที่ในนัดรีเพลย์เป็นวิธีการแก้ปัญหาในกรณีที่เสมอกัน.

ฝั่งทีมที่มีอันดับต่ำที่สุดที่ได้ลงเล่นอยู่ในรอบห้าจะเป็น พอร์ตสมัท ของลีกวัน (ระดับ 3).

การจับสลากสำหรับรอบก่อนรองชนะเลิศจะจัดขึ้นในวันที่ 4 มีนาคม ค.ศ. 2020.^[12] แต่ละคู่จะลงเล่นระหว่างวันที่ 21 และ 22 มีนาคม ค.ศ. 2020, ก่อนที่จะถูกเลื่อนการแข่งขันในวันที่ 13 มีนาคม ค.ศ. 2020 เนื่องจาก การระบาดทั่วของโควิด-19.^[13] โปรแกรมการแข่งขันได้ถูกปรับปรุงไปเป็นวันที่ 27 และ 28 มิถุนายน ค.ศ. 2020 เป็นไปตามการสิ้นสุดของการระงับการแข่งขัน.^[14] แต่ละคู่ทั้งหมดจะลงเล่นหลังประตูปิดแบบไร้ผู้ชม. ทีมจากพรีเมียร์ลีกเท่านั้นจะลงเล่นในรอบนี้, เป็นครั้งแรกมที่เป็นทีมจากพรีเมียร์ลีกทั้งหมดในรอบก่อนรองชนะเลิศนับตั้งแต่ 2005–06.

รอบรองชนะเลิศจะลงเล่นในวันที่ 18 และ 19 กรกฎาคม ค.ศ. 2020 และจะปรากฏบนช่อง บีที สปอร์ต และ บีบีซี สปอร์ต. เกมทั้งสองคู่มีกำหนดจะลงเล่นที่ สนามกีฬาเวมบลีย์, แต่สามารถเปลี่ยนไปเป็นสนามเป็นกลางที่แตกต่างได้. การจับสลากจะจัดขึ้นในช่วงพักครึ่งแรกของ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ซิตี แมตช์รอบก่อนรองชนะเลิศ และดำเนินการจับสลากโดย แอลัน เชียเรอร์.^[15][16]

เอฟเอคัพ รอบชิงชนะเลิศ 2020 ได้มีโปรแกรมการแข่งขันในวันที่ 1 สิงหาคม ค.ศ. 2020 และได้มีการถ่ายทอดสดปรากฏบนช่อง บีที สปอร์ต และ บีบีซี สปอร์ต. สนามกีฬาเวมบลีย์ จะเป็นเจ้าภาพเกมนัดนี้ตามปกติ.

อันดับ	ผู้เล่น	สโมสร	ประตู[19]
1	เจมส์ บอลล์	โซลีฮัลล์มัวร์ส	5
	แฮร์รี แมคเคอร์ดี	คาร์ไลล์ยูไนเต็ด
3	มิเกล อัลมิโรน	นิวคาสเซิลยูไนเต็ด	4
	ปีแยร์-แอเมอริก โอบาเมอย็องก์	อาร์เซนอล
	มักซิเม บิอามู	คอเวนทรีซิตี
	เนธาน เดลฟูเนโซ	แบล็กพูล
	มอร์แกน เฟอร์เรียร์	แทรนเมียร์โรเวอส์
	ทอม โปป	พอร์ตเวล
9	ปาเดร็ก อามอนด์	นิวพอร์ตเคาน์ตี	3
	รอสส์ บาร์กลีย์	เชลซี
	ทอม อีฟส์	ฮัลล์ซิตี
	อาดัม อิดาห์	นอริชซิตี
	โอดิออน อิกาโล	แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
	คีรอน มอร์ริส	แทรนเมียร์โรเวอส์
	จอช เมอร์ฟี	คาร์ดิฟฟ์ซิตี
	วาไดเน โอลิเวอร์	นอร์แทมป์ตันทาวน์
	ไมเคิล สมิธ	รอเทอรัมยูไนเต็ด
	นาธาน โทมัส	คาร์ไลล์ยูไนเต็ด
	จอร์แดน วิลเลียมส์	เอเอฟซี ฟีลเด