Share to:

 

กมล สีตกะลิน

กมล สีตกะลิน
รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
ดำรงตำแหน่ง
18 ธันวาคม 2515 – 16 ธันวาคม 2516
ดำรงตำแหน่งร่วมกับ
กษัตริย์พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
ก่อนหน้าสถาปนาตำแหน่ง
ถัดไป
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม
ดำรงตำแหน่ง
17 มีนาคม 2518 – 8 มกราคม 2519
นายกรัฐมนตรีหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช
ก่อนหน้า
ถัดไปพลเอก ทวิช เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา
ผู้บัญชาการทหารเรือ
ดำรงตำแหน่ง
1 ตุลาคม 2515 – 30 กันยายน 2516
ก่อนหน้าพลเรือเอก ถวิล รายนานนท์
ถัดไปพลเรือเอก เชิดชาย ถมยา
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด30 มีนาคม พ.ศ. 2455
เสียชีวิต24 สิงหาคม พ.ศ. 2544 (89 ปี)

พลเรือเอก กมล สีตกะลิน เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมของไทย ในรัฐบาลหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตรองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในปี พ.ศ. 2515 เป็นอดีตสมาชิกวุฒิสภา และอดีตผู้บัญชาการทหารเรือ

ประวัติ

พล.ร.อ. กมล สีตกะลิน เดิมชื่อ "โกมล" เกิดเมื่อวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2455 ที่เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรของนาวาเอก พระสาตราบรรง (บุญเต็ก สีตกะลิน) มีพี่น้อง 7 คน พล.ร.อ.กมล สมรสกับฉวีวรรณ ภีมะโยธิน บุตรีพระยารามกำแหง (ทองอยู่ ภีมะโยธิน) มีบุตรธิดา 4 คน

พล.ร.อ. กมล เคยได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภา ในวุฒิสภาไทย ชุดที่ 3 พ.ศ. 2511[1] ต่อมาในปี พ.ศ. 2515 ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และเขาได้รับเลือกเป็นรองประธานสภา คนที่ 2[2] แต่ก็ทำหน้าที่ได้มีนาน ภายหลัง วันมหาวิปโยค 14 ตุลาคม 2516 ได้มีสมาชิกลาออกไปถึง 288 คนจึงทำให้ไม่สามารถประชุมสภาได้สภาจึงสิ้นสุดลงเมื่อได้ประกาศ พระราชกฤษฎีกายุบสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2516

ในปี พ.ศ. 2518 เขาได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมของไทย ในรัฐบาลหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช[3] แต่ก็ดำรงตำแหน่งได้เพียง 10 เดือน ก็ถูกปรับให้พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี[4]

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ

อ้างอิง

  1. "รายชื่อสมาชิกวุฒิสภาชุดที่ ๓" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2016-03-05. สืบค้นเมื่อ 2020-04-11.
  2. พระบรมราชโองการ ประกาศ แต่งตั้งประธานและรองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (๑.พลตรี ศิริ สิริโยธิน ๒.นายทวี แรงขำ ๓.พลเรือเอก กมล สีตกะลิน)
  3. พระบรมราชโองการ ประกาศ แต่งตั้งรัฐมนตรี (จำนวน ๒๖ ราย)
  4. พระบรมราชโองการ ประกาศ รัฐมนตรีลาออก ให้รัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งและตั้งรัฐมนตรี (พ้นจากตำแหน่ง ๖ ราย และแต่งตั้ง ๑๕ ราย)
  5. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๘๗ ตอนที่ ๑๒๒ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๒๖, ๓๑ ธันวาคม ๒๕๑๓
  6. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๘๓ ตอนที่ ๑๑๔ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๒๔, ๑๙ ธันวาคม ๒๕๐๙
  7. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๘๖ ตอนที่ ๔๖ ง หน้า ๑๘๓๖, ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๑๒
  8. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญชัยสมรภูมิ และ เครื่องหมายเปลวระเบิดสำหรับผู้กระทำความชอบมีบาดเจ็บครั้งหนึ่ง, เล่ม ๕๘ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๒๖๔๐, ๓๐ สิงหาคม ๒๔๘๔
  9. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความ เรื่อง พระราชทานเหรียญพิทักษ์รัฐธรรมนูญ, เล่ม ๕๑ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๓๓๔๔, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๔๗๗
  10. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน, เล่ม ๙๑ ตอนที่ ๑๖๐ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๔๐, ๒๖ กันยายน ๒๕๑๗
  11. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญช่วยราชการเขตภายใน, เล่ม ๖๐ ตอนที่ ๔๓ ง หน้า ๒๖๑๖, ๑๗ สิงหาคม ๒๔๘๖
  12. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญจักรมาลาและเหรียญจักรพรรดิมาลา, เล่ม ๖๒ ตอนที่ ๕๕ ง หน้า ๑๔๗๗, ๒ ตุลาคม ๒๔๘๘
  13. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักคณะรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์, เล่ม ๗๑ ตอนที่ ๖ ง หน้า ๓๕๐, ๒๖ มกราคม ๒๔๙๗
  14. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ, เล่ม 84 ตอนที่ 73 หน้า 2238, 8 สิงหาคม 2510
Kembali kehalaman sebelumnya