มหาวิทยาลัยแม่โจ้
มหาวิทยาลัยแม่โจ้ (อังกฤษ: Maejo University; อักษรย่อ: มจ. – MJU) เป็นสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ ตั้งอยู่ที่อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ก่อตั้งเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2477 โดยมีรากฐานจาก "โรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมประจำภาคเหนือ" จนได้รับการเปลี่ยนสถานะเป็นมหาวิทยาลัยแม่โจ้เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐลำดับที่ 23 ในประเทศไทย เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เปลี่ยนสถานภาพเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ ประวัติ“ โรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรม “มหาวิทยาลัยแม่โจ้มีการพัฒนาจาก โรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมประจำภาคเหนือ ซึ่งได้รับการสถาปนาเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2477[4] ตามคำบัญชาของเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี (สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงธรรมการในขณะนั้นเพื่อเป็นการขยายการศึกษาด้านการเกษตรไปยังส่วนภูมิภาคมากขึ้น ซึ่งโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมประจำภาคเหนือถือเป็นสถานศึกษาด้านการเกษตรแห่งแรกที่ตั้งอยู่ในส่วนภูมิภาค โดยตั้งอยู่บนพื้นที่จำนวน 900 ไร่เศษบริเวณพื้นที่บ้านแม่โจ้ ตำบลหนองหาร อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ควบคู่กับสถานีทดลองกสิกรรมภาคพายัพ มีพระช่วงเกษตรศิลปการ (ช่วง โลจายะ)|พระช่วงเกษตรศิลปการเป็นอาจารย์ใหญ่คนสุดท้ายของโรงเรียน รับนักเรียนจากผู้ที่สำเร็จมัธยมปีที่ 6 หรือประกาศนียบัตรครูมูลเข้าศึกษาในหลักสูตรกำหนดเวลาเรียน 2 ปี โดยได้รับประกาศนียบัตรประโยคครูประถมกสิกรรม (ป.ป.ก.) มีนักเรียนเข้าศึกษาในปีแรกจำนวน 48 คน ซึ่งในขณะนั้นพื้นที่ของโรงเรียนเรียนมีความไม่พร้อมในการทำเกษตรกรรมเนื่องจากเป็นพื้นที่ดินทรายจึงต้องมีการปรับปรุงดินให้ใช้ในกการทำการเกษตรได้ อีกทั้งสิ่งปลูกสร้างต่างๆเช่น ห้องเรียน เรือนนอน โรงอาหารและบ้านพักครู ต้องจัดสร้างขึ้นอย่างชั่วคราวเพื่อให้ทันต่อนโยบายของกระทรวงธรรมการในการเปิดโรงเรียน ทำให้ช่วงแรกของการก่อตั้งมีความยากลำบากอย่างมาก ต่อมาได้มีการเปลี่ยนสถานะของโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมประจำภาคเหนือเป็น โรงเรียนมัธยมวิสามัญเกษตรกรรมภาคเหนือ ในปี พ.ศ. 2479 หลังเปิดการการเรียนการสอนได้เพียง 3 รุ่น ซึ่งกระทรวงธรรมการเห็นว่าหลักสูตรประโยคครูประถมกสิกรรมที่เปิดไปมีผู้สำเร็จการศึกษาจำนวนเพียงพอและมีสถานศึกษาที่ต้องใช้ครูเกษตรจำนวนน้อย จึงเปิดหลักสูตรมัธยมวิสามัญเกษตรกรรม (มก.) ขึ้นแทนโดยรับผุ้ที่สำเร็จการศึกษาขั้นมัธยมปีที่ 4 เข้าศึกษาโดยกำหนดเวลาเรียน 4 ปี มีผู้สำเร็จการศึกษาในหลักสูตรจำนวน 4 รุ่น โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในปี พ.ศ. 2481 ไดมีการยุบรวมโรงเรียนมัธยมวิสามัญเกษตรกรรมในส่วนภูมิภาค ได้แก่ ภาคใต้ที่ตำบลคอหงส์ จังหวัดสงขลา ภาคกลางที่อำเภอบางกอกน้อย จังหวัดธนบุรี และภาคอีสานที่ตำบลโนนวัด จังหวัดนครราชสีมา แต่มิได้ยุบโรงเรียนมัธยมวิสามัญเกษตรกรรมภาคเหนือจากการผลักดันของพระช่วงเกษตรศิลปการ (ช่วง โลจายะ) หลวงสุวรรณวาจกกสิกิจและหลวงอิงคศรีกสิการ ให้มีการรักษาโรงเรียนมัธยมวิสามัญเกษตรกรรมไว้ซึ่งต่อมาได้ยกฐานะเป็น วิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สังกัดกระทรวงเกษตราธิการ โดยรับผู้ที่สำเร็จชั้นมัธยม 8 เข้าศึกษาในหลักสูตรอนุปริญญาทางเกษตรศาสตร์ สหกรณ์และวนศาสตร์เป็นเวลา 2 ปี โดยมีพระช่วงเกษตรศิลปการเป็นผู้อำนวยการคนแรก ซึ่งต่อมาได้เป็นรากฐานของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในปัจจุบัน ในปี พ.ศ. 2482 วิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ย้ายที่ตั้งจากแม่โจ้ไปยังสถานีเกษตรกลาง อำเภอบางเขน จังหวัดพระนคร โดยในส่วนของพื้นที่แม่โจ้นั้นได้ก่อตั้งเป็น โรงเรียนเตรียมเกษตรศาสตร์ โดยรับผู้สำเร็จชั้นมัธยมปีที่ 6 เข้าศึกษาในหลักสูตร 2 ปี เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วจึงสามารถเข้าศึกษาในระดับปริญญาที่วิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่บางเขนได้โดยไม่ต้องสอบ เมื่อวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้รับการสถาปนาเป็นมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในปี พ.ศ. 2486 โรงเรียนเตรียมเกษตรศาสตร์จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สถาบันอาชีวศึกษาในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ประสบปัญหาจากความรุนแรงที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามดังกล่าวทำให้มีผู้สมัคเรียนจำนวนน้อยอีกทั้งยังมีการคมนาคมที่ลำบากและห่างไกลจากกรุงเทพมหานครมาก จึงมีแนวคิดที่จะยุบโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ลงในปี พ.ศ. 2488 โดยได้มีการงดการรับนักศึกษาในปี พ.ศ. 2490 - 2491 เนื่องจากขาดงบประมาณและจำนวนผู้เรียนน้อย จนกระทั่งปี พ.ศ. 2491 กระทรวงเกษตราธิการได้โอนกิจการของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ให้กับกรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ โดยเปลี่ยนสถานะเป็นสถานศึกษาในระดับอาชีวศึกษาใช้ชื่อว่า โรงเรียนเกษตรกรรมแม่โจ้ และเริ่มเปิดสอนในปี พ.ศ. 2492 โดยรับจากผู้สำเร็จชั้นมัธยมปีที่ 6 เข้าศึกษาในหลักสูตร 3 ปี เมื่อสำเร็จแล้วจะได้รับประกาศนียบัตรอาชีวชั้นสูง แผนกเกษตรกรรม และต่อมาได้เปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น วิทยาลัยเกษตรกรรมเชียงใหม่ ในปี พ.ศ. 2499 มหาวิทยาลัยในปี พ.ศ. 2518 ได้มีการเปลี่ยนสถานะของวิทยาลัยเกษตรกรรมเชียงใหม่ใหม่เป็น สถาบันเทคโนโลยีการเกษตร[5] และย้ายสังกัดจากกรมอาชีวศึกษาไปสังกัดทบวงมหาวิทยาลัยแทน โดยเปิดสอนในหลักสูตรเทคโนโลยีการเกษตรบัณฑิต (ทก.บ.) ซึ่งเป็นหลักสูตรแรกในระดับปริญญาตรี รวมถึงในระดับอนุปริญญา ประกาศนียบัตรบัณฑิตชั้นสูงและประกาศนียบัตรบัณฑิต และได้เปลี่ยนชื่อสถาบันในปี พ.ศ. 2525 เป็น สถาบันเทคโนโลยีการเกษตรแม่โจ้ เนื่องจากคำว่าแม่โจ้เป็นที่รู้จักของบุคคลทั่วไปมากกว่า[6] สถาบันเทคโนโลยีการเกษตรแม่โจ้ได้รับการสถานปนาเป็น มหาวิทยาลัยแม่โจ้ [7] เมื่อวัน 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 เพื่อขยายขอบเขตการให้การศึกษาและเกิดความคล่องตัวทางวิชาการและการบริหารมากขึ้น โดยปัจจุบันมีการเปิดสอนในระดับปริญญาตรีถึงปริญญาเอกโดยมีความหลากหลายในสาขาวิชานอกเหนือจากสาขาเกษตรกรรมซึ่งแม่โจ้มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะทางด้านการปฏิบัติมาตั้งแต่ในช่วงของการศึกษาด้านอาชีวศึกษา รวมถึงยังมีการจัดตั้งวิทยาเขตเพื่อขยายการศึกษาไปยังส่วนภูมิภาคต่างๆ โดยวิทยาเขตแรกคือมหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติตั้งอยู่ที่อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ และมหาวิทยาลัยแม่โจ้-ชุมพรที่อำเภอละแม จังหวัดชุมพร มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยแม่โจ้ พ.ศ. 2539 เปลี่ยนสถานะจากมหาวิทยาลัยของรัฐเป็น มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ ภายในการกำกับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยไม่สังกัด สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยแม่โจ้ พ.ศ. 2560 ซึ่งประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา ในวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2560 และมีผลบังคับใช้ 30 วันนับจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไปคือให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 สัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัยต้นไม้สัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัย คือ อินทนิล[8]
รายนามอธิการบดี
การจัดอันดับและมาตรฐานของมหาวิทยาลัยการจัดอันดับโดย Webometrics Ranking of World University การจัดอันดับโดย เว็บโอเมตริกซ์ (Webometrics) ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อแสดงความตั้งใจของสถาบันต่าง ๆ ในการเผยแพร่ความรู้สู่เว็บไซต์ และเป็นความริเริ่มเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงความรู้อย่างเปิดกว้าง (Open Access) ทั่วโลก โดยบ่งบอกถึงปริมาณและคุณภาพของสิ่งตีพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ของสถาบัน เพื่อใช้ร่วมกับตัวชี้วัดอื่น ๆ ในการประเมินผลงานวิจัยของสถาบัน ซึ่งทางเว็บโอเมตริกซ์ได้จัดอันดับปีละ 2 ครั้งในเดือนมกราคม และกรกฎาคม ล่าสุดเดือนมกราคม พ.ศ. 2564 มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อยู่ในอันดับที่ 2,875 ของโลก อันดับที่ 97 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อันดับที่ 23 ของมหาวิทยาลัยในประเทศไทย[11] การจัดอันดับโดย UI Green Metric World University Ranking เป็นการจัดอันดับมหาวิทยาลัยสีเขียวที่จัดโดยมหาวิทยาลัยอินโดนีเซีย ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อสนับสนุนการเป็นมหาวิทยาลัยยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมทั่วโลก มหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้รับการจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยสีเขียวอันดับ 9 ของมหาวิทยาลัยในประเทศไทย และเป็นอันดับที่ 121 ของโลกในปี 2664[12] การจัดอันดับโดย SDG Impact Ranking the Times Higher Education Impact Rankings (Impact Rankings) เป็นการจัดอันดับสถาบันอุดมศึกษาทั่วโลกที่มีการดำเนินงานเพื่อสนับสนุน เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของ องค์การสหประชาชาติ (United Nations-UN) โดยมีเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน มี 17 เป้าหมาย มีตัวชี้วัดที่กำหนดขึ้นมา ทั้งหมด 4 ด้าน ได้แก่ • Research : มีการทำวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้ง 17 ด้าน • Stewardship: มีการดูแลรับผิดชอบทรัพยากรของสถาบัน • Outreach : มีการทำงานร่วมกับหน่วยงานระดับ ท้องถิ่น ภูมิภาค ชาติและนานาชาติ • Teaching : การสอนมีบทบาทสำคัญในการผลิตบุคลากรที่มีทักษะและเชี่ยวชาญในส่งเสริมให้เป้าหมายทั้ง 17 เป้าหมายของสหประชาชาติประสบความสำเร็จ และเพื่อให้แน่ใจว่าบัณฑิตของสถาบันนำสิ่งที่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับความยั่งยืนไปประยุกต์ใช้ในอาชีพการงานของตน โดยมหาวิทยาลัยแม่โจ้อยู่ในอันดับที่ 5 ของประเทศไทย อันดับที่ 301-400 ของโลก [13] การจัดอันดับโดย SCD Ranking Sustainable Community Development University Rankings (SCDUR) การจัดอันดับมหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน (SCDUR) จัดขึ้นโดยมูลนิธิเพื่อการส่งเสริมกระทรวงมหาวิทยาลัย (UFPMUA) ประเทศไทย เกณฑ์การให้คะแนน จะดูจากการดำนเนินงานของมหาวิทยาลัย ที่ ครอบคลุม 7 ด้าน ได้แก่ · นโยบายการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน · หลักสูตรศึกษา-สอนเกี่ยวกับการพัฒนาชุมชนอย่าง · บริการวิชาการเพื่อการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน · การหล่อเลี้ยงวัฒนธรรมเพื่อการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน · การวิจัยการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน · ศิษย์เก่าที่ทำงานในชุมชนเพื่อการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน · รางวัลด้านการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน ซึ่งทางมหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับที่ 2 ของมหาวิทยาลัยในประเทศไทย การจัดอันดับโดย 4 International Colleges & Universities การจัดอันดับเว็บไซต์มหาวิทยาลัยโดยระบบ 4 International Colleges & Universities (4icu.org) ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระ มีสำนักงานอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย ดำเนินการจัดอันดับความนิยมเว็บไซต์ ของมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยต่าง ๆ ในประเทศและทั่วโลกมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2005 โดยรายงาน ผลปีละ 2 ครั้ง คือ เดือนมกราคมและเดือนกรกฎาคม มีจุดมุ่งหมายเพื่อจัดอันดับความนิยมของมหาวิทยาลัย และวิทยาลัยนานาชาติ บนพื้นฐานของความนิยมในการเข้าติดตามชมเว็บไซต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่จะเป็น เว็บไซต์ที่ช่วยให้นักศึกษานานาชาติได้เข้าใจเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยนานาชาติมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การที่เว็บไซต์ที่มีข้อมูลถูกต้อง ครบถ้วน และมีการ Update ข้อมูลข่าวสารที่สม่าเสมอจะถูกนำมาใช้ในการ พิจารณาจัดอันดับอีกด้วย ล่าสุดปี 2564 มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อยู่ในอันดับที่ 3,799 ของโลก อันดับที่ 28 ของมหาวิทยาลัยในประเทศไทย [14] การจัดอันดับโดย SCIMAGO SCImago Institutions Ranking การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดย SCIMAGO เป็นการจัดอันดับสถาบันที่มีผลงานวิจัยในระดับนานาชาติ ในด้านของความสามารถในการเผยแพร่ผลงานวิชาการทุกประเภท (หรือมหาวิทยาลัยบนฐานข้อมูล Scopus) การจัดอันดับนั้นสามารถดูได้ทั้งแบบในภาพรวม หรือเลือกดูเฉพาะกลุ่ม ซึ่งการเลือกดูเฉพาะกลุ่ม จะแยกเป็นประเภทสาขาวิชา ซึ่งแบ่งเป็น 19 กลุ่ม เช่น Agricultural and biological sciences และ Computer science ในปี พ.ศ. 2566 มหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้รับการจัดอันดับ ดังนี้ - Overall Rank อับดับที่ 9 ของมหาวิทยาลัยไทย - Research Rank อับดับที่ 10 ของมหาวิทยาลัยไทย - Innovation Rank อับดับที่ 7 ของมหาวิทยาลัยไทย [15] การจัดอันดับ UPM (University Performance Metric) การจัดอันดับ UPM (University Performance Metric) เป็นการจัดอันดับมหาวิทยาลัยด้วยการวัดระดับประสิทธิภาพ มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินการตอบสนองของมหาวิทยาลัยในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งเป็นยุคของการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำ 100 อันดับแรกของเอเชีย โดยมหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้รับ 658 คะแนน อยู่ในลำดับที่ 5 ของประเทศไทย อันดับที่ 16 ของเอเชีย [16] การจัดอันดับโดย U-MultiRank การจัดอันดับเชิงเปรียบเทียบสถาบันการศึกษาในหลากหลายมิติ ดำเนินการโดยนักวิชาการจากสถาบันการศึกษาต่างๆ ในทวีปยุโรป ซึ่งจะประเมินมหาวิทยาลัยผ่านเกณฑ์ในการพิจารณา 5 ด้าน คือ · ด้านการสอนและการเรียนรู้ (Teaching and Learning) · ด้านการวิจัย (Research) · ด้านการถ่ายทอดความรู้ (Knowledge Transfer) · ด้านความเป็นนานาชาติ (International Orientation) · ด้านการมีส่วนร่วมในภูมิภาค (Regional Engagement) โดยการจัดอันดับประจำปี ค.ศ. 2021 มหาวิทยาลัยแม่โจ้อยู่ในอันดับที่ 28 ของประเทศไทย และอยู่ในอันดับที่ 3,799 ของโลก [17] การจัดอันดับโดย URAP University Ranking by Academic Performance เป็นการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก มีวัตถุประสงค์หลักคือ ต้องการที่จะพัฒนาระบบการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก โดยมีพื้นฐานทางด้านวิชาการตรงตามกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คุณภาพและปริมาณของบทความตีพิมพ์ทางวิชาการ บทความวิจัย การเผยแพร่ และการอ้างอิง เป็นต้น โดยเริ่มทำการเผยแพร่งานวิจัยผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา โดยมหาวิทยาลัยแม่โจ้อยู่ในอันดับที่ 21 ของประเทศไทย และอันดับที่ 2,822 ของโลก การจัดอันดับโดย Nature Index (Thailand) เป็นการจัดอันดับตัวชี้วัดคุณภาพงานวิจัย โดยจัดอันดับประเทศและสถาบัน ด้วยการพิจารณาการตีพิมพ์บทความวิจัย ในวารสารที่มีผลกระทบสูงและเป็นที่ยอมรับของแต่ละสาขาในเครือ Nature Research ซึ่งแบ่งเป็น 4 สาขาวิชา • วิทยาศาสตร์กายภาพ (Physical Sciences) • วิทยาศาสตร์ชีวภาพ (Life Sciences) • เคมี (Chemistry) • วิทยาศาสตร์โลกและสิ่งแวดล้อม (Earth & Environmental Sciences)
หน่วยงานภายในมหาวิทยาลัย
วิทยาเขตมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ตั้งอยู่บนถนนเชียงใหม่-พร้าว ในพื้นที่ตำบลหนองหาร อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ โดยห่างจากตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่ 10 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมด 12,879 ไร่ อยู่ใน 3 จังหวัด คือ
พิธีพระราชทานปริญญาบัตรพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระองค์เสด็จพระราชดำเนินมาในการพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ครั้งแรก เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2521 และได้เสด็จพระราชดำเนินในการพิธีพระราชทานปริญญาบัตรด้วยพระองค์เองเรื่อยมา แต่ในปัจจุบันพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารีเสด็จแทนพระองค์ในการพระราชทานปริญญาบัตร แก่บัณฑิต มหาบัณฑิต และดุษฎีบัณฑิตของมหาวิทยาลัยแม่โจ้เป็นประจำทุกปี ดังนั้น วันพระราชทานปริญญาบัตรของทุกปี จึงจัดให้อยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ตามอย่างคราวรับพระราชทานปริญญาบัตร ครั้งแรก ในคราวรับพระราชทานปริญญาบัตรครั้งแรกนั้นจัดขึ้นที่อาคารแผ่พืชน์ ซึ่งในปี 2558 เป็นครั้งที่ 37 บัณฑิตรุ่นที่ 38 ปัจจุบันพิธีพระราชทานปริญญาบัตร จัด ณ ศูนย์กีฬากาญจนาภิเษก รัชกาลที่ 9 มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 19 - 20 กุมภาพันธุ์ 2558 บุคคลสำคัญจากมหาวิทยาลัยอ้างอิง
ดูเพิ่มแหล่งข้อมูลอื่น |