คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (อังกฤษ : Faculty of Education, Mahasarakham University) เป็นส่วนราชการไทยระดับคณะวิชาสังกัดมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ถือกำเนิดมาจาก "คณะวิชาการศึกษา วิทยาลัยวิชาการศึกษา มหาสารคาม" ก่อตั้งเมื่อวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2511 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตบุคลากรทางการศึกษาในสาขาวิชาการต่าง ๆ ที่มีคุณภาพ เพื่อพัฒนาการศึกษาท้องถิ่น โดยเฉพาะตามโรงเรียนโดยทั่วไปในแถบพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2517 คณะวิชาการศึกษา วิทยาลัยวิชาการศึกษา มหาสารคาม ได้ยกฐานะขึ้นเป็น "คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตมหาสารคาม" และในวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2537 ได้แยกตัวเป็นเอกเทศจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เป็น "คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม" มหาวิทยาลัยมหาสารคามได้รับการจัดอันดับเป็นสถาบันที่มีสาขาทางการศึกษาที่ดีที่สุดอันดับที่ 11 ในประเทศไทย[3] ในส่วนของการรับบุคคลเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยมหาสารคามนั้นพบว่าเป็นคณะที่มีผู้สมัครเข้าศึกษาต่อมากที่สุด[4][5] โดยมีสถิติอัตราการแข่งขันคะแนนสอบเข้า 10 อันดับสูงสุดในหลายสาขาวิชา[6] และเป็นหนึ่งใน 10 อันดับจำนวนผู้สมัครเข้าศึกษาต่อในคณะครุศาสตร์และศึกษาศาสตร์มากที่สุดของประเทศไทย[7] ปัจจุบันคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามมีจำนวนหลักสูตรรวมทั้งสิ้น 26 หลักสูตร ประกอบด้วย ระดับปริญญาตรี 10 หลักสูตร[8] ระดับบัณฑิตศึกษา 16 หลักสูตร[9] โดยมีสำนักงานตั้งอยู่ที่อาคารวิทยพัฒนา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เขตพื้นที่ในเมือง มีสถานปฏิบัติการ คือ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ศูนย์ความเป็นเลิศทางการศึกษาปฐมวัย และศูนย์ความเป็นเลิศทางจิตวิทยา ประวัติคณะวิชาการศึกษา วิทยาลัยวิชาการศึกษา มหาสารคามวิทยาลัยวิชาการศึกษาได้ก่อตั้งขึ้นมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตครูในสาขาวิชาต่าง ๆ ออกไปเป็นครูตามโรงเรียนโดยทั่วไปในแถบพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วิทยาลัยวิชาการศึกษา มหาสารคาม เป็นวิทยาเขตที่ 5 ของวิทยาลัยวิชาการศึกษา ซึ่งได้รับอนุมัติแต่งตั้งในวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2511[10] และได้แบ่งการบริหารงานออกเป็น 4 หน่วยงาน คือ 1. สำนักงานอธิการ 2. คณะวิชาการศึกษา 3. คณะมนุษยธรรมศึกษาและสังคมศาสตร์ 4. คณะวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ซึ่งลักษณะของหน่วยงานต่างทำงานร่วมกันเพื่อผลิตครูหลักสูตรการศึกษาบัณฑิตออกรับใช้สังคม[11] ช่วงที่เป็นวิทยาลัยวิชาการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มีผู้บริหารหน่วยงานที่เรียกว่า หัวหน้าคณะวิชาการศึกษา คือ ศาสตราจารย์ ดร.อารี สัณหฉวี ดำรงตำแหน่ง พ.ศ. 2511 – 2514 ถัดมารองศาสตราจารย์ ดร.วีระ บุญยะกาญจน ดำรงตำแหน่ง พ.ศ. 2514 – 2517[12] ตั้งแต่ปี 2511 ถึง 2516 วิทยาลัยวิชาการศึกษา มหาสารคาม ได้ตั้งจุดมุ่งมายที่จะขยายการศึกษาชั้นสูงไปสู่ต่างจังหวัด และมีการดำเนินงานโดยการรับนักศึกษาที่เรียนดี จากวิทยาลัยครูต่าง ๆ ที่เรียนจบหลักสูตร ปก.ศ.สูง เข้าเรียนต่อในชั้นปีที่ 3 หลักสูตรการศึกษาบัณฑิต (กศ.บ) ในขณะนั้นถือว่าเป็นคณะวิชาการศึกษาคณะเดียวเท่านั้นนิสิตจะอยู่ในสังกัดคณะวิชาการศึกษา เปิดสอนวิชาเอกครั้งแรกในปี 2511 คือ วิชาเอกอังกฤษ และเอกชีววิทยา แล้วจึงได้เริ่มเปิดวิชาเอกภาษาไทย วิชาเอกสังคมศึกษา ตามมาในปี 2513 การเรียนสอนในขณะนั้น ในระยะแรกได้ใช้อาคารเรียนร่วมกับวิทยาลัยครูมหาสารคาม ก่อนที่ทางวิทยาลัยจะสร้างอาคาร 1 เสร็จในปี 2512 และอาคาร 2 ในปี 2514 ก่อนที่คณะวิชาการศึกษาจะย้ายสำนักงานมาที่อาคาร 2 โดยใช้ร่วมกับสำนักอธิการ ในการบริหารงาน นิสิตในคณะก็จะใช้อาคาร 1 และอาคาร 2 ในการเรียน คณะศึกษาศาสตร์ ยุคมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตมหาสารคามคณะศึกษาศาสตร์ ถือเป็นคณะใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของมหาวิทยาลัยมหาสารคามในขณะนั้น ทางคณะยังมีหน่วยงานที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของบุคลากร คือ สถาบันวิจัยและพัฒนาการเรียนการสอน สำนักแนะแนวอาชีพในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อวิทยาลัยวิชาการศึกษา มหาสารคาม ได้ยกฐานะขึ้นเป็นมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ พร้อมกับวิทยาลัยวิชาการศึกษาแห่งอื่น ๆ ทำให้คณะศึกษาศาสตร์ได้ถูกแบ่งแยกออกมาเป็นหน่วยงานที่เด่นชัด แต่การเป็นคณะก็ยังไม่ได้เป็นอย่างเอกเทศโดยสมบูรณ์คือ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตมหาสารคาม เป็นเพียงสาขาของคณะศึกษาศาสตร์ ที่ตั้งอยู่ ณ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร และผู้ที่ดำรงตำแหน่งคณบดีคณะศึกษาศาสตร์ ก็มีเพียงคนเดียวที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ ณ คณะศึกษาศาสตร์ วิทยาเขตประสานมิตร ส่วนทางคณะศึกษาศาสตร์ วิทยาเขตมหาสารคาม มีเพียงตำแหน่งรองคณบดี[13] เมื่อเกิดการขยายตัวของคณะศึกษาศาสตร์มากขึ้น ประกอบกับจำนวนนิสิตก็ได้เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนอาคารเรียน ในปี 2526 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตมหาสารคาม ได้รับงบประมาณมาณก่อสร้างอาคารเรียนหลังที่ 5 บริเวณพื้นที่ระหว่างอาคาร 1 และสำนักงานห้องสมุด (ปัจจุบันคือที่ทำการสโมสรและบุคลากรนิสิต) และแล้วเสร็จในปี 2530 ซึ่งต่อมาสำนักงานคณะศึกษาศาสตร์ และห้องเรียนของนิสิตที่เดิมอยู่อาคาร 1 และอาคาร 2 ก็ได้ย้ายเข้ามาใช้อาคารในเวลาต่อมาด้วย และใช้เป็นสถานที่ในการดำเนินการเรียนการสอนในปัจจุบัน คณะศึกษาศาสตร์ ยุคมหาวิทยาลัยมหาสารคามในวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2537 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตมหาสารคาม ได้แยกตัวเป็นเอกเทศจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ภายใต้ชื่อว่า "มหาวิทยาลัยมหาสารคาม" โดยมีการแบ่งเป็น 4 คณะ คือ คณะศึกษาศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ และคณะเทคโนโลยี ซึ่งหลังจากที่ได้แยกตัวเป็นเอกเทศมาเป็นมหาวิทยาลัยมหาสารคาม คณะศึกษาศาสตร์จึงได้ถูกยกฐานะเป็น "คณะ" อย่างสมบูรณ์ เช่นเดียวกับคณะต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัย โดยมีคณบดีเป็นหัวหน้า และคณบดีคนแรกของคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม คือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิศมัย ศรีอำไพ[14][15][16] คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้เปิดหลักสูตรการศึกษาบัณฑิตหลากหลายสาขา ต่อมาเมื่อปี 2547 ได้เปิดหลักสูตรการศึกษาบัณฑิตในสาขาต่าง ๆ ขึ้นมา เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายปฏิรูปการศึกษา พ.ศ. 2542 และพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546[17][18] ในปี พ.ศ. 2561 ในการประชุมคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัย ครั้งที่ 3/2561 วันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 ที่ประชุมให้ความเห็นชอบกับระเบียบมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ว่าด้วยการบริหารงานโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม และออกเป็นประกาศมีผลบังคับใช้ในวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2561 สาระสำคัญคือ ให้โรงเรียนสาธิตเป็นหน่วยงานในกำกับของคณะศึกษาศาสตร์ ซึ่งเดิมสังกัดสำนักงานอธิการบดี โดยมุ่งหวังเพื่อเพิ่มศักยภาพทางวิชาการและการใช้บุคลากรร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สัญลักษณ์
การบริหารงานหน่วยงานภายในคณะคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม แบ่งการบริหารหน่วยงานภายในดังนี้
ทำเนียบผู้บริหารคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มีผู้บริหารรวมทั้งหมด 14 คน แบ่งเป็นหัวหน้าคณะวิชาการศึกษา วิทยาลัยวิชาการศึกษา มหาสารคาม จำนวน 2 คน รองคณบดีคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตมหาสารคาม ซึ่งสังกัดคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร จำนวน 6 คน และคณบดีคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จำนวน 6 คน ดังนี้
หลักสูตรการศึกษาความเป็นมาและพัฒนาการหลักสูตรคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามเปิดสอนวิชาเอกครั้งแรกในปี 2511 คือวิชาอังกฤษและชีววิทยาด้วยเหตุผลที่ว่าในประเทศไทยหรือแถบอีสานในสมัยนั้นมีชาวต่างชาติเข้ามาจำนวนมากโดยเฉพาะชาวอเมริกัน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเรียนภาษาในการติดต่อสื่อสารกันและประเทศไทยขณะนั้น และวิชาเฉพาะที่เกี่ยวกับเกษตรยังไม่มีสถาบันเปิดหลักสูตรที่เกี่ยวข้องโดยตรง แล้วจึงได้เริ่มเปิดวิชาภาษาไทย วิชาสังคมศึกษา ตามมาในปี 2513 ต่อมาเมื่อมหาวิทยาลัยมหาสารคามได้แยกตัวเป็นเอกเทศจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ในปีการศึกษา 2539 ได้เปิดหลักสูตรการศึกษาบัณฑิต สาขาวิชาบรรณารักษศาสตร์ สาขาวิชาประถมศึกษา สาขาวิชาภาษาอังกฤษ สาขาวิชาภาษาไทย สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ - คณิตศาสตร์ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ - ชีววิทยา สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ - ฟิสิกส์ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ - เคมี และสาขาวิชาศิลปศึกษา ในปีการศึกษา 2547 เปิดสอนหลักสูตรระดับปริญญาตรี หลักสูตร 5 ปี เพื่อให้สอดรับกับแนวทางการจัดการศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งหลักสูตรดังกล่าว ปรับปรุงจากหลักสูตรเดิม 4 ปี เป็นหลักสูตร 5 ปี ได้แก่ หลักสูตรการศึกษาบัณฑิต สาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย สาขาวิชาการศึกษาพิเศษ สาขาวิชาคณิตศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ สาขาวิชาภาษาไทย สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ทั่วไป และสาขาวิชาสังคมศึกษา ในปีการศึกษา 2548 เปิดสอนหลักสูตรระดับปริญญาตรี หลักสูตรการศึกษาบัณฑิต (กศ.บ.) สาขาวิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต (วท.บ.) สาขาวิชาจิตวิทยา ในปีการศึกษา 2550 เปิดสอนหลักสูตรระดับปริญญาตรี หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต (วท.บ.) สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา ในปีการศึกษา 2562 ได้พัฒนาหลักสูตรการศึกษาบัณฑิต (กศ.บ.) ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2562 ปรับปรุงจากหลักสูตรเดิม 5 ปี เป็นหลักสูตร 4 ปี ทั้ง 7 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย สาขาวิชาคณิตศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ สาขาวิชาภาษาไทย สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ทั่วไป และสาขาวิชาสังคมศึกษา ในปีการศึกษา 2566 เปิดสอนหลักสูตรระดับปริญญาตรี หลักสูตรการศึกษาบัณฑิต (กศ.บ.) สาขาวิชาพลศึกษาและการกีฬา หลักสูตรที่เปิดสอนในปัจจุบันคณะศึกษาศาสตร์ ทำการเรียนการสอนภายใต้คณะตนเองทั้งหมด 26 สาขาวิชา แบ่งเป็นระดับปริญญาตรี 10 สาขา ปริญญาโท 10 สาขา และปริญญาเอก 6 สาขา และสนับสนุนการสอนให้คณะอื่น 4 สาขาวิชาดังนี้
วิชาการศูนย์บริการวิชาการศูนย์ความเป็นเลิศทางการศึกษาปฐมวัย[21] ศูนย์ความเป็นเลิศทางการศึกษาปฐมวัย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (CEECE, MSU) เริ่มก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 เดิมชื่อ "ศูนย์การเรียนรู้ทางการศึกษาปฐมวัย" (ECLC) และเปลี่ยนชื่อเป็นศูนย์ความเป็นเลิศทางการศึกษาปฐมวัย เมื่อปี 2556 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ของนิสิตสาขาวิชาการศึกษาปฐมวัยและผู้ที่เกี่ยวข้องทางการศึกษาปฐมวัย รวมถึงผู้สนใจ ในรูปแบบของการให้บริการทางวิชาการ เพื่อให้ผู้เรียนและผู้ที่สนใจได้รับโอกาสในการพัฒนาความรู้ ศูนย์ความเป็นเลิศทางจิตวิทยา[22] เป็นหนึ่งในเครือข่ายสุขภาพจิตของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม โดยให้บริการคำปรึกษานิสิต เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาความเครียดในระดับปานกลาง ของภาควิชาจิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนว มีสำนักงานตั้งอยู่ที่ชั้น 6 อาคารวิทยพัฒนา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ศูนย์บริการวิชาการและเผยแพร่นวัตกรรมทางการศึกษา[23] ศูนย์บริการวิชาการและเผยแพร่นวัตกรรมทางการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (CASEID) เป็นหน่วยงานที่พึ่งทางวิชาการ สำหรับบุคลากรทางการศึกษา ให้บริการและเผยแพร่นวัตกรรมทางการศึกษา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการวิชาการแก่สังคม ตามพันธกิจของมหาวิทยาลัย เป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของนักวิจัยทางการศึกษา คณาจารย์ และนิสิต เพื่อสร้างเครือข่ายนักวิจัยทางการศึกษา และสร้างฐานข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นปัญหาและแนวทางแก้ไขในการวิจัยทางการศึกษา ศูนย์ฝึกประสบการณ์และพัฒนาวิชาชีพครู[24] ศูนย์ฝึกประสบการณ์และพัฒนาวิชาชีพครู คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (CPTD) มีภารกิจที่สำคัญคือ การฝึกประสบการณ์วิชาชีพระหว่างเรียน การออกปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา การจัดระบบการนิเทศ การจัดกิจกรรมเสริมความเป็นครู การประสานงานกับคุรุสภา การบริหารงบประมาณ และการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศ วารสารคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้จัดทำวารสารจำนวน 4 ฉบับ ดังนี้ วารสารศึกษาศาสตร์[25] ตีพิมพ์บทความวิชาการ บทความวิจัยหรือวิทยานิพนธ์ และบทวิจารณ์หนังสือ เกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพการศึกษา การพัฒนาการเรียนการสอน และการพัฒนาวิชาชีพครู โดยครอบคลุมสาขาวิชาหลักสูตรและการสอน การบริหารการศึกษา เทคโนโลยีและคอมพิวเตอร์ศึกษา จิตวิทยาและแนะแนวการศึกษา การวัดและประเมินผลทางการศึกษา สถิติและวิจัยทางการศึกษา และสาขาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องทางด้านการศึกษา วารสารการวัดผลการศึกษา[26] ตีพิมพ์ผลงานวิชาการใน 3 ลักษณะ ได้แก่ บทความวิชาการ บทความวิจัยหรือวิทยานิพนธ์ และบทวิจารณ์หนังสือ ในสาขาการวัดผลและประเมินผล การวิจัยทางการศึกษา สถิติ และจิตวิทยาการศึกษาหรือสาขาที่เกี่ยวข้อง วารสารการบริหารและนิเทศการศึกษา[27] มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและเผยแพร่ผลงานวิชาการภาควิชาการบริหารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ในรูปแบบบทความวิจัย บทความวิทยานิพนธ์ บทความวิจารณ์หนังสือ และบทความทั่วไป วารสารเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา[28] ตีพิมพ์ผลงานในด้านการศึกษา สาขาสังคมศาสตร์ ด้านการศึกษา สาขาคอมพิวเตอร์ ระบบสารสนเทศ และการปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ ในรูปแบบของบทความวิชาการ บทความวิจัย และบทความปริทัศน์ อันดับมหาวิทยาลัยมหาสารคามได้รับการจัดอันดับเป็นสถาบันที่มีสาขาทางการศึกษาที่ดีที่สุดอันดับที่ 11 ในประเทศไทย จัดอันดับโดยอีดียูแรงก์ (EduRank)[3] โดยแบ่งออกเป็นสาขาวิชาการศึกษาด้านสังคมศาสตร์ อยู่ในอันดับที่ 11 สาขาวิชาคณิตศาสตร์ อันดับที่ 8 และสาขาจิตวิทยา อันดับที่ 11[29] จากการจัดอันดับโดยไทมส์ไฮเออร์ ด้านสาขาวิชาการศึกษาอยู่อันดับที่ 13 [30] และจากการจัดอันดับโดยเอสซีไอมาโก (SCImago) ด้านสาขาวิชาการศึกษาอยู่อันดับที่ 19[31] การรับบุคคลเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยมหาสารคามนั้นพบว่าคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เป็นคณะที่มีผู้สมัครเข้าศึกษาต่อมากที่สุดเป็นอันดับ 1[4][5] โดยมีสถิติอัตราการแข่งขันคะแนนสอบเข้า 10 อันดับสูงสุดในหลายสาขาวิชา เช่น สาขาวิชาภาษาไทย การศึกษาปฐมวัย และภาษาอังกฤษ สาขาที่มีคะแนนสอบเข้าสูง เช่น สาขาวิชาคณิตศาสตร์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ วิทยาศาสตร์ทั่วไป และสังคมศึกษา[6] ในปี 2566 คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เป็นคณะที่มีผู้สมัครมากที่สุดของคณะครุศาสตร์และศึกษาศาสตร์ โดยอยู่ในลำดับที่ 6[7] และจากสถิติของศูนย์สอบมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศิษย์เก่าจากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม สามารถสอบบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการครู ตำแหน่งครูผู้ช่วย ประจำปี 2567 คิดเป็นร้อยละ 91.48 และมีผู้สอบได้ลำดับที่ 1 ของบัญชีมากเป็นอันดับที่ 4 ของประเทศไทย[32] การรับบุคคลเข้าศึกษาต่อ
พื้นที่คณะคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มีพื้นที่การศึกษาอยู่ที่เขตพื้นที่ในเมือง หรือ ม.เก่า ตั้งอยู่ที่เลขที่ 269 ถนนนครสวรรค์ ตำบลตลาด อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม ในระยะแรกได้ใช้อาคารเรียนร่วมกับวิทยาลัยครูมหาสารคาม ต่อมาได้ทำการใช้อาคาร 1 และอาคาร 2 เป็นอาคารเรียน ในปี 2530 ได้เปิดอาคารไอทีเป็นอาคารเรียนถาวรแห่งแรกของคณะศึกษาศาสตร์ ปัจจุบันมีอาคารและสิ่งก่อสร้างที่สำคัญ ดังนี้ อาคารศึกษาศาสตร์ หรืออาคารไอทีอาคารเรียนถาวรแห่งแรกของคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2526 เปิดใช้อาคารปี 2530 เดิมมีชื่ออาคาร 5, อาคารบัณฑิตศึกษา, อาคารอเนกประสงค์ และอาคารศึกษาศาสตร์ ตามลำดับ เป็นชื่อเรียกสมัยก่อนเมื่อครั้งยังเป็นมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตมหาสารคาม ปัจจุบันนิสิตคณะศึกษาศาสตร์เรียกอาคารนี้ว่าตึกไอที (IT) ในปี 2526 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตมหาสารคาม ได้รับงบประมาณมาก่อสร้างอาคารเรียนหลังที่ 5 บริเวณพื้นที่ระหว่างอาคาร 1 และสำนักงานห้องสมุด ซึ่งภายในอาคารได้ติดตั้งลิฟต์ และถือว่าเป็นลิฟต์แรกของมหาวิทยาลัยมหาสารคามและของจังหวัดมหาสารคาม ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2530 พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นได้มาเป็นประธานในพิธีเปิดอาคารอเนกประสงค์ และได้เปิดใช้เป็นสำนักงานบัณฑิตศึกษารับผิดชอบการให้บริการทางวิชาการแก่คณาจารย์และนิสิตบัณฑิตศึกษา[33][34] ปัจจุบันอาคารไอทีเป็นที่ตั้งของศูนย์บริการวิชาการ คลินิกวิจัย ภาควิชาวิจัยและพัฒนาการศึกษา และภาควิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา อาคารสโมสรนิสิตคณะศึกษาศาสตร์เดิมมีชื่อว่าหอสมุดวิทยาลัยวิชาการศึกษา มหาสารคาม ในช่วงก่อตั้งวิทยาลัยวิชาการศึกษา มหาสารคาม ปีแรก (2511) นิสิตและอาจารย์ได้อาศัยใช้ห้องสมุดวิทยาลัยครูมหาสารคามเป็นหลัก กระทั่งหอสมุดวิทยาลัยวิชาการศึกษา มหาสารคาม สร้างเสร็จและสามารถเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2512 ต่อมาได้มีการสร้างอาคารเชื่อมต่อกับตึกแปดเหลี่ยม และเปลี่ยนชื่อเป็นสำนักวิทยบริการในปี 2528[35] ในอดีตยังเคยเป็นสถานที่ในการจัดงานพิธีพระราชทานปริญญาบัตรวิทยาลัยวิชาการศึกษา มหาสารคาม ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จมาพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตด้วยพระองค์เอง ที่หอสมุดวิทยาลัยวิชาการศึกษามหาสารคามถึง 3 ครั้งคือ ในปี 2516 – 2517 และปี 2519[36] นับตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมาการบริหารงานของสำนักวิทยบริการได้ย้ายสำนักงานมายังที่อาคารวิทยบริการหลังใหม่ที่เขตพื้นที่ขามเรียง โดยอาคารสำนักวิทยบริการเดิมในส่วนของอาคารหอสมุดเดิมได้รับการปรับใช้ให้เป็นสำนักวิทยบริการ หน่วยบริการศรีสวัสดิ์ เพื่อให้บริการแก่นิสิตและบุคลากรที่อยู่ใกล้เคียง ปัจจุบันสำนักวิทยบริการ หน่วยบริการศรีสวัสดิ์ได้ปิดให้บริการ เนื่องจากมีสภาพอาคารเก่า และชำรุดทรุดโทรมมาก[37] และได้ย้ายที่ทำการมาหน่วยบริการอาคารวิทยพัฒนาแทน ปัจจุบันอาคารนี้จึงถูกใช้ในส่วนราชการคณะศึกษาศาสตร์ และเป็นที่ตั้งของสโมสรนิสิตคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามจนถึงปัจจุบัน[35] อาคารศึกษาศาสตร์ 2 หรืออาคารแปดเหลี่ยมอาคารแปดเหลี่ยม (ศษ) เคยเป็นอาคารสำนักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ตั้งแต่ปี 2536 - 2543 โดยเมื่อปี 2534 ได้งบประมาณก่อสร้างอาคารสำนักวิทยบริการ (อาคารแปดเหลี่ยม) จำนวน 67 ล้านบาท สามารถเปิดใช้บริการได้ในปี 2536 โดยมีหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เดินทางมาเป็นประธานในพิธีสงฆ์ อาคารมีลักษณะเป็นรูป 8 เหลี่ยมจำนวน 4 ชั้นเนื้อที่ 6,704 ตารางเมตร โดยมีการสร้างเชื่อมต่อกับอาคารสำนักวิทยบริการหลังเดิม และได้ใช้เป็นที่ทำการสำนักวิทยบริการเรื่อยมา ในช่วงเวลานี้ได้มีการตั้งศูนย์สิรินธรภายในตึกแปดเหลี่ยม สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานชื่อใหม่เป็น "ศูนย์สารนิเทศอีสานสิรินธร" โดยทรงเสด็จฯ เปิดศูนย์สารสนเทศอีสานสิรินธรด้วยพระองค์เองเมื่อปี 2538[38][39] ต่อมาสำนักวิทยบริการได้ย้ายที่ทำการมาที่เขตพื้นที่ขามเรียงปี 2543 ตึกแปดเหลี่ยมได้ถูกปรับเปลี่ยนเป็นห้องเรียนของนิสิตคณะศึกษาศาสตร์และคณะการบัญชีและการจัดการ ปัจจุบันเป็นที่เรียนของนิสิตคณะศึกษาศาสตร์ โดยภายในอาคารเป็นที่ตั้งของภาควิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพและการกีฬา[40] อาคารวิทยพัฒนาอาคารวิทยพัฒนา (EDU) เป็นอาคารสูง 9 ชั้น ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าอาคารคณะศึกษาศาสตร์เดิม (ตึกไอที) จัดสร้างขึ้นด้วยเงินงบประมาณ จำนวน 92 ล้านบาท โดยการริเริ่มของรองศาสตราจารย์ ดร.ประวิต เอราวรรณ์ อดีตคณบดีและคณะกรรมการบริหารคณะศึกษาศาสตร์ เมื่อปี 2551 เพื่อรองรับการขยายตัวในการเปิดหลักสูตรในระดับต่าง ๆ ของคณะ[41] โดยแบ่งพื้นที่ใช้สอยดังนี้
อาคารอเนกประสงค์ 50 ปี และลานกิจกรรมนิสิตคณะศึกษาศาสตร์เนื่องในโอกาสที่คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามครบรอบ 50 ปี คณะกรรมการบริหารคณะศึกษาศาสตร์ สมาคมศิษย์เก่าคณะศึกษาศาสตร์ จึงได้มีโครงการก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์ 50 ปี และลานกิจกรรมนิสิตคณะศึกษาศาสตร์ โดยได้รับความเมตตาจากหลวงพ่อกัณหา สุขกาโม วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา เป็นผู้อุปถัมภ์ด้านงบประมาณ โดยมีการส่งมอบลานกิจกรรมคณะศึกษาศาสตร์ เมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2564[42] พระพุทธสิกขาลัยเป็นพระพุทธรูปหินทราย ปางมารวิชัย พระพุทธรูปประจำคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม สร้างขึ้นโดยนายอินทรศักดิ์ เทียมเสวต ในช่วงปี 2531 โดยทำการรวมธาตุจากพระพุทธรูปเก่าแก่ที่ถูกทุบทำลาย และนำมาทำการสร้างที่วัดเทพสุวรรณ อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระพุทธรูปองค์นี้ได้รับพระราชทานพระบรมสารีริกธาตุจากสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งต่อมาได้นำมามอบเป็นพระประธานในสถานศึกษา ส่วนราชการและวัดหลายแห่ง[43] เช่น พระพุทธมหิดลมงคลวรญาน พระประธานด้านหน้าหอพักนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล, พระพุทธภควันตศาสดา มหาวิทยาลัยบูรพาภิมงคล พระพุทธรูปประจำมหาวิทยาลัยบูรพา[44] เป็นต้น ชีวิตนิสิตสาขาวิชาคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้เปิดหลักสูตรในระดับปริญญาตรีหลักสูตรต่าง ๆ ตั้งแต่วิทยาลัยวิชาการศึกษา มหาสารคาม ซึ่งได้ทำการปรับเปลี่ยนหลักสูตรไปตามยุคสมัย จนกระทั่งเมื่อปี 2547 ได้ทำการเปิดหลักสูตรต่าง ๆ ที่ตอบสนองตามนโยบายของรัฐบาล ปัจจุบันมีสาขาวิชาทั้งหมด 10 สาขาวิชา ซึ่งแต่ละสาขาวิชามีเอกลักษณ์ กิจกรรม รวมไปถึงการเรียนการสอนที่แตกต่างกัน ประเพณีและกิจกรรมของคณะจะถูกแบ่งไปตามแต่ละสาขาวิชา[8] โดยเรียงลำดับการก่อตั้ง ดังนี้
ชมรมชมรมต่อไปนี้เป็นชมรมสังกัดสโมสรนิสิตคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มีดังนี้
ประเพณีและกิจกรรมกิจกรรมภายในคณะกิจกรรมร้องเพลงคณะศึกษาศาสตร์ เป็นกิจกรรมรับน้องและพิสูจน์รุ่นของนิสิตใหม่คณะศึกษาศาสตร์ชั้นปีที่ 1 จัดโดยสโมสรนิสิตคณะศึกษาศาตร์ มีวัตถุประสงค์ในด้านสันทนาการ แนะนำอัตลักษณ์ของคณะศึกษาศาสตร์ สร้างความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนและรุ่นพี่กับรุ่นน้อง ตระหนักถึงคุณค่าความเป็นครู และกิจกรรมบายศรีสู่ขวัญในยามค่ำคืน การนับรุ่นของคณะศึกษาศาสตร์ เริ่มนับจากปีที่ก่อตั้งคณะวิชาการศึกษา วิทยาลัยวิชาการศึกษา มหาสารคาม พ.ศ. 2511 โดยใช้ชื่อว่า "ช่อบุนนาค" วันศึกษาศาสตร์ ศาสตราจารย์ ดร.สาโรช บัวศรี ได้เสนอให้กระทรวงศึกษาธิการก่อตั้งวิทยาลัยวิชาการศึกษาขึ้นเพื่อให้เปิดสอนถึงระดับปริญญา โรงเรียนฝึกหัดครูชั้นสูงจึงได้รับ การสถาปนาเป็นวิทยาลัยวิชาการศึกษา เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2496 และได้ตราพระราชบัญญัติวิทยาลัยวิชาการศึกษาประกาศในราชกิจจานุเบกษา วิทยาลัยวิชาการศึกษา มหาสารคาม เป็นวิทยาเขตที่ 5 ของวิทยาลัยวิชาการศึกษา ซึ่งได้รับอนุมัติแต่งตั้งในวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2511 ทางคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามจึงกำหนดให้วันที่ 27 มีนาคมของทุกปี เป็นวันศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม[56] กิจกรรมศึกษาศาสตร์รวมใจติดป้ายบูชาครู เป็นพิธีมอบป้ายติดอกของคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ให้กับนิสิตชั้นปีที่ 2 ซึ่งถือเป็นนิสิตเรียนครูที่ได้ศึกษาในหลักสูตรของคณะศึกษาศาสตร์เป็นระยะเวลาหนึ่ง ทางคณะศึกษาศาสตร์จึงมอบป้ายติดอกเพื่อตระหนักในวิชาชีพครู และเป็นกำลังใจให้นิสิตคณะศึกษาศาสตร์ได้มุ่งมั่นที่จะเป็นครูที่ดีต่อไป บุนนาคเกมส์ เป็นกิจกรรมกีฬาภายในคณะศึกษาศาสตร์ จัดโดยสโมสรนิสิตคณะศึกษาศาตร์ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความสามัคคีของสาขาวิชาต่าง ๆ นอกจากจะมีการแข่งขันกีฬาชนิดต่าง ๆ แล้ว ยังมีการแข่งขันสแตนด์เชียร์ หรือบางปีจัดเป็นกิจกรรมเต้นสันทนาการ และผู้นำเชียร์ ค่ายคนพันธุ์ครู เป็นค่ายที่จัดขึ้นโดยคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เปิดรับนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายทั่วประเทศ โดยจัดกิจกรรมด้านวิชาการ อาทิ การติวสอบ เป็นต้น รวมไปถึงกิจกรรมสันทนาการ กิจกรรมระหว่างมหาวิทยาลัยกระดานดำสัมพันธ์ กระดานดำสัมพันธ์ เป็นการแข่งขันกีฬาประเพณีศึกษาศาสตร์ จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2548 ณ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นการแข่งขันกีฬาเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ของนิสิตนักศึกษาในสายวิชาชีพครู 5 สถาบัน ได้แก่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, มหาวิทยาลัยนเรศวร, มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ นอกจากการแข่งกีฬาแล้ว ยังมีการแสดงจากนิสิตนักศึกษาของแต่ละมหาวิทยาลัยและการแสดงในงานเลี้ยงกลางคืนทั้งมีการประกวดกองเชียร์และเชียร์หลีดเดอร์ของแต่ละมหาวิทยาลัย โดยทุกสถาบันจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนในการเป็นเจ้าภาพในแต่ละปี โดยในปัจจุบันมีสถาบันที่เข้าร่วม ได้แก่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, มหาวิทยาลัยนเรศวร, มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และมหาวิทยาลัยพะเยา กีฬาเชื่อมสัมพันธ์ ครุศาสตร์ – ศึกษาศาสตร์ มรม-มมส. เป็นกิจกรรมกีฬาเพื่อสานสัมพันธ์ระหว่างคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม และคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ซึ่งในอดีตเคยมีการพึ่งพิงอาศัยกัน ในช่วงก่อตั้งวิทยาลัยวิชาการศึกษา มหาสารคาม นิสิตและอาจารย์ได้อาศัยใช้อาคารเรียนและห้องสมุดร่วมกับวิทยาลัยครูมหาสารคาม ดังนั้นเพื่อตระหนักถึงความสัมพันธ์อันดีงามของทั้งสองสถาบันผลิตครู จึงได้จัดกิจกรรมนี้ขึ้น กีฬาวิทยาศาสตร์การกีฬาสัมพันธ์ หรืองานวิทย์กีฬาสัมพันธ์ เป็นกิจกรรมกีฬาสานสัมพันธ์ระหว่างนิสิตนักศึกษาที่เรียนในทางด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาของมหาวิทยาลัยในประเทศไทย ภายในงานวิทย์กีฬาสัมพันธ์จะประกอบด้วย กิจกรรมการแข่งขันกีฬาสากล กีฬาฮาเฮ การประกวดผู้นำเชียร์และสแตนด์เชียร์ งานเลี้ยงสังสรรค์ และการแสดงจากนิสิตนักศึกษาของแต่ละสถาบัน โดยทุกสถาบันจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนในการเป็นเจ้าภาพในแต่ละปี ในช่วงระยะแรกเริ่มต้นจาก 4 สถาบัน ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปัจจุบันมีสถาบันเข้าร่วมทั้งหมดจำนวน 13 สถาบัน ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และมหาวิทยาลัยศิลปากร บุคคลสำคัญ
ศิษย์เก่า
บุคลากร
ดูเพิ่มอ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|