Share to:

 

พูนสวัสดิ์ มูลศาสตรสาทร

พูนสวัสดิ์ มูลศาสตรสาทร
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด11 ธันวาคม พ.ศ. 2482
อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ประเทศสยาม
เสียชีวิต3 สิงหาคม พ.ศ. 2566 (83 ปี)
อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ประเทศไทย
ศาสนาพุทธ
คู่สมรสฉันทนา มูลศาสตรสาทร

พูนสวัสดิ์ มูลศาสตรสาทร อดีตนักการเมืองชาวสุรินทร์ที่มีชื่อเสียง, อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม และอดีตนักมวยไทยชื่อดัง

นายพูนสวัสดิ์ เกิดเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2482 ที่ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ เป็นบุตรคนที่ 5 ในจำนวนบุตรทั้งหมด 9 คน ของขุนมูลศาสตร์สาทร (พงษ์ มูลศาสตรสาทร) กับนางผกา มูลศาสตรสาทร และเป็นน้องชายแท้ ๆ ของนายพิศาล มูลศาสตรสาทร อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการในหลายกระทรวง

จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนสุรวิทยาคาร นายพูนสวัสดิ์ได้ลงเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในเขตจังหวัดสุรินทร์หลายครั้งและได้รับการเลือกตั้งทั้งหมด 7 ครั้ง คือ ในปี พ.ศ. 2526, พ.ศ. 2529, พ.ศ. 2531, พ.ศ. 2535/1, พ.ศ. 2535/2 และพ.ศ. 2539 ในสังกัดพรรคการเมือง 3 พรรค คือ พรรคประชาธรรม, พรรคกิจสังคม และพรรคความหวังใหม่

มีตำแหน่งทางการเมืองเป็นผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พ.ศ. 2526, เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พ.ศ. 2529, ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พ.ศ. 2531, ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พ.ศ. 2535 และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม สมัย พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกรัฐมนตรีในปี พ.ศ. 2539[1][2]

แต่หลังจากปี พ.ศ. 2544 แล้ว เมื่อการเมืองได้เปลี่ยนสภาพไป นายพูนสวัสดิ์ก็มิได้รับการเลือกตั้งอีก โดยลงสมัครเป็นนายกเทศมนตรีเมืองสุรินทร์ เมื่อปี พ.ศ. 2555 ก็ไม่ได้รับการเลือกตั้ง จึงค่อย ๆ ลดบทบาททางการเมืองลงตามลำดับ โดยหันไปศึกษาด้านพุทธศาสนาระดับปริญญาโทแทน[3]

ด้านชีวิตครอบครัว นายพูนสวัสดิ์สมรสกับนางฉันทนา มูลศาสตรสาทร (นามสกุลเดิม: แก้วทับทิม) ทั้งคู่มีบุตรสาวด้วยกันทั้งหมดเพียงคนเดียว คือ นางสาวลดาวัลย์ มูลศาสตรสาทร อดีตนักแบดมินตันทีมชาติไทย ชีวิตส่วนตัว นายพูนสวัสดิ์เป็นบุคคลที่ชื่นชอบการกีฬาทุกชนิดมาตั้งแต่เด็ก ในวัยหนุ่มเคยเป็นนักมวยไทยชื่อดัง ในชื่อ ปราบธรณี เมืองสุรินทร์ ในสังกัดค่ายเมืองสุรินทร์ ของนายสนอง รักวานิช เป็นนักมวยหมัดหนัก จนได้รับฉายาว่า "หมัดผีพราย" แม้ว่าไม่เคยได้ตำแหน่งแชมป์ใด ๆ ก็ตาม จนกระทั่งมีตำแหน่งทางการเมืองก็เป็นที่ปรึกษาองค์การหรือสมาคมทางกีฬาต่าง ๆ [4]

วาระสุดท้าย ถึงแก่อนิจกรรมด้วยภาวะติดเชื้อรุนแรงในปอด ณ ศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ ชลประทาน อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2566 เวลา 12.01 น. สิริอายุ 83 ปี[5] ต่อมาวันศุกร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2566 เวลา 17.00 น. พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานโกศแปดเหลี่ยม ฉัตรเบญจาตั้งประดับ ปี่ กลองชนะ ประโคมเวลาพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และมีพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมเวลากลางคืน กำหนด 3 คืน ต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าไตร 5 ไตรทอดถวายพระสงฆ์บังสุกุล แล้วพระราชทานเพลิงศพ ในวันพุธที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2566 เวลา 16.30 น. ณ เมรุวัดชลประทานรังสฤษดิ์ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

อ้างอิง

  1. พระบรมราชโองการ ประกาศ แต่งตั้งรัฐมนตรี (จำนวน ๔๙ ราย)
  2. ประวัติย่อ นายพูนสวัสดิ์ มูลศาสตรสาทร
  3. 'พูนสวัสดิ์'หันหลังการเมืองซุ่มเรียนป.โทพุทธ โดย สำราญ สมพงษ์ ทางคมชัดลึก
  4. "หมัดผีพราย". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-11-04. สืบค้นเมื่อ 2013-05-18.
  5. สิ้นยอดมวย หมัดผีพราย ปราบธรณี เมืองสุรินทร์ ตำนานนักสู้ชื่อดัง
  6. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2015-09-27 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๑๔ ตอนที่ ๒๗ ข หน้า ๑, ๓ ธันวาคม ๒๕๔๐
  7. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2014-04-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๑๓ ตอนที่ ๒๒ ข หน้า ๘, ๔ ธันวาคม ๒๕๓๙
Kembali kehalaman sebelumnya