อำนวย ยศสุข
อำนวย ยศสุข เป็นนักการเมืองชาวไทย เป็นอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์[1] รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ 7 สมัย อดีตสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดเชียงใหม่ และเป็นนายกสภามหาวิทยาลัยแม่โจ้ ตั้งแต่ปี 2552 จนถึงปัจจุบัน ประวัติอำนวย ยศสุข เกิดเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2480 ที่ตำบลหางดง อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ เป็นบุตรของนายทองดี และนางเรือน ยศสุข [2] สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในปี พ.ศ. 2504 ระดับปริญญาโท สาขาเศรษฐศาสตร์การเกษตร จากมหาวิทยาลัยอริโซนา สหรัฐอเมริกา พ.ศ. 2511 และระดับปริญญาเอกดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาเศรษฐศาสตร์การเกษตร จากสถาบันเทคโนโลยีการเกษตรแม่โจ้ ในปี พ.ศ. 2526[3] การทำงานอำนวย ยศสุข เริ่มรับราชการในตำแหน่งเศรษฐกรตรี กองแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในปี พ.ศ. 2505 จนถึงปี พ.ศ. 2518 อำนวย ยศสุข เริ่มเข้าสู่การเมืองในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ ในปี พ.ศ. 2522 สังกัดพรรคกิจสังคม ต่อมาในปี พ.ศ. 2538 ได้เข้าร่วมกับพรรคนำไทย[4] จนกระทั่งปี พ.ศ. 2539 จึงย้ายมาสังกัดพรรคความหวังใหม่[5] จนกระทั่งได้รับตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค ในปี พ.ศ. 2543 ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร รวม 7 สมัย เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการหลายกระทรวง ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการคลัง[6] และกระทรวงสาธารณสุข[7] และตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี (พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ) ต่อมาในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2544 ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคความหวังใหม่ แต่ได้คะแนนเพียงอันดับที่ 3 รองจากนางผณินทรา ภัคเกษม อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ภรรยานายส่งสุข ภัคเกษม) จากพรรคไทยรักไทย และนายขุนทอง อินทร์ไทย จากพรรคประชาธิปัตย์[8][9] ในปี พ.ศ. 2549 อำนวย ยศสุข ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภา จังหวัดเชียงใหม่ ได้คะแนน 50,313 คะแนน เป็นลำดับที่ 5[10] ต่อมาในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2550 ได้เข้าร่วมงานทางการเมืองกับพรรคมัชฌิมาธิปไตย[11] และลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ ในนามพรรคมัชฌิมาธิปไตย[12] แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง อำนวย ยศสุข ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกสภามหาวิทยาลัยแม่โจ้ ในปี พ.ศ. 2552 จนถึงปัจจุบัน[13][14][15][16] เครื่องราชอิสริยาภรณ์
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|