รถไฟฟ้าขนส่งมวลชนจังหวัดเชียงใหม่ เป็นโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าในพื้นที่เทศบาลนครเชียงใหม่และชานเมืองเชียงใหม่ โดยมีการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยเป็นผู้รับผิดชอบ[1] แผนแม่บทรถไฟฟ้าจังหวัดเชียงใหม่แบ่งออกเป็นสามสายทั้งแบบระดับดินและใต้ดิน มูลค่าลงทุนรวมทั้งสิ้น 95,321 ล้านบาท[2] ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนออกแบบและศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม
ภูมิหลัง
- ปี 2536 การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นองค์กรที่ควบคุมและดูแลในเรื่องของระบบขนส่งสาธารณะระบบราง หรือรถไฟฟ้าในขณะนั้นได้เปิดเผยโครงการการจัดสร้างระบบขนส่งในหัวเมืองใหญ่ 8 เมือง อันได้แก่ เชียงใหม่ พิษณุโลก ขอนแก่น นครราชสีมา สงขลา ภูเก็ต ฉะเชิงเทรา และชลบุรี ซึ่งดูเหมือนว่าโครงการที่ดูเป็นรูปเป็นร่างที่สุดในตอนนั้นก็คือโครงการของจังหวัดเชียงใหม่ หลังจากการทำแผนพัฒนาและสำรวจเส้นทางที่เหมาะสมกับประชาชนแล้วเสร็จ[3]เเรื่องการมีรถไฟฟ้าในเทศบาลนครเชียงใหม่และพื้นที่ต่อเนื่องนั้น เป็นสิ่งที่พูดถึงอย่างจริงจังในการศึกษาเพื่อจัดทำระบบขนส่งมวลชนสาธารณะสำหรับเมืองเชียงใหม่ ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการแล้ว 4 ครั้ง[4] ได้แก่
- ปี พ.ศ. 2537-2543 ดำเนินการโดยการทางพิเศษ ที่ขณะนั้นมีอำนาจในระบบขนส่งสาธารณะ มีการนำเสนอถึงการนำรถไฟฟ้าใต้ดินมาใช้ ในรูปแบบรถไฟรางเบา ในขณะนั้นมีการวางไว้ระบบรถไฟฟ้าไว้หลายจังหวัด อาทิ เชียงใหม่ พิษณุโลก ขอนแก่น นครราชสีมา สงขลา ภูเก็ต ฉะเชิงเทรา และชลบุรี ที่ดูเป็นไปได้สุดคือเชียงใหม่[5] มีการได้ดำเนินการถึงขั้นมีการออกแบบในรายละเอียด[6]แต่ในช่วงเวลาดังกล่าวได้เกิดการปรับเปลี่ยนหน้าที่ความรับผิดชอบของการทางพิเศษขึ้น โดยมีการจัดตั้งองค์การรถไฟฟ้ามหานคร หรือ รฟม. ขึ้นมารับผิดชอบงานด้านรถไฟฟ้าโดยเฉพาะ ซึ่งในเวลานั้นทาง รฟม. ได้มุ่งให้ความสำคัญในการจัดสร้างระบบรถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานครเป็นหลัก จึงทำให้ไม่ได้สานต่อโครงการนี้
- ปี พ.ศ. 2548 ดำเนินการโดยสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข. มีการดำเนินการถึงขั้นออกแบบในรายละเอียดของระบบรถไฟฟ้าสำหรับเมืองเชียงใหม่ แต่หลังจากทำการศึกษาเสร็จสิ้นก็เกิดการรัฐประหาร มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายของรัฐบาลในหลายๆ ด้าน ทำให้โครงการนี้ไม่ได้รับการผลักดันต่อ
- ปี พ.ศ. 2557 ดำเนินการโดยสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) มีการยกระบบรถไฟฟ้าขึ้นเป็นหนึ่งในตัวเลือก แต่การดำเนินการยังไม่ได้คืบหน้ามากนัก และยุติลงหลังจากกระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้ สนข. ศึกษาเพื่อจัดทำระบบขนส่งมวลชนสาธารณะสำหรับเมืองเชียงใหม่ในปี พ.ศ. 2559
- ปี พ.ศ. 2559 ดำเนินการโดย สนข. ซึ่งได้นำเสนอแผนแม่บท ประกอบด้วยรถไฟฟ้ารางเบา หรือ Light Rail Transit (LRT) 3 เส้นทาง และระบบ Feeder ที่เป็นรถเมล์โดยสารสาธารณะ 14 เส้นทาง มีระยะทางรวมประมาณ 210 กม. โดยคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก ได้มีมติให้ รฟม. ดำเนินการออกแบบทางวิศวกรรม เพื่อก่อสร้างต่อไป
- ปี พ.ศ. 2565 ดร. ประชัน หันชัยเนาว์ รองประธานชมรมธนาคารจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงความคืบหน้ารถไฟฟ้าเชียงใหม่ ช่วงโรงพยาบาลนครพิงค์ถึงแยกแม่เหียะ ระยะทาง 15.7 กม. คาดเริ่มดำเนินการก่อสร้างปี 2568 ด้านรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คาดการณ์ว่ารถไฟฟ้าเชียงใหม่จะเปิดบริการเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2571[7] [8]
- ปี พ.ศ. 2567 รัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน ผลักดันรถไฟฟ้าเชียงใหม่ โดยจะเริ่มดำเนินการหลังวงแหวนแล้วเสร็จ[9][10]
เส้นทาง
เส้นทาง |
มูลค่าลงทุน (ล้านบาท) |
ระยะทาง (กิโลเมตร) |
จำนวนสถานี |
ต้นทาง |
ปลายทาง
|
■ สายสีแดง |
28,726.80 |
16.50 |
16 |
โรงพยาบาลนครพิงค์ |
แยกแม่เหียะสมานสามัคคี
|
■ สายสีน้ำเงิน |
30,399.82 |
10.47 |
13 |
สวนสัตว์เชียงใหม่ |
แยกศรีบัวเงินพัฒนา
|
■ สายสีเขียว |
36,195.04 |
11.92 |
10 |
แยกรวมโชคมีชัย |
ท่าอากาศยานเชียงใหม่
|
รวม |
95,321.66 |
38.89 |
37*
|
|
หมายเหตุ: * กรณีนับสถานีร่วมเป็นหนึ่งสถานี
ปัญหาและอุปสรรค
มีการคัดค้านจากประชาชนบางส่วนในการก่อสร้างรถไฟฟ้ายกระดับ (elevated railway) หรือรถไฟลอยฟ้า ด้วยเหตุผลว่าอาจจะบดบังและทำลายทัศนียภาพของเมือง โดยเฉพาะในพื้นที่เขตเมืองเก่าและพื้นที่ใกล้ดอยสุเทพ และคัดค้านการสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินในพื้นที่ที่มีความอ่อนไหวทางด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยเฉพาะพื้นที่ในเขตที่จะเสนอให้เป็นแหล่งมรดกโลก ได้แก่ พื้นที่ในเขตกำแพงเมืองเก่า พื้นที่เมืองเก่าในเขตแนวกำแพงดิน และพื้นที่ในเขตเวียงสวนดอก[11]
อ้างอิง
ดูเพิ่ม
|
---|
อำเภอ | | |
---|
ประวัติศาสตร์ | |
---|
ภูมิศาสตร์ | |
---|
เศรษฐกิจ | |
---|
สังคม | การศึกษา | |
---|
วัฒนธรรม | |
---|
กีฬา | |
---|
การเมือง | |
---|
|
---|
|