กฤษฎา อรุณวงษ์ ณ อยุธยา
ศาสตราจารย์กิตติคุณ ร้อยเอก กฤษฎา อรุณวงษ์ ณ อยุธยา (9 มกราคม พ.ศ. 2475 – 12 มกราคม พ.ศ. 2553) เป็นสถาปนิกชาวไทย นักธุรกิจ ผู้ก่อตั้งสำนักงานออกแบบคาซ่า อาจารย์และอดีตคณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (คนที่ 4 พ.ศ. 2517–2521)[1], นักแสดง นักบินสมัครเล่น อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติในกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนปี พ.ศ. 2503 และปี พ.ศ. 2507[2] อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คนที่ 11 และศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (สถาปัตยกรรมร่วมสมัย) ปี พ.ศ. 2550 กฤษฎา เป็นสถาปนิกผู้บุกเบิกงานสถาปัตยกรรมสมัยใหม่คนสำคัญของไทย ด้วยผลงานออกแบบที่เป็นที่รู้จักกันดีเช่น เอ็มบีเคเซ็นเตอร์ อาคารศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้ อาคารสำนักงานใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) โบสถ์เซเวียร์ เป็นต้น ผลงานของกฤษฎา มักเป็นอาคารเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่และส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร ประวัติกฤษฎา เกิดเมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2475 เป็นบุตรของหม่อมหลวงวงศ์อรุณ อรุณวงษ์ จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนอัสสัมชัญ (อสช 12977) ปริญญาตรีและโททางสถาปัตยกรรมศาสตร์ จากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี พ.ศ. 2498, 2499 ได้รับทุนจากรัฐบาลฝรั่งเศส ไปศึกษาด้านสถาปัตยกรรมที่ โรงเรียนวิจิตรศิลป์เอกอลเดโบซาร์ และดูงานสถาปัตยกรรม เป็นเวลา 6 เดือน ในปี พ.ศ. 2503[3] กฤษฎา สมรสกับ สุชาดา อรุณวงษ์ ณ อยุธยา มีบุตรด้วยกัน 3 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 1 คน การทำงานกฤษฎา เคยรับราชการที่กรมยุทธโยธาทหารบกหลังสำเร็จการศึกษา จนถึงยศร้อยเอก แล้วจึงโอนมาเป็นอาจารย์สอนวิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (2503–2532) และมหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นอดีตนายกสมาคมสถาปนิกสยาม (อาษา) , อดีตอุปนายกของสภาสถาปนิกเอเซีย (ARCASIA) , อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ฝ่ายโยธา (พ.ศ. 2533–2535) และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (19 เมษายน 2535 – 18 เมษายน 2539) โดยการสนับสนุนของ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง อดีตผู้ว่าฯ คนก่อน ได้รับมอบปริญญา สถาปัตยกรรมศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้รับการเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (สถาปัตยกรรมร่วมสมัย) ประจำปี พ.ศ. 2550 เมื่อวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2551 จากการเสนอของคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.)[4] กฤษฎา เป็นผู้ก่อตั้งบริษัท คาซา (CASA) มีผลงานออกแบบอาคารหลายแห่ง ที่มีชื่อเสียง เช่น อาคารใหม่สวนอัมพร[5] อาคารสินธร ถนนวิทยุ[6] อาคารห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาชิดลม สาขาสีลม[7] และสาขาหัวหมาก สำนักงานใหญ่ธนาคารกรุงเทพ สาขาสีลม[4] ตึกไอบีเอ็ม ถนนพหลโยธิน[6] สำนักงานใหญ่การบินไทย[6] และเมื่อปี 2539 ได้รับเลือกให้เป็นสถาปนิกดีเด่นของสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์[8] ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งร้อยเอก กฤษฎา อรุณวงษ์ ณ อยุธยา เป็นราชบัณฑิตประเภทวิชาสถาปัตยศิลป์ สาขาวิชาสถาปัตยกรรม สํานักศิลปกรรม ตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2551[9] ถึงแก่กรรมกฤษฎา ถึงแก่กรรมด้วยโรคเส้นเลือดหัวใจโป่งพอง เมื่อวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2553 ที่โรงพยาบาลศิริราช รวมอายุได้ 78 ปี[10] มีพิธีพระราชทานเพลิงศพเมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2553 ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร ผลงานออกแบบ
วงการบันเทิงกฤษฎา เป็นนักบินสมัครเล่น เคยมีผลงานเป็นนักแสดงรับเชิญ ในภาพยนตร์เรื่อง เสือ โจรพันธุ์เสือ (2541) โดยรับบทเป็น พระยาบริรักษ์ประชาราษฎร์ บิดาของ เสือใบ (อำพล ลำพูน) ตัวเอกในเรื่อง และ เรื่องพรางชมพู (2545)[11] แสดงละครโทรทัศน์เทิดพระเกียรติเรื่อง พ่อ ตอน ชีวิตที่พอเพียง (2542) และแสดงละครเวที การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกกฤษฎา ได้เข้ารับราชการในกองทัพไทยในปี พ.ศ. 2500 – 2503 และได้เป็นนักกีฬายิงปืนทีมชาติในกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนปี พ.ศ. 2503 ณ กรุงโรม ประเทศอิตาลี และปี พ.ศ. 2507 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น[2] ยศกองอาสารักษาดินแดนกฤษฎา ได้รับพระราชทานยศนายกองเอกแห่งกองอาสารักษาดินแดน[12] เครื่องราชอิสริยาภรณ์
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่นวิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อที่เกี่ยวข้องกับ กฤษฎา อรุณวงษ์ ณ อยุธยา
|