เล่าตำ
เล่าตำ[1] หรือ เล่าต้าย[2] (เสียชีวิต ค.ศ. 234) มีชื่อในภาษาจีนกลางว่า หลิว เหยี่ยน (จีน: 劉琰; พินอิน: Liú Yǎn) ชื่อรอง เวย์ชั่ว (จีน: 威碩; พินอิน: Wēishuò) เป็นขุนนางของรัฐจ๊กก๊กในยุคสามก๊กของจีนที่รับราชการมาอย่างยาวนาน โดยรับใช้ขุนศึกเล่าปี่ตั้งแต่ช่วงปลายยุคราชวงศ์ฮั่นตะวันออก เล่าตำเป็นผู้มีหน้าตาดีและพูดเก่ง มีตำแหน่งราชการสูงและเป็นที่ชื่นชมอย่างมาก แต่เป็นที่สงสัยในเรื่องความสามารถเพราะมีตำแหน่งสูงส่งเกินกว่าผลงานที่ปฏิบัติและมีปัญหาในเรื่องการเมาสุรา เคยเกือบถูกไล่ออกจากราชการหลังมีเรื่องราววิวาทกับอุยเอี๋ยน ต่อมาเล่าตำมีปัญหากับหูชื่อผู้เป็นภรรยาและทำร้ายหูชื่อโดยการให้ทหารใช้รองเท้าฟาดหน้าเพราะสงสัยว่าหูชื่อลอบมีความสัมพันธ์กับจักรพรรดิเล่าเสี้ยน หูชื่อจึงฟ้องร้องเรื่องพฤติกรรมของเล่าตำ จักรพรรดิเล่าเสี้ยนจึงมีรับสั่งให้ประหารชีวิตเล่าตำ[3][4] การรับราชการช่วงต้นกับเล่าปี่เล่าตำเกิดในช่วงปลายยุคราชวงศ์ฮั่นตะวันออกในราชรัฐโลก๊ก (魯國 หลู่กั๋ว) ซึ่งอยู่บริเวณนครชฺวีฟู่ มณฑลชานตงในปัจจุบัน[5] เมื่อขุนศึกเล่าปี่ดำรงตำแหน่งข้าหลวงมณฑลในนามของมณฑลอิจิ๋วในช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 190 ภายใต้โตเกี๋ยม เล่าปี่ได้พบกับเล่าตำและรับเล่าตำมารับราชการกับตนในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ผู้ช่วย (從事 ฉงชื่อ) เล่าตำเป็นชายที่มีเสน่ห์ รูปงาม และมีวาทศิลป์ มีทักษะในการโต้วาทีและยังเป็นเชื้อพระวงศ์ เล่าตำกลายเป็นคนสนิทของเล่าปี่และติดตามเล่าปี่ในการเดินทางข้ามแผ่นดิน[6] ในปี ค.ศ. 214 ภายหลังเล่าปี่เข้ายึดมณฑลเอ๊กจิ๋ว (ครอบคลุมพื้นที่ของมณฑลเสฉวนและนครฉงชิ่งในปัจจุบัน) จากขุนศึกเล่าเจี้ยง[7] เล่าปี่แต่งตั้งให้เล่าตำเป็นเจ้าเมืองของเมืองกู้หลิง (固陵郡 กู้หลิงจฺวิ้น; หรือเมืองปาตง 巴東郡 ปาตงจฺวิ้น; ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของนครฉงชิ่งในปัจจุบัน)[8] รับราชการกับเล่าเสี้ยนในปี ค.ศ. 223[9] หลังจากที่เล่าเสี้ยนโอรสและรัชทายาทของเล่าปี่ขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิแห่งจ๊กก๊ก พระองค์ทรงแต่งตั้งให้เล่าตำมีบรรดาศักดิ์เป็นตูเซียงโหว (都鄉侯) และพระราชทานเกียรติและเอกสิทธิ์เป็นรองจากลิเงียม พระองค์ยังทรงแต่งตั้งเล่าตำให้เป็นเสนาบดีรักษาราชวัง (衛尉 เว่ย์เว่ย์), ที่ปรึกษาการทหารส่วนกลาง (中軍師 จงจฺวินซือ) และขุนพลทัพหลัง (後將軍 โฮ่วเจียงจฺวิน) ภายหลังเล่าตำได้เลื่อนตำแหน่งเป็นขุนพลทหารม้าและรถรบ (車騎將軍 เชอฉีเจียงจฺวิน)[10] แม้ว่าเล่าตำดำรงตำแหน่งสำคัญ แต่ก็ไม่ได้มีส่วนร่วมอย่างจริงจังในราชการของรัฐและราชการทหาร ในขณะที่แสดงความสามารถด้านราชการเพียงเล็กน้อย เล่าตำมีทหารใต้บังคับบัญชาเพียงพันคน จูกัดเหลียงอัครมหาเสนาบดีแห่งจ๊กก๊กจึงเยาะเย้ยว่าเล่าตำเป็นผู้วิจารณ์ที่เป็นเพียงผู้ชม[11] ในช่วงนอกเวลาราชการ เล่าตำดำเนินชีวิตอย่างหรูหราฟุ่มเฟือยและโอ้อวด เล่าตำยังมีหญิงรับใช้หลายสิบคนช่วยดูแล หญิงรับใช้หลายคนสามารถร้องและเล่นดนตรี เล่าตำยังสอนหญิงรับใช้เหล่านี้ให้ท่อง "หลู่หลิงกวางเตี้ยนฟู่" (魯靈光殿賦) ซึ่งเป็นกวีนิพนธ์ที่ประพันธ์โดยหวาง เหยียนโช่ว (王延壽)[12] ในปี ค.ศ. 232 เล่าตำเกิดเรื่องทะเลาะวิวาทกับอุยเอี๋ยนขุนพลจ๊กก๊ก และกล่าวหาอุยเอี๋ยนด้วยข้อหาที่ไม่มีมูลความจริง หลักจากจูกัดเหลียงปลดเล่าตำออกจากตำแหน่ง[13] เล่าตำเขียนหนังสือขอขมาถึงจูกัดเหลียงความว่า:
จูกัดเหลียงจึงส่งเล่าตำกลับไปเซงโต๋ (成都 เฉิงตู) นครหลวงของจ๊กก๊ก และคืนตำแหน่งเดิมให้เล่าตำ[15] ความล่มจมและการถูกประหารชีวิตเล่าตำไม่สามารถรักษาคำมั่นที่จะแก้ไขข้อบกพร่องและควบคุมการดื่มสุราของตน ความคิดของเล่าตำสับสน เรฟ เดอ เครสพิกนีมีความเห็นว่าเล่าตำอาจมีอาการป่วยทางจิต[4] ในเดือนกุมภาพันธ์หรือมีนาคม ค.ศ. 234 หูชื่อ (胡氏) ภรรยาของเล่าตำเข้าไปในพระราชวังเพื่อถวายบังคมต่องอซีผู้เป็นพระพันปีหลวงและเป็นพระมเหสีของเล่าปี่อดีตจักรพรรดิของจ๊กก๊ก งอซีทรงมีรับสั่งให้หูชื่อยังคงพำนักอยู่ในพระราชวัง หูชื่อกลับไปบ้านหลังพำนักในพระราชวังเป็นเวลาหนึ่งเดือน[16] เนื่องจากหูชื่อมีรูปโฉมงดงาม เล่าตำจึงสงสัยว่าหูชื่อลอบมีความสัมพันธ์ลับกับจักรพรรดิเล่าเสี้ยนในช่วงหนึ่งเดือนที่หูชื่อพำนักในพระราชวัง เล่าตำจึงสั่งทหารของคน 500 ตนให้ทำร้ายหูชื่อโดยการใช้รองเท้าฟาดใส่หน้า จากนั้นจึงหย่ากับหูชื่อและขับไล่ออกจากบ้านให้กลับไปหาครอบครัวเดิม[17] หูชื่อฟ้องร้องต่อราชสำนักเรื่องพฤติกรรมทารุณของเล่าตำ เป็นผลทำให้เล่าตำถูกจับกุมและถูกขังคุก[18] เจ้าหน้าที่สอบสวนให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า "ทหารไม่ควรช่วยผู้ใดทำร้ายภรรยาของคนผู้นั้น รองเท้าไม่ควรใช้ในการฟาดใส่หน้าผู้ใด"[19] เล่าตำจึงถูกประหารชีวิต และศพถูกทิ้งข้างถนน หลังเรื่องอื้อฉาวนี้ ราชสำนักจ๊กก๊กจึงมีคำสั่งห้ามการอนุญาตให้ภรรยาและมารดาของข้าราชการใด ๆ เข้ามาในพระราชวังในช่วงการเฉลิมฉลอง[20] ดูเพิ่มอ้างอิง
บรรณานุกรม
|