โตเกียว
โตเกียว (ญี่ปุ่น: 東京; โรมาจิ: Tōkyō; ทับศัพท์: โทเกียว) หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า มหานครโตเกียว (ญี่ปุ่น: 東京都; โรมาจิ: Tōkyō-to; ทับศัพท์: โทเกียว-โตะ; อังกฤษ: Tokyo Metropolis) เป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น มีระบบการปกครองแบบพิเศษซึ่งรวมการปกครองในรูปแบบจังหวัดและเทศบาลนครไว้ด้วยกัน ทั้งนี้ เขตอภิมหานครโตเกียวจัดว่าเป็นเขตเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยหากนับรวมประชากรทั้งหมดในเขตอภิมหานครโตเกียวแล้วจะมีประชากรมากถึง 41 ล้านคน (ค.ศ. 2024) [8] โดยอาศัยในเขตเมืองประมาณ 14 ล้านคน[9] ถือเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลกเมืองหนึ่ง โตเกียวตั้งอยู่บริเวณภูมิภาคคันโต คำว่า "โตเกียว" หมายถึง "นครหลวงตะวันออก" โตเกียวได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน "สี่นครเอกของโลก" ร่วมกับลอนดอน ปารีส และนิวยอร์ก ได้รับการจัดอันดับตามดัชนีชี้ความน่าอยู่ทั่วโลก (Global Liveability Index) ให้เป็น 1 ใน 4 เมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกใน ค.ศ. 2021 เดิมทีโตเกียวเป็นหมู่บ้านชาวประมงซึ่งรู้จักกันในชื่อ "เอโดะ" กระทั่งเมืองนี้ได้กลายเป็นศูนย์กลางทางการเมืองในช่วงประมาณ ค.ศ. 1603 ในรัฐบาลเอโดะ และได้กลายเป็นหนึ่งในเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลกในช่วงกลางศตวรรษที่ 18 ด้วยประชากรมากกว่าหนึ่งล้านคน ภายหลังจากการฟื้นฟูเมจิ เมืองหลวงของจักรวรรดิญี่ปุ่นอย่างเกียวโตได้ถูกย้ายมาที่เอโดะ และได้รับการเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "โตเกียว" ซึ่งต่อมาทั้งเมืองได้รับผลกระทบรุนแรงจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่คันโต ค.ศ. 1923 ตามด้วยการทิ้งระเบิดโตเกียว ก่อนจะได้รับการบูรณะอย่างรวดเร็วในช่วงทศวรรษ 1950 หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง นำไปสู่ยุค “ความมหัศจรรย์ของเศรษฐกิจญี่ปุ่น” ในทศวรรษ 1960 และนับตั้งแต่ ค.ศ. 1943 ได้มีการจัดตั้งมหานครโตเกียวขึ้นเป็นเขตปกครองรูปแบบพิเศษ และมีการแบ่งนครโตเกียวออกเป็น 23 เขต ซึ่งรวมถึงกลุ่มเกาะบริเวณนอกเขตเมืองอีกสองแห่งซึ่งเรียกว่า หมู่เกาะโตเกียว โตเกียวได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยวัดตามผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ โดยผลผลิตมวลรวมอยู่ที่ 113.7 ล้านล้านเยนหรือ 1.04 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปีงบประมาณ 2021 และคิดเป็น 20.7% ของผลผลิตทางเศรษฐกิจทั้งหมดของประเทศ ซึ่งคิดเป็นมูลค่ากว่า 8.07 ล้านเยนหรือ 73,820 ดอลลาร์สหรัฐต่อหัว[10] โตเกียวถูกจัดอยู่ในประเภทเมืองอัลฟ่าพลัส (เมืองระดับโลก) ตามเครือข่ายการวิจัยโลกาภิวัตน์และเมืองโลก โตเกียวยังถือเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดของประเทศ โดยเป็นส่วนหนึ่งของเขตอุตสาหกรรมหลักในภูมิภาคควบคู่ไปกับโยโกฮามะ คาวาซากิ และชิบะ เมืองนี้ยังเป็นที่ตั้งของบริษัทระดับโลกจำนวน 29 แห่งโดยฟอร์จูนโกลบอล 500 (บริษัทชั้นนำ 500 อันดับแรกของโลก)[11] และใน ค.ศ. 2020 โตเกียวได้รับการจัดอันดับอยู่ในอันดับสี่ตามความสามารถในการแข่งขันด้านการเงิน เป็นรองเพียงนิวยอร์ก ลอนดอน และเซี่ยงไฮ้ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียวยังเป็นหนึ่งในตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดประมาณ 1.5 เท่าของ ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก[12] แม้ความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นจะลดลงในช่วงทศวรรษที่สาบสูญ โตเกียวเป็นหนึ่งในเมืองที่มีระบบการขนส่งสาธารณะที่ทันสมัยที่สุดในโลก[13][14] โตเกียวเมโทรสายกินซะเปิดให้บริการใน ค.ศ. 1927 ในปัจจุบันถือเป็นเส้นทางรถไฟใต้ดินที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออก[15] สถานีรถไฟโตเกียวยังเป็นสถานีรถไฟหลักของภูมิภาค และเป็นหนึ่งในสถานีสำคัญของประเทศ ให้บริการเครือข่ายรถไฟความเร็วสูงที่รู้จักกันในชื่อ ชิงกันเซ็ง นอกจากนี้ สถานีสำคัญอย่าง สถานีรถไฟชินจูกุ ถือเป็นหนึ่งในสถานีที่มีผู้ใช้บริการมากติดอันดับโลกในแต่ละวัน โตเกียวยังเป็นที่ตั้งของท่าอากาศยานนานาชาติโตเกียว ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นท่าอากาศยานภายในประเทศที่ดีที่สุดในโลกใน ค.ศ. 2020[16] โตเกียวเคยเป็นเจ้าภาพเหตุการณ์ระดับโลกหลายครั้ง ได้แก่ กีฬาโอลิมปิกปี 1964 และ 2020, พาราลิมปิกฤดูร้อน 1964 และ 2020 รวมถึงเป็นสถานที่จัดการประชุมสุดยอดกลุ่ม 7 จำนวนสามครั้ง (ค.ศ. 1979, 1986 และ 1993) โตเกียวยังเป็นศูนย์การทางด้านการวิจัยและการพัฒนาของประเทศ และเป็นที่ตั้งของสถานศึกษาที่มีชื่อเสียง รวมถึงมหาวิทยาลัยโตเกียว เขตพิเศษอื่น ๆ ที่มีชื่อเสียงในโตเกียวได้แก่ เขตชิโยดะ เป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญระดับประเทศสองแห่ง ได้แก่ พระราชวังหลวงของสมเด็จพระจักรพรรดิ และอาคารรัฐสภาญี่ปุ่น, เขตชินจูกุ ซึ่งเป็นหนึ่งในเขตเศรษฐกิจที่สำคัญ และเขตชิบูยะ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งศูนย์รวมด้านวัฒนธรรม การค้า และธุรกิจ โตเกียวมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญหลายแห่ง เช่น โตเกียวดิสนีย์แลนด์, เซ็นโซจิ, ศาลเจ้าเมจิ, สวนฮามาริกีว, และโตเกียวทาวเวอร์ และยังเป็นที่ตั้งของโตเกียวสกายทรี สิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น[17] รวมถึง "เส้นทางระบายน้ำเขตรอบนอกเมืองหลวง" หรือ "อุโมงค์ยักษ์คัสสึคาเบะ" ซึ่งใช้รับมือเหตุอุทกภัย[18] โตเกียวยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองที่ปลอดภัยที่สุดในโลกจากการสำรวจในระดับนานาชาติหลายครั้ง[19][20] ชื่อเมือง
โตเกียวเคยถูกเรียกว่า "เอโดะ" (ญี่ปุ่น: 江戸; โรมาจิ: Edo) ซึ่งแปลว่า "ปากน้ำ"[21] ชื่อนี้มาจากที่ตั้งเริ่มแรกของชุมชนตรงบริเวณที่แม่น้ำซูมิดะไหลสู่อ่าวโตเกียว เมื่อกลายเป็นเมืองหลวงของจักรพรรดิในช่วงการฟื้นฟูเมจิใน ค.ศ. 1868 ก็เปลี่ยนชื่อเป็นโตเกียว แปลว่า "กรุงตะวันออก" (東 โท "ตะวันออก" และ 京 เกียว "กรุง") สอดคล้องกับเมืองหลวงต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกในการรวมคำที่แสดงถึงเมืองหลวง (京) ไว้ในชื่อของเมือง ตัวอย่างเช่น เกียวโต (京都), เคโจ (京城), ปักกิ่ง (北京), หนานจิง (南京), และซีจิง (西京)[21] ในตอนต้นยุคเมจิ บางครั้งเรียกโตเกียวว่า "โทเก"[22] ซึ่งเป็นวิธีอ่านอีกแบบของตัวคันจิ แต่ปัจจุบันเลิกใช้แล้ว[23] ประวัติศาสตร์ก่อน ค.ศ. 1869 (ยุคเอโดะ)โตเกียวแต่เดิมเป็นหมู่บ้านประมงเล็ก ๆ ที่ชื่อเอโดะ ต่อมาใน ค.ศ. 1457 ปราสาทเอโดะได้ถูกสร้างขึ้น และต่อมาในปีทศวรรษที่ 1590 เป็นยุคที่โทกูงาวะ อิเอยาซุได้เริ่มปราบหัวเมืองต่าง ๆ ซึ่งภายหลังจากปราบหัวเมืองต่าง ๆ ลงได้อย่างราบคาบแล้วใน ค.ศ. 1603 เขาได้สถาปนารัฐบาลโชกุนขึ้นปกครองประเทศ โดยมีเอโดะเป็นที่ตั้งของ "บากูฟุ" (รัฐบาลทหาร) และสถาปนาตนขึ้นเป็นโชกุน เมืองเอโดะจึงได้กลายเป็นศูนย์กลางของรัฐบาลทหารของเขาซึ่งมีอำนาจปกครองทั้งประเทศ ในช่วงเวลาต่อมาในยุคเอโดะ เมืองเอโดะก็ขยายตัวขึ้นจนกลายเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเมืองหนึ่งในโลก โดยมีประชากรมากกว่า 1 ล้านคนใน คริสต์ศตวรรษที่ 18[24] และเป็นที่ยอมรับว่าเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น[25] แม้ว่าองค์จักรพรรดิประทับอยู่ในนครหลวงเฮอังเกียว (เกียวโต)
ค.ศ. 1869–1943เอโดะได้เปลี่ยนชื่อเป็นโตเกียว (เมืองหลวงตะวันออก) เมื่อ ค.ศ. 1868 หลังจากการล่มสลายของระบอบปกครองภายใต้โชกุนเอโดะและรวบรวมอำนาจคืนสู่จักรพรรดิ จักรพรรดิเมจิผู้ทรงพระเยาว์เคยเสด็จเยือนโตเกียวครั้งหนึ่งในช่วงปลาย ค.ศ. 1868 และในที่สุดก็เสด็จย้ายเข้ามาประทับใน ค.ศ. 1869 โดยก่อนหน้านี้โตเกียวเป็นศูนย์กลางทางการเมืองของประเทศอยู่แล้ว[26] แต่การที่จักรพรรดิทรงย้ายมาประทับจึงทำให้โตเกียวกลายเป็นเมืองหลวงของจักรพรรดิโดยพฤตินัยด้วย โดยที่ปราสาทเอโดะเดิมได้เปลี่ยนเป็นพระราชวังหลวงโตเกียว ในยุคเมจิ โตเกียวมีการพัฒนาโดยได้รับอิทธิพลจากตะวันตก เช่น การเปิดบริการโทรเลขระหว่างโตเกียวกับโยโกฮามะใน ค.ศ. 1869 และการเปิดบริการรถไฟสายแรกระหว่างชิมบาชิกับโยโกฮามะใน ค.ศ. 1872[26] ต่อมาได้มีการจัดตั้งเทศบาลนครโตเกียวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ. 1889 โตเกียวเมโทรสายกินซะช่วงระหว่างอูเอโนะถึงอาซากูซะเป็นรถไฟใต้ดินสายแรกที่สร้างขึ้นในญี่ปุ่นและเอเชียตะวันออก ซึ่งสร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม ค.ศ. 1927[27] ในคริสต์ศตวรรษที่ 20 โตเกียวประสบภัยพิบัติใหญ่สองครั้ง ได้แก่ ในเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่คันโต ค.ศ. 1923 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตหรือสูญหาย 140,000 คน และในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง[28]
ค.ศ. 1943–1945ใน ค.ศ. 1943 เทศบาลนครโตเกียวได้ควบรวมเข้ากับจังหวัดโตเกียวเพื่อจัดตั้งเป็น "มหานครโตเกียว" (ญี่ปุ่น: 東京都; โรมาจิ: Tōkyō-to) นับตั้งแต่นั้นมา องค์การปกครองมหานครโตเกียวก็ทำหน้าที่เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ครอบคลุมทั้งจังหวัดโตเกียวเดิม โดยครอบคลุมในส่วนของเขตพิเศษของโตเกียวที่เคยเป็นพื้นที่ของเทศบาลนครโตเกียวมาก่อนด้วย สงครามโลกครั้งที่สองทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ของโตเกียวถูกทำลายอย่างกว้างขวาง เนื่องมาจากการโจมตีทางอากาศและการใช้อาวุธเพลิงของฝ่ายสัมพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง เหตุการณ์การทิ้งระเบิดที่โตเกียวใน ค.ศ. 1944 และ 1945 คาดว่าได้คร่าชีวิตพลเรือนไปเป็นจำนวนระหว่าง 75,000 ถึง 200,000 ราย และทำให้ตัวเมืองมากกว่าครึ่งถูกทำลาย[29] ในคืนวันที่ 9–10 มีนาคม ค.ศ. 1945 มีการจู่โจมของอเมริกาที่ชื่อว่า "ปฏิบัติการมีตติงเฮาส์" (Operation Meetinghouse)[30] ระเบิดเพลิงเกือบ 700,000 ลูกตกลงมายังฝั่งตะวันออกของเมือง ส่วนใหญ่ตกในพื้นที่ที่อยู่อาศัยหนาแน่น พื้นที่สองในห้าของเมืองถูกเผาทั้งหมด อาคารมากกว่า 276,000 หลังถูกทำลาย พลเรือน 100,000 รายเสียชีวิต และบาดเจ็บอีก 110,000 ราย[31][32] ระหว่าง ค.ศ. 1940 ถึง 1945 ประชากรในโตเกียวลดลงจาก 6,700,000 คน เหลือน้อยกว่า 2,800,000 คน ผู้คนส่วนใหญ่ที่สูญเสียบ้านต้องอาศัยอยู่ในกระท่อมชั่วคราวที่ชำรุดทรุดโทรม[33]
ภูมิศาสตร์โตเกียวตั้งอยู่ในที่ราบคันโตติดกับอ่าวโตเกียว มีขนาดประมาณ 90 กม. จากตะวันออกถึงตะวันตก และ 25 กม. จากเหนือถึงใต้ ทิศตะวันออกติดกับจังหวัดชิบะ ทิศตะวันตกติดกับจังหวัดยามานาชิ ทิศใต้ติดกับจังหวัดคานางาวะ และทิศเหนือติดกับจังหวัดไซตามะ เขตการปกครองของโตเกียวนั้นรวมไปถึงหมู่เกาะอิซุและหมู่เกาะโองาซาวาระด้วย จึงทำให้โตเกียวมีจุดที่อยู่ใต้สุดและตะวันออกสุดของญี่ปุ่นอยู่ในพื้นที่ด้วย ทางตะวันออกของโตเกียวเป็นที่ราบตะกอนน้ำพาเช่นบริเวณปากแม่น้ำซูมิดะและแม่น้ำเอโดะ พื้นดินค่อนข้างอ่อนจึงทำให้เกิดการทรุดตัวของพื้นดิน[34] อ่าวโตเกียวถูกถมที่เพื่อสร้างพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ยุคเอโดะ[35] และเริ่มมีการถมที่เพื่อสร้างสถานที่กำจัดขยะตั้งแต่ปี 1927[36] ปัจจุบันพื้นที่ประมาณร้อยละ 20 ของอ่าวโตเกียวกลายเป็นพื้นที่ถูกถม[37] ในอำเภอนิชิตามะทางตะวันตกเป็นที่สูง โดยมีเขาคูโมโตริซึ่งมีความสูง 2,017 ม. เป็นจุดที่สูงที่สุดในโตเกียว โตเกียวตั้งอยู่บนรอยเลื่อนที่มีพลังซึ่งอยู่ใกล้ผิวโลกมาก จึงมีการคาดการณ์ว่าอาจจะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขึ้น[38] ทั้งหมู่เกาะอิซุและโองาซาวาระเป็นหมู่เกาะภูเขาไฟ หมู่เกาะอิซุมีภูเขาไฟที่ยังมีพลังอยู่จำนวนมาก เช่นภูเขาไฟโอยามะบนเกาะมิยาเกะที่ระเบิดในปี 2000[39] ส่วนหมู่เกาะโองาซาวาระนั้นอยู่ห่างจากแผ่นดินใหญ่มากและมีสัตว์ท้องถิ่นหลายชนิด จนบางครั้งถูกเรียกว่าหมู่เกาะกาลาปาโกสแห่งตะวันออก[40] ตามการแบ่งเขตภูมิอากาศแบบเคิปเปน โตเกียวอยู่ในเขตภูมิอากาศชุ่มชื้นกึ่งเขตร้อน (Cfa)[41] และตามการแบ่งเขตภูมิอากาศในประเทศญี่ปุ่น โตเกียวอยู่ในเขตภูมิอากาศชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งมีลักษณะเด่นคือมีความแตกต่างระหว่างฤดูชัดเจน อากาศเปลี่ยนแปลงง่ายในแต่ละวัน ฤดูร้อนมีอุณหภูมิสูงและฝนตกมาก ฤดูหนาวมีวันที่แดดออกและอากาศแห้ง โตเกียวเป็นตัวอย่างของปรากฏการณ์เกาะความร้อน ซึ่งเป็นผลจากการปล่อยความร้อนโดยวิธีต่าง ๆ เช่นไอร้อนจากเครื่องปรับอากาศหรือรถยนต์ และการพัฒนาตัวเมืองทำให้มีพื้นที่สีเขียวน้อยลง[42] ภูมิอากาศโตเกียวตะวันออก
โตเกียวตะวันตก
เขตการปกครองเขตพิเศษโตเกียวมี 23 เขตพิเศษ (ญี่ปุ่น: 特別区; โรมาจิ: tokubetsu-ku) ได้แก่
โตเกียวตะวันตกนอกเหนือเขตพิเศษซึ่งจัดว่าเป็นใจกลางของมหานครโตเกียวแล้ว ทางพื้นที่ฝั่งตะวันตกของ 23 เขตพิเศษยังเป็นที่ตั้งของฝั่งโตเกียวตะวันตก หรือที่ชาวญี่ปุ่นมักเรียกว่า "ฝั่งทามะ" (ญี่ปุ่น: 多摩地域; โรมาจิ: Tamachiiki)" ซึ่งประกอบด้วยนคร 26 แห่ง นคร26 นครในโตเกียวตะวันตก ได้แก่
อำเภอนิชิตามะทางตะวันตกสุดของจังหวัดโตเกียวนั้นเป็นที่ตั้งของอำเภอขนาดใหญ่ชื่อ "อำเภอนิชิตามะ" (ญี่ปุ่น: 西多摩郡; โรมาจิ: Nishitama-gun) เป็นพื้นที่ที่มีภูมิประเทศแบบภูเขา ซึ่งอำเภอนิชิตามะนี้เองเป็นที่ตั้งของภูเขาที่สูงที่สุดในโตเกียวคือเขาคูโมโตริซึ่งมีความสูงกว่า 2,017 เมตร และยังมีทะเลสาบโอกูตามะซึ่งตั้งอยู่ระหว่างรอยต่อกับจังหวัดยามานาชิอีกด้วย อำเภอนิชิตามะประกอบด้วยสามเมืองและหนึ่งหมู่บ้าน ได้แก่
เกาะและกิ่งจังหวัดนอกชายฝั่งออกไปนั้น โตเกียวมีหมู่เกาะมากมาย แต่เนื่องจากระยะทางที่ห่างไกลมากจากศาลาว่าการมหานครโตเกียว ดังนั้นทางรัฐบาลจึงได้ตั้งสำนักงานท้องถิ่นขึ้นบนเกาะนั้นเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน โดยมีหมู่เกาะที่เป็นที่รู้จักอยู่ คือ หมู่เกาะอิซุเป็นหมู่เกาะภูเขาไฟ และยังเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติฟูจิ-ฮาโกเนะ-อิซุ ซึ่งหมู่เกาะอิซุนี้เป็นที่ตั้งของ 3 กิ่งจังหวัด หมู่เกาะโองาซาวาระ จากเหนือจรดใต้ประกอบไปด้วยเกาะชิชิจิมะ เกาะนิชิโนะชิมะ เกาะฮาฮาจิมะ เกาะคิตะอิโอ และเกาะมินามิอิโอ ซึ่งโองาซาวาระยังบริหารเกาะเล็ก ๆ ที่ห่างไกลอีกสองเกาะคือเกาะมินามิโตริชิมะ ดินแดนส่วนตะวันออกที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากโตเกียวกว่า 1,850 กม. และเกาะโอกิโนะโตริชิมะ เกาะที่อยู่ใต้สุดของประเทศญี่ปุ่น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ประชาชนท้องถิ่นแท้ ๆ จะพบเฉพาะบนเกาะชิจิและเกาะฮาฮะเท่านั้น
เศรษฐกิจโตเกียวเป็น 1 ใน 3 ศูนย์กลางทางการเงินของโลกร่วมกับนครนิวยอร์กและลอนดอน โตเกียวเป็นเขตเมืองที่มีเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากการสำรวจพบว่าในเขตอภิมหานครโตเกียวซึ่งมีประชากรประมาณ 35.2 ล้านคน มี GDP รวม 1.191 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2005 (เทียบด้วยความเท่าเทียมกันของอำนาจซื้อ) ทำให้โตเกียวเป็นเขตเมืองที่มี GDP สูงที่สุดในโลก[48] ในปี 2008 มีบริษัท 47 แห่งในรายชื่อ Fortune Global 500 ที่มีฐานอยู่ในโตเกียว ซึ่งมากเป็นเกือบ 2 เท่าของเมืองอันดับ 2 [49] โตเกียวเป็น 1 ในศูนย์กลางหลักทางการเงินระหว่างประเทศ[50] และมีสำนักงานใหญ่ของวาณิชธนกิจและบริษัทประกันภัยที่ใหญ่ที่สุดในโลกหลายแห่ง ในระหว่างการพัฒนาทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งเป็นการพัฒนาภายใต้การควบคุมจากทางการ บริษัทใหญ่ ๆ หลายแห่งย้ายสำนักงานใหญ่จากเมืองต่าง ๆ เช่น โอซากะ (ซึ่งเป็นเมืองหลวงทางการค้าในอดีต) มายังโตเกียว โดยหวังว่าจะได้ประโยชน์จากการที่ติดต่อรัฐบาลได้สะดวกขึ้น แต่แนวโน้มนี้ก็ชะลอตัวลงเมื่อประชากรเพิ่มขึ้นและทำให้ค่าครองชีพสูงตามขึ้นไปด้วย ตลาดหลักทรัพย์โตเกียวเป็นตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นและใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก โดยมูลค่าการซื้อขายในตลาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ในปี 2003 โตเกียวมีพื้นที่เพื่อการเกษตรกรรมถึง 8.46 ตร.กม.[51] ตามข้อมูลของกระทรวงเกษตรป่าไม้และประมงญี่ปุ่น การเกษตรกรรมมีมากในพื้นที่โตเกียวตะวันตก โดยสินค้าที่เน่าเปื่อยง่ายเช่นผัก ผลไม้ และดอกไม้สามารถขนส่งอย่างสะดวกและรวดเร็วไปยังตลาดในเขตพิเศษของจังหวัด โดยมี "โคมัตสึนะ" หรือผักโขมเป็นผักเศรษฐกิจ การคมนาคมโตเกียวซึ่งเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคคันโตตอนใต้ เป็นศูนย์กลางการคมนาคมภายในประเทศและระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ทั้งทางรถไฟ รถยนต์ และทางอากาศ การขนส่งมวลชนภายในโตเกียวที่สำคัญคือรถไฟและรถใต้ดินที่มีเครือข่ายกว้างใหญ่และมีระบบการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ ภายในโตเกียวมีท่าอากาศยานนานาชาติฮาเนดะ (โตเกียว) ซึ่งให้บริการเที่ยวบินในประเทศเป็นส่วนใหญ่และเป็นสนามบินที่มีจำนวนผู้ใช้บริการมากที่สุดในเอเชีย[52] ท่าอากาศยานนานาชาติหลักคือท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะซึ่งอยู่ในจังหวัดชิบะ เกาะต่าง ๆ ในหมู่เกาะอิซุก็มีสนามบินของตนเอง เช่น ท่าอากาศยานฮาจิโจจิมะ ท่าอากาศยานมิยาเกจิมะ ท่าอากาศยานโอชิมะ และมีเที่ยวบินมายังสนามบินฮาเนดะ แต่หมู่เกาะโองาซาวาระยังไม่มีสนามบิน เพราะมีข้อโต้แย้งว่าไม่ควรสร้างสนามบินเพราะจะเป็นภัยคุกคามต่อธรรมชาติของเกาะ[53] นอกจากนี้รถไฟยังเป็นการคมนาคมหลักในโตเกียว ซึ่งมีเครือข่ายทางรถไฟในเมืองขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยบริษัทรถไฟญี่ปุ่นตะวันออกเป็นผู้ให้บริการรถไฟที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งรวมถึงรถไฟสายยามาโนเตะ ซึ่งวิ่งเป็นวงผ่านสถานีที่สำคัญของโตเกียวเช่นสถานีโตเกียวและชินจูกุ รถไฟฟ้าใต้ดินให้บริการโดยโตเกียวเมโทรและสำนักขนส่งมหานครโตเกียว (โทเอ) ประชากร
โตเกียวมีประชากรทั้งหมดประมาณ 12.79 ล้านคนในเดือนตุลาคม 2007 ซึ่งในจำนวนนั้น 8.65 ล้านคนอาศัยอยู่บริเวณ 23 เขตการปกครองพิเศษในโตเกียว ในเวลากลางวันมีประชากรเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 2.5 ล้านคนเนื่องจากมีประชากรจากเมืองใกล้เคียงเดินทางเข้ามาเพื่อทำงานหรือศึกษาเล่าเรียน[ต้องการอ้างอิง] ปรากฏการณ์นี้จะเป็นได้ชัดในเขตชิโยดะ เขตชูโอ และเขตมินาโตะ ซึ่งมีประชากรมากกว่า 2 ล้านคนในเวลากลางวัน แต่น้อยกว่า 3 แสนคนในเวลากลางคืน ในปี 2005 ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในโตเกียวมากที่สุด 5 เชื้อชาติได้แก่ จีน (123,611 คน) เกาหลี (106,697 คน) ฟิลิปปินส์ (31,077 คน) อเมริกัน (18,848 คน) และอังกฤษ (7,696 คน)[ต้องการอ้างอิง] การศึกษาโตเกียวมีมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยหลายแห่ง ซึ่งรวมทั้งมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่นและมีชื่อเสียงในระดับโลก เช่นมหาวิทยาลัยโตเกียว สถาบันเทคโนโลยีโตเกียว มหาวิทยาลัยวาเซดะ มหาวิทยาลัยนครโตเกียว มหาวิทยาลัยโชวะ มหาวิทยาลัยฮิตตสึบาชิ มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์แห่งโตเกียว มหาวิทยาลัยเคโอ เป็นต้น[56][57] ในแต่ละเขตมีโรงเรียนประถมศึกษาและโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นซึ่งเป็นการศึกษาภาคบังคับ โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายของรัฐบริหารโดยคณะกรรมการการศึกษาของมหานครโตเกียว นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนเอกชนที่เปิดสอนตั้งแต่อนุบาลจนถึงมัธยมศึกษาตอนปลายหลายแห่ง[58] เมืองพี่น้องโตเกียวมีเมืองพี่น้อง 11 แห่ง[59]
หมายเหตุ
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่นวิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อที่เกี่ยวข้องกับ โตเกียว
|