สุนทร วิลาวัลย์
สุนทร วิลาวัลย์ หรือ โกทร เป็นนักการเมืองชาวไทย (เกิด 30 เมษายน พ.ศ. 2482) นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในรัฐบาล พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปราจีนบุรี 8 สมัย และอดีตสมาชิกวุฒิสภาไทย ชุดที่ 9 หรือที่สื่อมวลชนกล่าวถึงว่าเป็น "บ้านใหญ่ปราจีนบุรี" ผู้มีอิทธิพลในจังหวัดปราจีนบุรี ประวัติสุนทร วิลาวัลย์ เกิดเมื่อวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2482 ที่อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี เป็นบุตรของนายเงิน กับนางคำ วิลาวัลย์ สำเร็จการศึกษาสาขาบริหารธุรกิจ จากสถาบันราชภัฏสวนดุสิต เมื่อปี พ.ศ. 2543[1] การทำงานสุนทร วิลาวัลย์ เป็นนักการเมืองชาวจังหวัดปราจีนบุรี ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรก ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2526 สังกัดพรรคชาติไทย ต่อมาย้ายไปสังกัดพรรคราษฎร ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2529 จากนั้นจึงย้ายกลับมาสังกัดพรรคชาติไทยตามเดิม จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2539 จึงย้ายมาสังกัดพรรคความหวังใหม่ และได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในรัฐบาลพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ[2] จากนั้นในปี พ.ศ. 2544 ได้เข้าร่วมงานกับพรรคไทยรักไทย และสนับสนุนให้นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ ศรีจันทร์งาม (บุตรสาว) ลงสมัครรับเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2548[3] ในปี พ.ศ. 2550 เขาลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคมัชฌิมาธิปไตย และได้รับเลือกตั้ง แต่ต่อมาถูกตัดสิทธิ์เลือกตั้ง (ใบแดง) เนื่องจากกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2550 และเป็นเหตุให้ยุบพรรคมัชฌิมาธิปไตย[3][4] ในปี 2563 เขาได้รับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี[5] แทนบังอร วิลาวัลย์ ผู้เป็นน้องสาว ที่ถูกปลดออกจากตำแหน่งในคดีทุจริตฮั้วประมูลโครงการของ อบจ.ปราจีนบุรี คดีความเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2565 สุนทรถูกออกหมายเรียกในคดีรุกพื้นที่ป่าบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ในเขตจังหวัดปราจีนบุรี[3] ภายหลังได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าพนักงานสอบสวน และแจ้งว่าที่ตนเองไม่ได้มาตามหมายเรียกนั้น เนื่องจากต้องพักรักษาตัวจากอาการป่วยของโรคประจำตัว โดยได้มี ส.ส.คนสนิท เป็นผู้ยืนยันว่านายสุนทรไม่ได้มีเจตนาหลบหนีแต่อย่างใด ต่อมาในช่วงดึกวันที่ 11 ต่อเช้ามืดวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2567 สุนทรถูกตำรวจคุมตัวหลังเกิดเหตุลูกน้องของเขายิงนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ (ชื่อเดิม: เต็มพงษ์ ฤทธิ์เดช) เสียชีวิตในบ้านพักของสุนทรที่จังหวัดปราจีนบุรี[6] ส่วนคนใกล้ชิดของสุนทรอ้างว่าเหตุดังกล่าวเป็นความขัดแย้งส่วนตัวระหว่างชัยเมศร์กับลูกน้องของสุนทร[7] อย่างไรก็ตามพลตำรวจตรี ภูมินทร์ สิงหสุต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี กล่าวว่าในการขอเข้าพบสุนทรของชัยเมศร์ก่อนเหตุดังกล่าวนั้นมีประเด็นการพูดคุยเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งนายก อบจ. ซึ่งจะต้องมีการสอบสวนต่อไป[8] วันถัดจากนั้นสุนทรพร้อมด้วยลูกน้องอีก 6 คน ถูกนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดปราจีนบุรี โดยศาลคัดค้านคำร้องปล่อยตัวชั่วคราวในคดีดังกล่าว[9]โดยหลังจากตำรวจได้พิสูจน์หลักฐานแล้วได้แจ้งข้อหาเขาว่า "ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน" [10] เครื่องราชอิสริยาภรณ์
อ้างอิง
|