Share to:

 

สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล

สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล
สมชิกวุฒิสภา
ดำรงตำแหน่ง
22 ตุลาคม พ.ศ. 2565 – 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2567
(1 ปี 262 วัน)
สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
ดำรงตำแหน่ง
11 ตุลาคม พ.ศ. 2559 – 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2562
(2 ปี 222 วัน)
สมาชิกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ดำรงตำแหน่ง
1 ตุลาคม พ.ศ. 2559 – 30 กันยายน พ.ศ. 2560
(0 ปี 364 วัน)
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด22 ตุลาคม พ.ศ. 2499 (68 ปี)
ศาสนาพุทธ
คู่สมรสจุรีภรณ์ นิลบรรเจิดกุล
ศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 16
โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 27
โรงเรียนเสนาธิการทหารบก
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง
รับใช้ ไทย
สังกัด กองทัพบกไทย
ยศ พลเอก

พลเอก สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล (22 ตุลาคม พ.ศ. 2499-) สมาชิกวุฒิสภาไทย ชุดที่ 12 ราชองครักษ์พิเศษ[1]ราชองครักษ์เวร[2] รองประธานกรรมการคณะกรรมการการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และรับทราบความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ พลังงานไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ รองเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ[3] อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ,สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ[4]อดีตแม่ทัพภาคที่ 3 อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 3 อดีตผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 1 อดีตอนุกรรมการในคณะอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐ[5] และอดีตผู้บังคับการจังหวัดทหารบกพะเยา

ประวัติ

พลเอก สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล เกิดวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2499 เป็นบุตรของนายนิยม และ นางเข็มทราย นิลบรรเจิดกุล มีพี่น้อง 5 คนเป็นบุตรชายคนโต

ได้สมรสกับ คุณจุรีภรณ์ นิลบรรเจิดกุล[6]ได้รับ พระราชทานยศ พลเอก เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2559

การศึกษา

พลเอกสมศักดิ์จบการศึกษาจาก โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 16 (ตท.16) และ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 27 (จปร.27) และโรงเรียนเสนาธิการทหารบกหลักสูตรหลักประจำชุดที่ 67/31

รับราชการ

เริ่มรับราชการครั้งแรก ตำแหน่งผู้บังคับหมวดเครื่องยิงลูกระเบิด กองร้อยเครื่องยิงลูกระเบิด กรมทหารม้าที่ 3 ต่อมาเป็นหัวหน้าฝ่ายยุทธการ กองพลทหารม้าที่ 1 ต่อมาเป็นผู้บังคับกองพันทหารม้าที่ 13 เป็นผู้บังคับการจังหวัดทหารบกพะเยา เป็นผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 1 เป็นรองแม่ทัพภาคที่ 3 เป็นแม่ทัพภาคที่ 3 คนที่ 38 และเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2559 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้งให้ พลเอก สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ[7]

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

อ้างอิง

  1. ประกาศแต่งตั้งราชองครักษ์พิเศษ
  2. ประกาศแต่งตั้งราชองครักษ์เวร
  3. รองประธานกรรมการคณะกรรมการการสร้างความรู้
  4. พระบรมราชโองการ ประกาศ แต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพิ่มเติม ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 133 ตอนพิเศษ 230 ง หน้า 1-2 11 ตุลาคม พ.ศ. 2559
  5. อนุกรรมการในคณะอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐ
  6. พิธีรับ-ส่งมอบหน้าที่แม่ทัพภาคที่ 3 phitsanulokhotnews.com วันศุกร์ 2 ตุลาคม 2015
  7. ราชกิจจานุเบกษา, แต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพิ่มเติม, เล่มที่ 133, ตอนพิเศษ 230 ง, 11 ตุลาคม พ.ศ. 2559, หน้า 1-2
  8. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๖๐, เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๔๗ ข หน้า ๓, ๒๘ กันยายน ๒๕๖๐
  9. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๕๘, เล่ม ๑๓๒ ตอนที่ ๓๑ ข หน้า ๑๗, ๔ ธันวาคม ๒๕๕๘
  10. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน, เล่ม ๙๙ ตอนที่ ๕๕ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๑๒๔, ๑๙ เมษายน ๒๕๒๕
  11. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญราชการชายแดน, เล่ม ๑๐๙ ตอนที่ ๔๕ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๑๓๗, ๓ เมษายน ๒๕๓๕
Kembali kehalaman sebelumnya