มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เป็นมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของรัฐ ได้รับการยกฐานะขึ้นจากวิทยาเขต ของสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล โดยชื่อ "ราชมงคล" นั้น ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2533 พร้อมทั้งพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้อัญเชิญ "พระมหาพิชัยมงกุฎ" และ "พระราชลัญจกร" ประจำพระองค์ ให้เป็นตราสัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เป็นศูนย์กลางการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในภูมิภาคภาคเหนือของประเทศไทย โดยมีการเรียนการสอน 5 ระดับ คือ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ระดับปริญญาตรี ระดับปริญญาโท และระดับปริญญาเอก ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา จะได้เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัย ในระยะแรก พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ในช่วงเดือนพฤศจิกายนหรือธันวาคมเป็นประจำทุกปี ต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ ประวัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล จัดตั้งขึ้นเป็นสถาบันอุดมศึกษาระดับปริญญาครั้งแรก เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2518 โดยพระราชบัญญัติวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา พ.ศ. 2518 ใช้ชื่อว่า “วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา” และโอนวิทยาลัยเทคนิค วิทยาลัยเกษตรกรรม และวิทยาลัยต่าง ๆ ในสังกัดกรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ เข้ามาสังกัด ต่อมาพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า “ราชมงคล” เมื่อวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2531 (วันราชมงคล) พร้อมทั้งมีพระราชบัญญัติเปลี่ยนชื่อวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาเป็นสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล พ.ศ. 2532 ทำให้วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา ได้รับการเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล" ในระยะต่อมาได้มีการตราพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ซึ่งกำหนดให้สถาบันการศึกษาที่เปิดสอนระดับปริญญาต้องเป็นนิติบุคคล[3] ทำให้สถาบันเทคโนโลยีราชมงคลเริ่มมีแนวคิดในการยกฐานะเป็นมหาวิทยาลัยนิติบุคคล กระทั่งเมื่อวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2548 พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล พ.ศ. 2548[4] ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นผลให้มีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลเกิดขึ้นใหม่ จำนวน 9 แห่ง เป็นสถาบันอุดมศึกษาด้านวิชาชีพและเทคโนโลยี จัดการศึกษาด้านวิชาชีพชั้นสูงที่เน้นการปฏิบัติ ผลิตครูวิชาชีพ และให้ผู้สำเร็จอาชีวศึกษามีโอกาสในการศึกษาต่อด้านวิชาชีพเฉพาะทางระดับปริญญาเป็นหลัก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ได้หลอมรวมเอาวิทยาเขต และสถาบันวิจัย จำนวน 7 แห่งเข้าด้วยกัน ประกอบด้วย วิทยาเขตภาคพายัพ จังหวัดเชียงใหม่ วิทยาเขตน่าน วิทยาเขตตาก วิทยาเขตลำปาง วิทยาเขตพิษณุโลก วิทยาเขตเชียงราย และสถาบันวิจัยและฝึกอบรมการเกษตรลำปาง ต่อจากนั้นในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2549 ได้มีการจัดตั้งส่วนราชการภายในมหาวิทยาลัย ซึ่งประกอบด้วย 4 คณะ 1 วิทยาลัย 4 สำนัก-สถาบัน และ 5 สำนักงานบริหารฯ (เขตพื้นที่)[5] โดยวิทยาเขตภาคพายัพ มีฐานะเป็นศูนย์กลางมหาวิทยาลัย ต่อมาสภามหาวิทยาลัย ได้มีมติให้จัดตั้งสำนักงานบริหารมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ภาคพายัพเชียงใหม่ ส่งผลให้ภาคพายัพ มีฐานะเป็นเขตพื้นที่เช่นเดียวกันกับเขตพื้นที่อื่น[6] จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2557 จึงได้มีการเปลี่ยนแปลงสถานะของเขตพื้นที่ภาคพายัพ ให้เป็นศูนย์กลางของมหาวิทยาลัยดังเดิม สถานที่ตั้งและหน่วยงานในมหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา มีสำนักงานอธิการบดี ตั้งอยู่เลขที่ 128 ถนนห้วยแก้ว ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50300 เขตพื้นที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา มีเขตพื้นที่จัดการเรียนการสอนตั้งอยู่ในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคเหนือของประเทศไทย ได้แก่ [7] ศูนย์กลางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา (ส่วนกลาง) มีพื้นที่จัดการเรียนการสอนและการบริการวิชาการ จำนวน 4 แห่ง ในพื้นที่ 3 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่
เขตพื้นที่เชียงราย เป็นวิทยาเขตที่จัดตั้งขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติ 50 ปี ในปี พ.ศ. 2539 เพื่อกระจายโอกาสทางการศึกษาและพัฒนาสู่ท้องถิ่น[8] โดยมุ่งเน้นเป้าหมายในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน และพื้นที่ เขตสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ ตั้งอยู่ในเขตนิคมแม่ลาว ตำบลทรายขาว อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย บนเนื้อที่ 5,000 ไร่ โดยในระยะแรกได้จัดการเรียนการสอนโดยใช้วิธีการฝากเรียนที่วิทยาเขตภาคพายัพ จังหวัดเชียงใหม่ แล้วจึงย้ายมาเปิดทำการเรียนการสอนที่จังหวัดเชียงราย ในปีการศึกษา 2544 เป็นปีแรก ปัจจุบันเขตพื้นที่เชียงราย เปิดทำการเรียนการสอน 3 ระดับ คือ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) และระดับปริญญาตรี ใน 3 คณะ คือ คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะบริหารธุรกิจและศิลปศาสตร์ และวิทยาลัยเทคโนโลยีและสหวิทยาการ รวมจำนวนนักศึกษา 1,439 คน[9] เขตพื้นที่น่าน จัดตั้งขึ้นเป็นโรงเรียนเกษตรกรรมน่าน เมื่อปี พ.ศ. 2481 ตั้งอยู่ที่ตำบลฝายแก้ว อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน จัดการเรียนการสอนเน้นด้านเกษตรศาสตร์เป็นหลัก ต่อมาจึงได้รับการยกฐานะเป็นวิทยาลัยเกษตรกรรมน่าน ในปี พ.ศ. 2517 และโอนมาสังกัดวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา ในปีถัดมา ปัจจุบันเปิดสอน 2 ระดับ คือ ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) และปริญญาตรี ใน 3 คณะ คือ คณะบริหารธุรกิจและศิลปศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ และคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตร มีจำนวนนักศึกษา 888 คน[9] เขตพื้นที่ลำปาง เดิมคือ โรงเรียนเกษตรกรรมลำปาง ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2515 ตั้งอยู่ที่ตำบลพิชัย อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง บนเนื้อที่ 1,381 ไร่ (ใช้ร่วมกับสถาบันวิจัยและฝึกอบรมการเกษตรลำปาง) จัดการเรียนการสอนด้านเกษตรศาสตร์ เป็นที่รู้จักทั่วไปในชื่อ เกษตรแม่วัง ต่อมาในปี พ.ศ. 2518 จึงได้โอนมาสังกัดวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา และเปลี่ยนชื่อเป็น "วิทยาเขตลำปาง" เขตพื้นที่ลำปาง อยู่ห่างจากตัวเมืองลำปาง ตามถนนพหลโยธิน ประมาณ 16 กิโลเมตร มีความโดดเด่นในการจัดการศึกษาและการวิจัยด้านการเกษตร ร่วมกับสถาบันวิจัยเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ปัจจุบันเปิดทำการสอน 3 ระดับ คือ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ระดับปริญญาตรี และระดับปริญญาโท ใน 3 คณะ คือ คณะบริหารธุรกิจและศิลปศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ และคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตร มีจำนวนนักศึกษา 765 คน[9] ในอดีตคือโรงเรียนประถมอาชีพช่างไม้ตาก เปิดทำการสอนครั้งแรกในปี พ.ศ. 2481 โดยใช้สถานที่ของโรงเรียนตากพิทยาคม เปิดสอนวิชาช่างไม้ชั้นต้น จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2500 จึงได้ย้ายสถานที่มายังที่ตั้งปัจจุบันบริเวณถนนพหลโยธิน ตำบลไม้งาม อำเภอเมืองตาก จังหวัดตาก ปัจจุบันเปิดทำการสอน 3 ระดับ คือ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง และระดับปริญญาตรี ในทุกคณะ มีจำนวนนักศึกษา 3,110 คน[9] เขตพื้นที่พิษณุโลก ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2496 โดยใช้ชื่อว่า "โรงเรียนเกษตรกรรมพิษณุโลก" ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านกร่าง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก บนเนื้อที่ 572 ไร่ จัดการเรียนการสอนด้านเกษตรกรรม และสัตวศาสตร์เป็นหลัก เป็นที่รู้จักในนาม เกษตรบ้านกร่าง[10] ปัจจุบันเขตพื้นที่พิษณุโลก เปิดทำการเรียนการสอน 2 ระดับ คือ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) และระดับปริญญาตรี ใน 3 คณะ คือ คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตร และคณะบริหารธุรกิจและศิลปศาสตร์ มีจำนวนักศึกษา 798 คน[9] คณะ และวิทยาลัย
หน่วยงานสนับสนุนการจัดการศึกษา
การเดินทางสู่มหาวิทยาลัยการเดินทางมาสู่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา (สำนักงานอธิการบดี) จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานคณะ สถาบัน วิทยาลัย และส่วนราชการต่างๆ ในสังกัดมหาวิทยาลัยฯ หากเดินทางจากกรุงเทพมหานคร ตามถนนเชียงใหม่-ลำปาง จนสิ้นสุดที่ทางแยกรินคำ จากนั้นจึงเลี้ยวซ้ายตามถนนห้วยแก้ว ประมาณ 3 กิโลเมตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ตั้งอยู่ขวามือ ตรงข้ามกับสวนรุกขชาติห้วยแก้ว เยื้องจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เล็กน้อย สำหรับการเดินทางภายในจังหวัดเชียงใหม่ สามารถเดินทางได้ด้วยรถสี่ล้อแดง (รถสองแถว) รถแท๊กซี่ หรือรถโดยสารประจำทาง ดังนี้
รายนามอธิการบดี
บุคคลที่มีชื่อเสียง จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาดูบทความหลักที่ รายนามบุคคลจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
การศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เป็นสถาบันอุดมศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มุ่งผลิต บัณฑิตนักปฏิบัติ โดยมีการเรียนการสอน 4 ระดับ คือ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ระดับปริญญาตรี และระดับปริญญาโท จำนวน 85 หลักสูตร ครอบคลุมสาขาวิชาในสายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เกษตรศาสตร์ บริหารธุรกิจ ศิลปศาสตร์ ศิลปะ สถาปัตยกรรม และวิศวกรรมศาสตร์ มีนักศึกษาในสังกัดคณะและวิทยาลัยต่าง ๆ รวมกว่า 18,594 คน[15] การรับบุคคลเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ได้กำหนดวิธีการรับบุคคลเข้าศึกษาในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ระดับปริญญาตรี และระดับปริญญาโท ดังนี้ ระดับต่ำกว่าปริญญาตรี และระดับปริญญาตรี
ระดับปริญญาโทการรับสมัครบุคคลเข้าศึกษาในระดับปริญญาโท มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา จะดำเนินการรับสมัครและคัดเลือกโดยตรง ในช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปี[20] กิจกรรมนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เป็นมหาวิทยาลัยที่ผลิตบัณฑิตนักปฏิบัติ สู้งาน เชี่ยวชาญเทคโนโลยี "ดีนำเก่ง" โดยมีการจัดกิจกรรมนักศึกษาครบทั้ง 5 ด้าน[21] คือ ด้านวิชาการ ด้านกีฬาและส่งเสริมสุขภาพ ด้านบำเพ็ญประโยชน์และรักษาสิ่งแวดล้อม ด้านนันทนาการ และด้านศิลปวัฒนธรรม อาทิ ค่ายราชมงคลล้านนาอาสาร่วมใจ เป็นโครงการค่ายอาสาพัฒนา ที่องค์การนักศึกษาร่วมกับสโมสรนักศึกษาทุกเขตพื้นที่ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนจัดกิจกรรมในแต่ละจังหวัด และให้นักศึกษาในแต่ละเขตพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรมกับองค์การนักศึกษา โดยในปีแรก พ.ศ. 2548 จัดโครงการสร้างอาคารเรียนที่ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขาแม่ฟ้าหลวงบ้านสพผาหลวง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ต่อมาปี พ.ศ. 2549 จัดที่จังหวัดเชียงราย ปี พ.ศ. 2551 และ พ.ศ. 2552 ออกค่ายสร้างอาคารเรียนและระบบประปาหมู่บ้าน ณ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนรางวัลอินทิราคานธี อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่[22] ราชมงคลล้านนา สืบสานวัฒนธรรม เป็นด้านศิลปวัฒนธรรมที่จัดเป็นประจำทุกปีการศึกษา ในช่วงเดือนพฤศจิกายน โดยมีวัตถุประสงค์ให้นักศึกษาตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย ตลอดจนการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างนักศึกษาทั้ง 6 เขตพื้นที่ ซึ่งจะมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ เริ่มกิจกรรมครั้งแรกในปี พ.ศ. 2549 ที่จังหวัดลำปาง พ.ศ. 2550 ที่จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. 2551 ที่จังหวัดเชียงราย และ พ.ศ. 2552 ที่จังหวัดพิษณุโลก กีฬามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เป็นการแข่งขันกีฬาเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างนักศึกษาเขตพื้นที่ต่างๆ และคัดเลือกนักกีฬาเป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัยเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาในระดับต่างๆ ซึ่งจะจัดในช่วงเดือนพฤศจิกายน ของทุกปี กีฬามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลแห่งประเทศไทย เป็นการแข่งขันกีฬาระดับประเทศของนักศึกษาจากทั้ง 9 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล จัดขึ้นในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ของทุกปี ซึ่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเมื่อปี พ.ศ. 2552 จากการเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาดังกล่าวมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ได้เป็นครองถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 7 สมัย คือ ระหว่างปี 2549 - 2551[23][24][25] และปี 2554 - 2557
องค์กรกิจกรรมนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา มีองค์กรของนักศึกษาในระดับต่างๆ ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการประสานงาน และการดำเนินกิจกรรมของนักศึกษา[26] ได้แก่
องค์การนักศึกษาองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2548 โดยมีนายพงษ์ศักดิ์ แก้วแสนเมือง เป็นนายกองค์การนักศึกษาคนแรก และมีคณะกรรมการบริหารซึ่งเป็นตัวแทนจากวิทยาเขตในสังกัด รวม 6 คน การวิจัยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา มีส่วนงานที่มีวัตถุประสงค์หลักในการก่อตั้งเพื่อเป็นสถาบันวิจัยในศาสตร์ต่างๆ ดังนี้
ในปี พ.ศ. 2551 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา มีจำนวนผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์เผยแพร่ในระดับนานาชาติ จำนวน 20 เรื่อง และในระดับชาติ จำนวน 91 เรื่อง[28] บุคคลที่มีผลงานวิจัยโดดเด่น
อันดับและมาตรฐานมหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ได้รับการประเมินคุณภาพการศึกษาจากสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา ในปีการศึกษา 2555 ได้คะแนนเฉลี่ย 4.05 ผลการประเมินเท่ากับ "คุณภาพดี"[33] การจัดอันดับโดย เว็บโอเมตริกซ์ (Webometrics) ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อแสดงความตั้งใจของสถาบันต่าง ๆ ในการเผยแพร่ความรู้สู่เว็บไซต์ และเป็นความริเริ่มเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงความรู้อย่างเปิดกว้าง (Open Access) ทั่วโลก โดยบ่งบอกถึงปริมาณและคุณภาพของสิ่งตีพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ของสถาบัน เพื่อใช้ร่วมกับตัวชี้วัดอื่น ๆ ในการประเมินผลงานวิจัยของสถาบัน ซึ่งทางเว็บโอเมตริกซ์ได้จัดอันดับปีละ 2 ครั้งในเดือนมกราคม และกรกฎาคม ล่าสุดเดือนมกราคม พ.ศ. 2554 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา อยู่ในอันดับที่ 1,873 ของโลก อันดับที่ 68 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อันดับที่ 25 ของมหาวิทยาลัยในประเทศไทย[34] พิธีพระราชทานปริญญาบัตรศาสตราจารย์สวาสดิ์ ไชยคุณา อธิการบดีวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา ผู้บุกเบิกสถาบันฯ ได้กล่าวถึงการพระราชทานปริญญาบัตรครั้งแรกของวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาไว้ว่า
นับจากปีแรกที่ได้เริ่มสถาปนาวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา ในปี พ.ศ. 2518 และได้ดำเนินการเรียนการสอนเรื่อยมา จนกระทั่งได้ผลิตบัณฑิตและมีพิธีพระราชทานปริญญาบัตรครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2524 ซึ่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จมาพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาด้วยพระองค์เอง และพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตของวิทยาลัยอีกสามครั้งคือ ในปี พ.ศ. 2527 พ.ศ. 2530 พ.ศ. 2531 และ พ.ศ. 2533 รวมแล้วได้เสด็จมาพระราชทานปริญญาบัตรด้วยพระองค์เองจำนวน 4 ครั้ง ตั้งแต่ในปี พ.ศ. 2534 เป็นต้นมา พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ฯ มาพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตเป็นประจำทุกปี ต่อมาในปี พ.ศ. 2548 ได้มีการจัดตั้งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลขึ้น 9 แห่ง แต่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ยังคงจัดพิธีพระราชทานปริญญาบัตรร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลแห่งอื่น ๆ ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี โดยพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ฯ มาพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตเป็นประจำทุกปี ผู้สำเร็จการศึกษาประจำปีการศึกษา 2562 เป็นต้นมา ได้เปลี่ยนแปลงสถานที่รับพระราชทานปริญญาบัตร มาที่ หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ โดยกำหนดเดิมจะมีการรับพระราชทานปริญญาบัตรในระหว่างวันที่ 18-22 มกราคม 2564 แต่ถูกเลื่อนไป เนื่องจากมีการระบาดของเชื่อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในประเทศไทย จนกระทั่งกำหนดจัดพิธี ในวันที่ 16 สิงหาคม 2565 ในส่วนของผู้สำเร็จการศึกษาประจำปีการศึกษา 2563 - 2564 กำหนดจัดพิธีรับพระราชทานปริญญาบัตร ในวันที่ 20 - 21 มีนาคม 2566 และปีการศึกษา 2565 ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567 โดยพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้ พลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ อ้างอิง
ดูเพิ่มแหล่งข้อมูลอื่น |