เจ้าหญิงไอโกะ โทชิโนะมิยะ
เจ้าหญิงไอโกะ โทชิโนะมิยะ (ญี่ปุ่น: 敬宮愛子内親王; โรมาจิ: Toshi-no-miya Aiko Naishinnō; ประสูติ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2544) เป็นพระราชธิดาพระองค์เดียวในสมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะ กับสมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ และเป็นพระราชนัดดาในสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ กับสมเด็จพระจักรพรรดินีมิจิโกะ[1] พระประวัติเจ้าหญิงไอโกะประสูติเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2544 ณ โรงพยาบาลสำนักพระราชวัง เวลา 14:43 น. ตามเวลาท้องถิ่น เป็นพระราชธิดาเพียงพระองค์เดียวในสมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะ กับสมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ ขณะทั้งสองยังดำรงตำแหน่งมกุฎราชกุมารและมกุฎราชกุมารี ตามลำดับ[2][3] เมื่อแรกประสูติมีความยาวพระวรกาย 49.6 เซนติเมตร และน้ำหนัก 3,103 กรัม และประสูติกาลขณะที่พระชนกมีพระชนมายุ 41 ปี และพระชนนีมีพระชนมายุ 37 ปี เบน ฮิลส์ (Ben Hills) นักข่าว ผู้เขียนหนังสือ เจ้าหญิงมาซาโกะ : นักโทษแห่งบัลลังก์เบญจมาศ (Princess Masako: Prisoner of the Chrysanthemum Throne) ระบุว่าจักรพรรดินีมาซาโกะทรงพระครรภ์เจ้าหญิงไอโกะด้วยการปฏิสนธินอกร่างกาย[4] พระชนกและพระชนนีทรงตั้งพระนามพระธิดาด้วยพระองค์เอง (ปรกติจะได้รับพระราชทานพระนามจากสมเด็จพระจักรพรรดิ) โดยนำมาจากคำสอนของเม่งจื๊อ นักปรัชญาชาวจีน ความว่า
พระนาม "ไอโกะ" (愛子) ประกอบด้วยตัวคันจิสองตัวคือ "ความรัก" (愛) กับ "เด็ก" (子) รวมกันมีความหมายว่า "บุคคลอันเป็นที่รัก"[5] ส่วนพระอิสริยยศและราชทินนาม "โทชิโนะมิยะ" (敬宮 toshi-no-miya) มีความหมายว่า "บุคคลผู้ควรแก่การเคารพ"[5] พระองค์เข้ารับการศึกษาระดับปฐมวัย ณ โรงเรียนกากูชูอิง เมื่อวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2549[6] จึงจบการศึกษาระดับปฐมวัยเมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2551[7] ทรงศึกษาต่อในระดับประถมศึกษา ณ สถานศึกษาเดิมในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2552 แล้วเข้าศึกษาต่อระดับมัธยมศึกษาตอนต้นในเดือนเมษายน พ.ศ. 2557[8] ระดับมัธยมศึกษาตอนมัธยมศึกษาตอนปลายในเดือนเมษายน พ.ศ. 2560[2][9] พ.ศ. 2561 เจ้าหญิงไอโกะทรงเข้าเรียนภาคฤดูร้อนของวิทยาลัยอีตัน สหราชอาณาจักร[10] หลังเสด็จกลับญี่ปุ่น พระองค์เปี่ยมไปด้วยความมั่นพระทัยยิ่ง ทรงรับเป็นโฆษกของคณะเต้นรำในโรงเรียน แหล่งข่าวแห่งหนึ่งที่อ้างว่าสนิทสนมกับพระราชวังระบุว่าเจ้าหญิงไอโกะทรงให้กำลังใจพระชนนี ที่ดำรงพระอิสริยยศเป็นจักรพรรดินี[11] เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 ทรงศึกษาต่อด้านภาษาและวรรณคดีญี่ปุ่น มหาวิทยาลัยกากูชูอิง[12] ชีวิตส่วนพระองค์ขณะเจ้าหญิงไอโกะมีพระชันษา 8 ปี ทรงสนพระทัยด้านการทรงพระอักษรตัวคันจิ, อักษรวิจิตร, การกระโดดเชือก, ทรงเปียโน, ทรงไวโอลิน และการเขียนกวีนิพนธ์[13] ต้นเดือนมีนาคม พ.ศ. 2553 เจ้าหญิงไอโกะทรงประทับอยู่ในวังไม่ยอมเสด็จไปโรงเรียน เพราะถูกกลั่นแกล้ง (bully) จากพระสหายร่วมชั้น[14][15] ต่อมาเจ้าหญิงไอโกะจึงเสด็จไปโรงเรียนในวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 อย่างมีข้อจำกัด เจ้าหน้าที่ประจำพระราชวังอธิบายว่าได้มีการจำกัดจำนวนพระสหายร่วมชั้นของเจ้าหญิง เจ้าหญิงไอโกะจะเสด็จไปโรงเรียนพร้อมกับจักรพรรดินีมาซาโกะพระชนนีตามคำแนะนำของแพทย์ประจำพระราชสำนักมกุฎราชกุมาร[16][17] เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2554 เจ้าหญิงไอโกะประชวรจากอาการพระปับผาสะอักเสบ[18] และช่วงปลายเดือนกันยายน พ.ศ. 2559 ทรงขาดเรียนเนื่องทรงอ่อนเพลียจากทรงพระอักษรเตรียมสอบเข้าศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย[2] พระกรณียกิจวันที่ 5 เมษายน 2559 เจ้าหญิงไอโกะทรงเยี่ยมชมนิทรรศการพิเศษครบรอบ 150 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตญี่ปุ่น-อิตาลี ณ พิพิธภัณฑ์โตเกียว[19] ขณะพระชันษา 16 ปี เจ้าหญิงไอโกะปรากฏพระองค์พร้อมกับพระชนกและชนนีท่ามกลางสาธารณชน[20][21] ทั้งนี้พระองค์ไม่สามารถร่วมพระราชพิธีใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพระชนกนาถเลย เพราะเยาว์ชันษา[22] ตามกฎมนเทียรบาลข้อที่ 22 พระองค์จะบรรลุนิติภาวะเมื่อพระชันษา 20 ปีบริบูรณ์ใน พ.ศ. 2564[23] ครั้นวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2564 หลังเจ้าหญิงไอโกะมีพระชันษาครบ 20 ปีบริบูรณ์ ก็ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์รัตนมงกุฎ ชั้นที่ 1 โดยจากนี้พระองค์สามารถร่วมพระราชพิธีและประกอบพระกรณียกิจของพระราชวงศ์ได้[24] โดยร่วมประกอบพระกรณียกิจในฐานะพระราชวงศ์ครั้งแรก ในงานเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2565[25] และออกมาตรัสต่อสาธารณชนครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 มีนาคมปีเดียวกัน[26] ต่อมาในวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 เจ้าหญิงไอโกะเสด็จออกจากพระตำหนักครั้งแรกเพื่อทอดพระเนตรการแสดงมโหรีกางากุ ซึ่งเป็นออร์เคสตราอย่างราชสำนักญี่ปุ่น จัดขึ้นโดยสำนักพระราชวังญี่ปุ่น โดยเจ้าหญิงคาโกะแห่งอากิชิโนะโดยเสด็จด้วย[27] และวันที่ 24 พฤศจิกายนปีเดียวกัน เจ้าหญิงไอโกะตามเสด็จสมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินี ทอดพระเนตรนิทรรศการซึ่งจัดขึ้นในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติโตเกียว[28] เจ้าหญิงไอโกะมีกำหนดการทรงงานที่สภากาชาดญี่ปุ่นในเดือนเมษายน พ.ศ. 2567 หลังทรงสำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษา[29] การสืบราชบัลลังก์หลังการประกาศใช้กฎมนเทียรบาลญี่ปุ่น พ.ศ. 2490 มีการลดจำนวนพระราชวงศ์ญี่ปุ่นเป็นอันมาก เหลือเพียงเจ้านายที่สืบสันดานจากจักรพรรดิไทโชสามารถเสวยราชย์ได้[30] แต่มิอนุญาตให้เจ้านายฝ่ายในเสวยราชสมบัติ ถ้าหากมีการแก้กฎมนเทียรบาล เจ้าหญิงไอโกะจะเป็นองค์รัชทายาทอันดับที่ 2 ของญี่ปุ่น ซึ่งมีการหยิบยกถึงเรื่องนี้หลายครั้ง[3][31] ข้อถกเถียงการประสูติการของเจ้าหญิงไอโกะ ทำให้เกิดวิกฤตการสืบราชสมบัติของญี่ปุ่นเนื่องจากไม่มีเจ้านายรุ่นใหม่ที่เป็นเพศชาย ฝ่ายหน้าที่ยังทรงพระชนม์ล้วนมีพระชันษาสูง ก่อให้เกิดข้อถกเถียงในญี่ปุ่นว่าควรแก่กาลแล้วที่จะแก้ไขกฎมนเทียรบาล ซึ่งกฎมนเทียรบาลเมื่อ พ.ศ. 2490 ระบุไว้ว่า "ผู้สืบราชสมบัติจะต้องเป็นบุตรคนโตเพศชายเท่านั้น (Agnatic primogeniture)" เปลี่ยนเป็น "ผู้สืบราชสมบัติจะเป็นบุตรคนโตไม่ว่าเป็นหญิงหรือชายก็ได้ (Absolute primogeniture)" และญี่ปุ่นมีประวัติการสืบราชสมบัติของจักรพรรดินีถึงแปดพระองค์ โดยได้รับการคัดเลือกจากสมาชิกพระราชวงศ์ที่มีเชื้อเจ้าทางฝ่ายบิดา นักวิชาการบางส่วนอธิบายว่าการครองราชย์ของจักรพรรดินีเป็นการครองประเทศเพียงชั่วคราวเท่านั้น[31] แต่การสืบราชสมบัติผ่านทางฝ่ายมารดาเกิดขึ้นในศตวรรษที่ 21[30] คือจักรพรรดินีเก็มเม และสืบราชสมบัติโดยพระราชธิดาคือจักรพรรดินีเก็นโช[32] วันที 25 ตุลาคม พ.ศ. 2548 รัฐบาลได้แต่งตั้งคณะผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งมีการเสนอให้สิทธิแก่บุตรคนโตไม่ว่าเพศหญิงหรือชายสำหรับการสืบราชสมบัติ วันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2549 จุนอิชิโร โคอิซูมิ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวสุนทรพจน์ประจำปีเพื่อแก้ไขข้อถกเถียงดังกล่าว โคอิซูมิได้ให้คำสัญญาที่จะเสนอร่างกฎหมายแก่สภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อให้เจ้านายที่เป็นสตรีขึ้นครองราชสมบัติได้ รวมทั้งมิได้กำหนดเวลาในการออกกฎหมาย และมิได้ให้รายละเอียดของเนื้อหาแต่อย่างใด การประสูติกาลของฝ่ายหน้าข้อเสนอที่จะอนุญาตให้สตรีครองราชสมบัติถูกเลื่อนออกไป หลังสำนักพระราชวังประกาศว่าเจ้าหญิงคิโกะ พระชายาในเจ้าชายฟูมิฮิโตะ อากิชิโนะโนะมิยะ พระอนุชาในมกุฎราชกุมาร ทรงพระครรภ์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 ภายหลังได้ประสูติกาลเจ้าชายฮิซาฮิโตะแห่งอากิชิโนะเมื่อวันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2549 เป็นรัชทายาทลำดับที่สามและเป็นเจ้านายฝ่ายหน้าพระองค์ล่าสุดในรอบ 41 ปีของญี่ปุ่น[31][33] วันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2550 ชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในขณะนั้นได้ประกาศยกเลิกข้อเสนอที่จะแก้กฎมนเทียรบาล จึงคาดว่าคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายเพื่อให้เจ้าหญิงไอโกะสืบราชสมบัติ[31] พระเกียรติยศ
พระอิสริยยศเจ้าหญิงไอโกะ มีฐานันดรศักดิ์ที่ อิมพีเรียลไฮนิส[34] และมีพระราชทินนามว่า โทชิโนะมิยะ (敬宮)[34] เครื่องราชอิสริยาภรณ์
พงศาวลี
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|