Share to:

 

ฟุตบอลทีมชาติเลบานอน

ฟุตบอลทีมชาติเลบานอน
ฉายาمنتخب الارز
The Cedars
สมาคมالاتحاد اللبناني لكرة القدم
สมาคมฟุตบอลเลบานอน
สมาพันธ์ย่อยสหพันธ์ฟุตบอลเอเชียตะวันตก (WAFF)
สมาพันธ์สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (AFC)
หัวหน้าผู้ฝึกสอนMiodrag Radulović
กัปตันHassan Maatouk
ติดทีมชาติสูงสุดAbbas Atwi (84)
ทำประตูสูงสุดRoda Antar (20)
สนามเหย้าCamille Chamoun Sports City Stadium
Saida International Stadium
รหัสฟีฟ่าLBN
อันดับฟีฟ่า
อันดับปัจจุบัน 117 เพิ่มขึ้น 3 (20 มิถุนายน 2024)[1]
อันดับสูงสุด82 (กุมภาพันธ์, เมษายน ค.ศ. 2018)
อันดับต่ำสุด178 (เมษายน – พฤษภาคม ค.ศ. 2011)
เกมระดับนานาชาติครั้งแรก
สหราชอาณาจักร Mandatory Palestine 5–1 เกรเตอร์เลบานอน
(เทลอาวีฟ Mandatory Palestine; 27 เมษายน ค.ศ. 1940)
ชนะสูงสุด
เลบานอน เลบานอน 11–1 ฟิลิปปินส์ ฟิลิปปินส์
(โตเกียว ญี่ปุ่น; 28 กันยายน ค.ศ. 1967)
แพ้สูงสุด
อิรัก 8–0 เลบานอน เลบานอน
(แบกแดด อิรัก; 25 พฤศจิกายน ค.ศ. 1959)
ธงชาติประเทศกาตาร์ กาตาร์ 8–0 เลบานอน เลบานอน
(โดฮา กาตาร์; 27 มีนาคม ค.ศ. 1985)
เอเชียนคัพ
เข้าร่วม3 (ครั้งแรกในปี 2000)
ผลงานดีที่สุดรอบแบ่งกลุ่ม (2000, 2019)

ฟุตบอลทีมชาติเลบานอน (อาหรับ: المنتخب اللبناني لكرة القدم; ฝรั่งเศส: Équipe du Liban de football) เป็นทีมฟุตบอลตัวแทนของประเทศเลบานอน[2] มีฉายาคือ "ต้นซีดาร์" อยู่ภายใต้การควบคุมของสมาคมฟุตบอลเลบานอน (LFA) ซึ่งเป็นสมาชิกของสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (AFC) และสหพันธ์ฟุตบอลเอเชียตะวันตก (WAFF) อันดับโลกฟีฟ่าที่สูงที่สุดคืออันดับที่ 85 ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1998 สนามเหย้าของเลบานอนคือสนามกีฬาคามิลล์ ชามูน สปอร์ตซิตี ในเบรุต และสนามกีฬานานาชาติไซดาในไซดอน เลบานอนไม่เคยผ่านรอบคัดเลือกของฟุตบอลโลก แต่เคยเป็นเจ้าภาพ เอเชียนคัพ 2000 ซึ่งพวกเขาจบด้วยอันดับสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม เลบานอนเข้าร่วมเอเชียนเกมส์หนึ่งครั้งในปี 1998 และถูกน็อคตกรอบที่สอง เลบานอนเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติเอเชียตะวันตกและอาหรับเนชันส์คัพเป็นประจำ โดยเคยเป็นเจ้าภาพอาหรับเนชันส์คัพ 1963 ซึ่งพวกเขาจบอันดับที่สาม และเคยจบอันดับที่สี่ในปี 1964 และ 1966 เลบานอนยังเคยจบอันดับที่สามในการแข่งขันแพนอาหรับเกมส์ปี 1957 และ 1997 และเคยจบอันดับที่สี่ในปี 1961

สนาม

สนามกีฬาคามิลล์ ชามูน สปอร์ตซิตี

สนามกีฬาคามิลล์ ชามูน สปอร์ตซิตี (อาหรับ: ملعب مدينة كميل شمعون الرياضية) มีพื้นที่ 47,700 ตารางเมตร ความจุ 48,837 ที่นั่ง[3] ตั้งอยู่ในย่าน Bir Hassan เมืองเบรุต ประเทศเลบานอน เป็นสนามกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ปัจจุบันใช้จัดการแข่งขันฟุตบอลและกรีฑา ก่อสร้างในปี ค.ศ. 1957 และสร้างใหม่ในปี ค.ศ. 1997 ในสภาพที่ต้านทานแผ่นดินไหวได้ ที่จอดรถรองรับได้ 2,590 คัน ในปี ค.ศ. 1998 สนามแห่งนี้ใช้จัดงานแพนอาหรับเกมส์ และในปี ค.ศ. 1999 ก็ใช้จัดงานฟุตบอลชิงแชมป์อาหรับ สนามแห่งนี้ยังเป็นสนามหลักในเอเชียนคัพ 2000 และเคยใช้จัดการแข่งขันแฟรงโคโฟนเกมส์ในปี ค.ศ. 2009

สนามกีฬานานาชาติไซดา

สนามกีฬานานาชาติไซดาในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2009

สนามกีฬานานาชาติไซดา (อาหรับ: إستاد صيدا الدولي) มีความจุ 22,600 ที่นั่ง ตั้งอยู่ที่เมืองไซดอน ประเทศเลบานอน โดยสนามแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อขยายพื้นที่ของสนามกีฬาเทศบาลไซดาแห่งเก่า และใช้จัดการแข่งขันเอเชียนคัพ 2000 ปกติแล้วสนามแห่งนี้ใช้จัดการแข่งขันฟุตบอลทั่วไปและกรีฑา สนามแห่งนี้ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเมือง และเป็นสนามที่ตั้งอยู่ใกล้กับทะเลมากที่สุดในโลก

สถิติการแข่งขัน

ฟุตบอลโลก

  • 1994 ถึง 2026 – ไม่ผ่านรอบคัดเลือก

เอเชียนคัพ

เอเชียนคัพ รอบคัดเลือก
ปี ผล อันดับ แข่ง ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย แข่ง ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย
ไทย 1972 ไม่ผ่านรอบคัดเลือก - - - - - - - 5 2 0 3 6 10
อิหร่าน 1976 ถอนตัว - - - - - - - - - - - - -
คูเวต 1980 ไม่ผ่านรอบคัดเลือก - - - - - - - 3 1 1 1 2 1
สิงคโปร์ 1984 ถอนตัว - - - - - - - - - - - - -
ประเทศกาตาร์ 1988 ถอนตัว - - - - - - - - - - - - -
ญี่ปุ่น 1992 ถอนตัว - - - - - - - - - - - - -
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1996 ไม่ผ่านรอบคัดเลือก - - - - - - - 4 2 1 1 7 6
เลบานอน 2000 รอบแบ่งกลุ่ม 10 3 0 2 1 3 7 - - - - - -
จีน 2004 ไม่ผ่านรอบคัดเลือก - - - - - - - 6 1 1 4 2 8
อินโดนีเซียมาเลเซียไทยเวียดนาม 2007 ถอนตัว - - - - - - - - - - - - -
ประเทศกาตาร์ 2011 ไม่ผ่านรอบคัดเลือก - - - - - - - 6 0 1 5 2 13
ออสเตรเลีย 2015 ไม่ผ่านรอบคัดเลือก - - - - - - - 6 2 2 2 12 14
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2019 รอบแบ่งกลุ่ม 17 3 1 0 2 4 5 10 5 2 3 16 7
ประเทศกาตาร์ 2023 รอบแบ่งกลุ่ม 3 0 1 2 1 5 6 3 1 2 11 8
ทั้งหมด รอบแบ่งกลุ่ม 10 9 1 3 5 8 17 50 20 10 20 72 68

ผลงานอื่น ๆ

อ้างอิง

  1. "The FIFA/Coca-Cola World Ranking". FIFA. 20 มิถุนายน 2024. สืบค้นเมื่อ 20 มิถุนายน 2024.
  2. Montague, James (28 February 2012). "In Lebanon, National Soccer Team Helps Bring Country Together". สืบค้นเมื่อ 23 May 2017 – โดยทาง NYTimes.com.
  3. "History of Camille Chamoun Sports City Stadium". Camille Chamoun Sports City. 29 September 2009. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-10-14. สืบค้นเมื่อ 14 October 2017.

แหล่งข้อมูลอื่น

Kembali kehalaman sebelumnya