โคลงโลกนิติ
โคลงโลกนิติ เป็นวรรณกรรมประเภทคำสอน ในลักษณะของโคลงสุภาษิต คำว่า โลกนิติ (อ่านว่า โลก-กะ-นิด) แปลว่า ระเบียบแบบแผนแห่งโลก เนื้อหาในโคลงโลกนิติจึงมุ่งแสดงความจริงของโลกและสัจธรรมของชีวิต เพื่อให้ผู้อ่านได้รู้เท่าทันต่อโลก และเข้าใจในความเป็นไปของชีวิต พร้อมเป็นแม่แบบเพื่อให้ผู้อ่านได้ดำเนินชีวิตไปในทางที่ถูกต้องดีงามสืบไป โคลงโลกนิติมีความไพเราะเหมาะสมทั้งด้านรูปแบบและเนื้อหาปรัชญาสาระ ครบคุณค่าทางวรรณกรรม ทำให้เป็นที่แพร่หลายในหมู่คนทั่วไป บางท่านกล่าวยกย่องโคลงโลกนิติว่าเป็น อมตะวรรณกรรมคำสอน หรือ ยอดสุภาษิตอมตะ[1], ได้รับคัดเลือกจากกระทรวงศึกษาธิการให้เป็นบทอ่านในหนังสือแบบเรียนสำหรับนักเรียนนักศึกษาอยู่ทุกยุคสมัย และได้รับการจัดให้เป็นหนึ่งในหนังสือดี 100 เล่มที่คนไทยควรอ่าน ประวัติ
โคลงโลกนิติสำนวนเก่าเชื่อกันว่ามีมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา โดยนักปราชญ์ในสมัยนั้นได้คัดเลือกหาคาถาสุภาษิตภาษาบาลีและภาษาสันสกฤตที่ปรากฏในคัมภีร์ต่างๆ เช่น คัมภีร์โลกนิติ, คัมภีร์ธรรมนีติ, คัมภีร์ราชนีติ, หิโตปเทศ, ธรรมบท และ พระไตรปิฎก เป็นต้น มาถอดความแล้วเรียบเรียงแต่งเป็นโคลงโลกนิติ
ต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์ เมื่อพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์ฯ) ในปี พ.ศ. 2374 ก็มีดำริให้จารึกวิชาการสาขาต่าง ๆ ไว้บนแผ่นศิลาที่ประดับไว้ตามเสาหรือกำแพงพระวิหาร ในการนี้จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอกรมขุนเดชอดิศร (ต่อมาได้ดำรงพระยศเป็นสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเดชาดิศร) ทรงชำระโคลงโลกนิติสำนวนเก่าให้ประณีตไพเราะยิ่งขึ้น เพื่อจารึกไว้ในคราวเดียวกัน จำนวนโคลงโลกนิติที่ปรากฏต้นฉบับในสมุดไทยมีทั้งสิ้น 408 บท แต่ที่จารึกไว้ในวัดพระเชตุพนฯ แผ่นละบท มี 435 แผ่น (รวมโคลงนำ 2 บท) คาดว่ามีโคลงที่แต่งเพิ่มเติมเพื่อให้พอดีกับพื้นที่จารึก
รูปแบบของหนังสือประชุมโคลงโลกนิติหนังสือประชุมโคลงโลกนิติ[2] ขึ้นต้นด้วยโคลงนำ 2 บท คือ
จากนั้น จะแยกโคลงออกเป็นชุดๆ แต่ละชุดมีส่วนประกอบดังนี้
โคลงชุดที่ 170 เป็นดังนี้
หนังสืออื่นที่มีที่มาจากคัมภีร์โลกนิตินอกจากโคลงโลกนิติสำนวนเก่า และโคลงโลกนิติในพระนิพนธ์ของสมเด็จฯ กรมพระยาเดชาดิศรแล้ว ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่มีที่มาจาก คัมภีร์โลกนิติ (กล่าวคือ มีที่มาเดียวกับโคลงโลกนิติ ไม่ใช่แต่งไปจากโคลงโลกนิติ) ได้แก่ ประพันธ์โดยขุนสุวรรณสารวัด เมื่อปี พ.ศ. 2385 เป็นคำฉันท์จำนวน 265 บท ตามคาถาของคัมภีร์โลกนิติ
เป็นการรวบรวมคัมภีร์โลกนิติ ฉบับภาษาบาลี ซึ่งมี 7 กัณฑ์ โคลงโลกนิติ พระนิพนธ์ของสมเด็จฯ พระยาเดชาดิศร และโคลงโลกนิติ ที่เข้าใจว่าเป็นสำนวนของพระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) เข้ามารวมพิมพ์ไว้ในเล่มเดียวกัน
ประพันธ์และเรียบเรียงโดยพระสารประเสริฐ (ตรี นาคะประทีป) โดยจัดทำเป็น 3 ภาษา คือ ภาษาบาลี ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ จำแนกเนื้อหาออกเป็น 7 กัณฑ์ ตามคัมภีร์โลกนิติ รวมมีทั้งสิ้น 167 คาถา พิมพ์เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2461 ถอดคำประพันธ์ของคัมภีร์โลกนิติทั้ง 7 กัณฑ์ ออกเป็นร้อยแก้วภาษาไทย โดย แสง มนวิทูร มีทั้งสิ้น 158 คาถา
ราชบัณฑิตยสถานได้ชำระและแปลคัมภีร์โลกนิติและคัมภีร์สุตวัฑฒนนีติ ออกเป็น 4 ภาษา คือ ภาษาบาลี ภาษาบาลีเขียนเป็นอักษรโรมัน ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ รวมมีทั้งสิ้น 167 คาถา พิมพ์เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2540 เชิงอรรถดูเพิ่มอ้างอิงวิกิซอร์ซ มีงานต้นฉบับเกี่ยวกับ:
|