สงคราม กิจเลิศไพโรจน์
สงคราม กิจเลิศไพโรจน์ (เกิด 15 มีนาคม พ.ศ. 2487) เป็นนักการเมืองชาวไทย ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี (แพทองธาร ชินวัตร) อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ[1] อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในรัฐบาลของสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และอดีตเหรัญญิกพรรคพลังประชาชน ประวัตินายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ เป็นชาวไทยเชื้อสายจีน เกิดเมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2487 ที่ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เป็นบุตรคนที่ 4 ในบรรดาบุตร 5 คนของนายเล่งอี่ แซ่กิม กับ นางเซ้งฮวย แซ่ฉั่ว สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีศิลปศาสตรบัณฑิต จากสถาบันราชภัฏธนบุรี และนิติศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ส่วนในระดับปริญญาโทอีก 2 ปริญญา ด้านบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการทั่วไป จากมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย และรัฐประศาสนศาสตร์ จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ส่วนบุตรชายนายภิญโญ เป็น นักวิชาการประจำคณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สภาผู้แทนราษฏร การทำงานนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ เป็นนักธุรกิจนำเข้าสินค้าของเด็กเล่นจากต่างประเทศเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย จนสามารถเปิดร้านผลิตของเล่นเป็นของตัวเองได้ที่ย่านสะพานควาย และได้ขยายกิจการเรื่อยมาจนได้ก่อตั้ง โรงงานมงกุฏทองผลิตภัณฑ์ เป็นที่มาของสินค้าที่มีเป็นที่รู้จักในชื่อ "ดรีมทอยส์" และ "ไทยทอยส์" และยังดำเนินธุรกิจห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล อีกด้วย งานการเมืองด้านงานการเมือง เคยเป็นที่ปรึกษาประธานรัฐสภา (ดร.โภคิน พลกุล) และที่ปรึกษาให้กับ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ[2] ต่อมาเขาได้รับตำแหน่งเหรัญญิกพรรคพลังประชาชน และรับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในรัฐบาลของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์[3] ในปี พ.ศ. 2551 ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน[4] เขาเคยเป็น 1 ใน 5 ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเชื่อมโยงกับการสนับสนุนเงินให้กับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ แดงทั้งแผ่นดิน (นปช.)[5] ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2557 เขาได้สมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 89[6] แต่การเลือกตั้งเป็นโมฆะ ต่อมาเขาจัดตั้งพรรคการเมืองและดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ และในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2562 เขาได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อชาติ ต่อมาเขาได้ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ เนื่องจากก่อนหน้านั้นเขาได้ลงมติงดออกเสียงในการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีไทย พ.ศ. 2564 กรณีร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า จนทำให้สมาชิกพรรคบางส่วนตำหนิ[7] ในวันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2566 นายสงครามได้ลาออกจากการเป็น ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อพร้อมกับนางสาวปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช[8] ปัจจุบันนายสงครามได้ย้ายกลับมาสังกัดพรรคเพื่อไทย ในรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี[9] และต่อมาเมื่อเศรษฐาพ้นจากตำแหน่งในรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ก็ได้แต่งตั้งให้เขาเป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เหมือนเดิม ในวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ.2567 เครื่องราชอิสริยาภรณ์
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|