Share to:

 

อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี

อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี
อรรถวิชช์ใน พ.ศ. 2566
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร
ดำรงตำแหน่ง
23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 – 8 ธันวาคม พ.ศ. 2556
รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า
ดำรงตำแหน่ง
16 ตุลาคม พ.ศ. 2565 – 11 ตุลาคม พ.ศ. 2566
เลขาธิการพรรคกล้า
ดำรงตำแหน่ง
7 มีนาคม พ.ศ. 2563 – 1 กันยายน พ.ศ. 2565
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด26 มีนาคม พ.ศ. 2521 (46 ปี)
กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
พรรคการเมืองประชาธิปัตย์ (2550–2563)
กล้า (2563–2565)
ชาติพัฒนากล้า (2565–2566)
รวมไทยสร้างชาติ (2567–ปัจจุบัน)
คู่สมรสพิณ สุวรรณภักดี
บุตร2 คน
บุพการี
  • สมพงศ์ สุวรรณภักดี (บิดา)
  • ภคินี สุวรรณภักดี (มารดา)
ชื่อเล่นเอ๋

อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี (เกิด 26 มีนาคม พ.ศ. 2521) เป็นนักการเมืองชาวไทย อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า อดีตเลขาธิการพรรคกล้า อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ อดีตประธานกรรมาธิการกิจการชายแดนไทย[1] อดีตกรรมการสภาสถาบันพระปกเกล้า ปัจจุบันสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ และเป็นประธานกรรมการปรับปรุงกฎหมายเพื่อการปฏิรูปอุตสาหกรรม[2]

ประวัติ

อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เกิดวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2521 ชื่อเล่น เอ๋[3] เป็นบุตรของนายสมพงศ์ สุวรรณภักดี อดีตอัยการ กับนางภคินี สุวรรณภักดี อดีตรองกรรมการผู้จัดการธนาคารมหานคร

อรรถวิชช์ สมรสกับพิณ สุวรรณภักดี (สกุลเดิม บูรพชัยศรี) มีบุตร 2 คน[4]

อรรถวิชช์ มีงานอดิเรกคือ การสะสมรถโบราณ โดยได้ดำรงตำแหน่งเป็น เลขาธิการสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย และเป็นเลขาธิการที่อายุน้อยที่สุดเท่าที่เคยมีมาอีกด้วย[ต้องการอ้างอิง] นอกจากนี้แล้วยังมีค่ายมวยเป็นของตัวเอง ชื่อ "ส.สุวรรณภักดี" ที่มีนักมวยในสังกัดเป็นแชมเปี้ยนของเวทีมวยลุมพินีในรุ่นแบนตัมเวต (118 ปอนด์) คือขวานเพชร ส.สุวรรณภักดี[5]

การศึกษา

อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษา จากโรงเรียนเซนต์คาเบรียล รุ่น 75 (ศิษย์เก่าดีเด่น) ปริญญาตรี นิติศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รุ่นรหัส 38 (ศิษย์เก่าดีเด่น)[6] ปริญญาโท นิติศาสตรมหาบัณฑิต สาขากฎหมายการเงินการธนาคาร มหาวิทยาลัยบอสตัน[7] ประเทศสหรัฐ และ ปริญญาเอก รัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี (ศิษย์เก่าดีเด่น)[8]

นอกจากนั้น เขายังผ่านการศึกษาอบรมอีกหลายหลักสูตร เช่น ประกาศนียบัตรผู้ผ่านการฝึกอบรมวิชาว่าความแห่งสภาทนายความ ประกาศนียบัตรแนวคิดพื้นฐานเกี่ยวกับการจัดการความขัดแย้งด้านนโยบายสาธารณะโดยสันติวิธี ประกาศนียบัตรชั้นสูงหลักสูตรการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยสำหรับนักบริหารระดับสูง สถาบันพระปกเกล้า ประกาศนียบัตร หลักสูตรผู้บริหารระดับสูงสถาบันวิทยาการตลาดทุน ประกาศนียบัตร หลักสูตรการพัฒนากรรมการบริษัทมืออาชีพ สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) DCP รุ่น107 ประกาศนียบัตร หลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านการบริหารงานพัฒนาเมือง  มหานคร รุ่น 3 ประกาศนียบัตร หลักสูตรนักบริหารระดับสูง “ธรรมศาสตร์เพื่อสังคม” นมธ.รุ่น1

อรรถวิชช์ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้แนะนำให้ไปเรียนต่อในระดับปริญญาโท[ต้องการอ้างอิง] จนสำเร็จการศึกษาในสาขากฎหมายการเงินการธนาคารจาก มหาวิทยาลัยบอสตัน ประเทศสหรัฐ

การทำงาน

อรรถวิชช์ เคยรับราชการสังกัดสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง[9] มีผลงานเด่น เช่น การปรับโครงสร้างหนี้ภาคประชาชน การกำกับดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคลให้อยู่ในระดับร้อยละ 28 ต่อปี การกำกับธุรกิจบัตรเครดิต[10] และการควบรวมกิจการบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรม ธนาคารทหารไทย และธนาคารดีบีเอสไทยทนุ รวมถึงงานร่างกฎหมายเกี่ยวกับการเงิน การธนาคาร หลายฉบับ

พ.ศ. 2550 อรรถวิชช์ ชนะการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2550 เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร เขต 4 คือ เขตจตุจักร, บางซื่อ, หลักสี่ สังกัด พรรคประชาธิปัตย์ โดยร่วมทีมกับบุญยอด สุขถิ่นไทย และสกลธี ภัททิยกุล

พ.ศ. 2554 อรรถวิชช์ ชนะการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2554 เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร เขต 9 คือ เขตจตุจักร สังกัด พรรคประชาธิปัตย์

พ.ศ. 2556 อรรถวิชช์ เข้ารับตำแหน่งกรรมการสภาสถาบันพระปกเกล้า ตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 9 ธันวาคม[11]

พ.ศ. 2558 อรรถวิชช์ เข้ารับตำแหน่งที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร[12] (หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร)

วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2563 อรรถวิชช์โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ มีผลตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2563 เพื่อไปร่วมก่อตั้งพรรคการเมืองใหม่กับกรณ์ จาติกวณิช อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่ลาออกจากพรรคมาแล้วก่อนหน้านั้น โดยได้กราบลาชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่อรรถวิชช์ให้ความเคารพนับถือเมื่อวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2563[13]

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 9.30 น. อรรถวิชช์ที่ได้รับมอบหมายจากกรณ์ จาติกวณิชพร้อมผู้ร่วมก่อตั้ง 5 คน เดินทางไปยังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อยื่นจดทะเบียนจัดตั้งพรรคใหม่[14] โดยมีชื่อพรรคว่า พรรคกล้า[15] ซึ่งมีกรณ์ จาติกวณิช เป็นหัวหน้าพรรค ส่วนอรรถวิชช์ เป็นเลขาธิการพรรค[16]

วันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2564 พรรคกล้า ประกาศส่งอรรถวิชช์ ลงเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร เขต 9 คือ เขตจตุจักร, หลักสี่[17] แทนสิระ เจนจาคะ ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นสภาพ[18] โดยการเลือกตั้งจัดขึ้นในวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2565[19] ซึ่งผลปรากฏว่า อรรถวิชช์ไม่ได้รับเลือกตั้ง[20]

วันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2565 อรรถวิชช์ ในฐานะเลขาธิการพรรคกล้า ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ถึงกรณีที่ กรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค และกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ประธานยุทธศาสตร์พรรค ลาออกจากพรรคกล้า แล้วไปสังกัดพรรคชาติพัฒนา โดยกล่าวว่า ตนยังสังกัดพรรคกล้า จะไปข้องเกี่ยวไม่ได้ กฎหมายพรรคการเมืองก็ระบุไว้ชัดเจน โดยตนก็ยังต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการพรรคกล้า เพื่อจัดประชุมใหญ่พรรคในเดือนนี้ให้แล้วเสร็จ[21] อันหมายถึงการประชุมใหญ่สามัญครั้งที่ 2 ประจำปี 2565 ของพรรคกล้า ที่จัดขึ้นในวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2565 โดยผลของการประชุมได้มีการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคกล้าชุดใหม่ ซึ่งไม่มีชื่อของอรรถวิชช์แต่อย่างใด[22]

วันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2565 อรรถวิชช์ พร้อมด้วยกรณ์ จาติกวณิช และ อดีตว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ที่เคยจะลงรับสมัครในนามพรรคกล้า เกือบ 40 คน ปรากฏตัวในการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคชาติพัฒนา ซึ่งในการประชุมพรรคชาติพัฒนา ได้ประกาศเปลี่ยนชื่อพรรคเป็น ชาติพัฒนากล้า[23]

วันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2565 อรรถวิชช์ ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ในการประชุมใหญ่สามัญของพรรคชาติพัฒนากล้า[24]

วันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2566 อรรถวิชช์ ลาออกจากตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า[25] ก่อนที่จะลาออกจากพรรคชาติพัฒนากล้า ในวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2566[26]

วันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 อรรถวิชช์ พร้อมตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชน เข้ายื่นหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อริเริ่มรวบรวมรายชื่อประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 10,000 รายชื่อ เสนอร่างกฎหมายปฏิรูปเครดิตบูโร[27]

วันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2567 อรรถวิชช์ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานกรรมการบริษัท เวฟ เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด[28]

วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2567 อรรถวิชช์ เปิดเผยว่า ตอนนี้ตนมาช่วยดูงานด้านกฎหมายให้พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค และพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะมีความสนิทสนมกับพีระพันธุ์ตั้งแต่สมัยอยู่พรรคประชาธิปัตย์[29]

วันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2567 อรรถวิชช์ ได้เปิดตัวเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติโดยเข้ามาเป็นทีมกฎหมายของพรรค[30]

วันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2567 เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ลงนามแต่งตั้งให้อรรถวิชช์ เป็นประธานกรรมการปรับปรุงกฎหมายเพื่อการปฏิรูปอุตสาหกรรม[2]

ทรัพย์สิน

ในปี พ.ศ. 2557 เขาเคยชี้แจงต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ว่าตนมีทรัพย์สิน 201 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมกับทรัพย์สินของภรรยาและบุตรจะมี 366.7 ล้านบาท หนี้สิน 1.7 ล้านบาท พร้อมกับชี้แจงว่ามีรายได้ 202,217 บาทต่อเดือน เป็นเงินกองทุนเลี้ยงชีพ และค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์[31]

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

อ้างอิง

  1. "'อรรถวิชช์' แนะรัฐเตรียมพร้อมแนวชายแดน เพิ่มสถานกักตัวโควิดรองรับผู้ลี้ภัยเมียนมา". ไทยโพสต์. 2021-03-30. สืบค้นเมื่อ 2024-10-11.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  2. 2.0 2.1 "'เอกนัฏ' ตั้ง 'อรรถวิชช์' แก้ก.ม.ปฏิรูปอุตฯ เพิ่มโทษ-ปราบขบวนการทิ้งกากพิษ". bangkokbiznews. 2024-09-18. สืบค้นเมื่อ 2024-10-11.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  3. "ข้อมูล ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-07-14. สืบค้นเมื่อ 2010-07-03.
  4. "เปิดใจ ชีวิตหลังรัฐประหาร "อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี" คุณชายนักไฮด์ปาร์กแห่ง กปปส". mgronline.com. 2014-07-03.
  5. อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี - ปชป
  6. "พรรคประชาธิปัตย์ - Democrat Party, Thailand - คอลัมน์: ก็อซซิปการเมือง: รุ่นปู่-รุ่นหลาน . ปรบมือรัว ๆ ยินดีกับ "นายหัวชวน หลีกภัย"อดีตนายกรัฐมนตรี และ "เสี่ยเอ๋" อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ที่คว้ารางวัล "เกียรติภูมินิติโดม" รางวัลแห่งความภาคภูมิใจ . ขอบอก รางวัล "เกียรติภูมินิติโดม" ศิษย์เก่าดีเด่นนิติ- ธรรมศาสตร์ เป็นรางวัลอันทรงเกียรติ ที่ต้องการเชิดชูศิษย์เก่าดีเด่นที่ทำงานเสียสละเพื่อส่วนรวม . ปีนี้จัดเป็นปีแรกโดยสมาคมนิติศาสตร์ ร่วมกับ คณะนิติ ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และจัดพิธีมอบกันไปแล้วรวม 180 ราย ในงาน "นิติศาสตร์รำลึก 2561" กระชับสัมพันธ์ศิษย์เก่าศิษย์ปัจจุบัน และคณาจารย์ . งานนี้ 'เสี่ยเอ๋" ยิ้มร่า อธิบายถึงที่มาของรางวัลนี้ว่า มีการเปิดให้เพื่อน ๆ แต่ละรุ่นมีส่วนร่วมด้วยในการโหวตกันมาผ่านทางไลน์และโทรศัพท์ เพราะถือว่าเป็นรางวัลแห่งเกียรติภูมิของรุ่น . "ผมรู้สึกเป็นเกียรติมาก โดยเฉพาะการได้รับรางวัลพร้อมกับ "ท่านชวน" เรียกได้ว่า เป็นรุ่นปู่กับรุ่นหลาน เพราะ "ท่านชวน" นิติโดมรุ่น 2501 ส่วนผม นิติโดม รุ่น 2538 ครับ" แหม ๆ ๆ รุ่นปู่ รุ่นหลาน ตบเท้ารับรางวัลรัว ๆ อย่างนี้ การันตี คนค่ายสีฟ้า คุณภาพคับแก้วครับพ้ม . ขอบคุณข้อมูลจาก : เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 6 ก.พ. 2561 #DemocratTH #ประชาธิปัตย์ | Facebook". www.facebook.com.
  7. "Homepage". Boston University (ภาษาอังกฤษ).
  8. ""ศ.ดร.บังอร" อธิการบดี มกธ. เป็นประธานพิธีไหว้ครู ปีการศึกษา 2567 ด้วยความอบอุ่นประทับใจ". bkkthon.ac.th.
  9. "อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี "อย่าหาเหตุผลให้ความเลว"". bangkokbiznews. 2014-04-01.
  10. "สภาผ่านพรบ.บัตรเครดิต". posttoday. 2012-11-21.
  11. รายงานประจำปี 2557 สถาบันพระปกเกล้า (PDF). p. 9.
  12. "'สุขุมพันธุ์' เซ็นตั้ง 'อรรถวิชช์-อดิศักดิ์' นั่งที่ปรึกษา ผู้ว่าฯ กทม". www.thairath.co.th. 2015-10-23.
  13. "'อรรถวิชช์'ลาปชป.อีกราย! เผยตกลงกับ'กรณ์'ทำงานการเมืองแบบ'ถึงไหนถึงกัน'". naewna.
  14. ""กรณ์"ถือฤกษ์10โมงครึ่ง14ก.พ.เปิดชื่อพรรคที่มี"พยางค์เดียว"". thansettakij. 2020-02-12.
  15. ""กรณ์" เปิดตัวพรรคใหม่ ชื่อพรรค "กล้า"". Thai PBS.
  16. "พรรคกล้าจัดประชุม เลือกกรณ์หัวหน้า -อรรถวิชช์ เลขาฯ". posttoday. 2020-03-07.
  17. "พรรคกล้า เปิดตัว "อรรถวิชช์" ชิงเก้าอี้เลือกตั้งซ่อมเขตหลักสี่". Thai PBS.
  18. "ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย"สิระ"พ้นสภาพ ส.ส." mgronline.com. 2021-12-22.
  19. "กกต.ประกาศ 30 ม.ค. เลือกตั้งซ่อมส.ส.กทม.เขตหลักสี่ แทน "สิระ เจนจาคะ"". pptvhd36.com. 2022-01-03.
  20. "ผลเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม. หลักสี่ บอกอะไรเราบ้าง? โดยเฉพาะการพ่ายยับของ พปชร". The MATTER. 2022-01-31.
  21. หยู (2022-09-05). "'กรณ์' หิ้ว 'กอร์ปศักดิ์' ซบพรรคสุวัจน์ 'อรรถวิชช์' ลังเลเทพรรคกล้า".
  22. หยู (2022-09-21). "'กล้า' ได้หัวหน้าพรรค-กก.บห.ชุดใหม่ ไร้ชื่อ 'อรรถวิชช์' ส่อไปตามกรณ์".
  23. "รีแบรนด์พรรคใหม่ 'ชาติพัฒนากล้า' 'กรณ์' นั่งกรรมการบริหารพรรค". The MATTER (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2022-09-26.
  24. ""กรณ์" ผงาดนั่งหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า "เทวัญ" นั่งเลขาธิการพรรค". www.thairath.co.th. 2022-10-16.
  25. ""อรรถวิชช์" ลาออก รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า". Thai PBS.
  26. ฐานเศรษฐกิจ (2024-03-20). ""อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี" นั่งประธานบอร์ด WAVE". thansettakij.
  27. พี่เป๊อะ (2023-11-17). "'อรรถวิชช์' ชงปธ.สภาฯ ดันกม.ปฏิรูปเครดิตบูโร แก้หนี้นอกระบบ". thaipost.
  28. ฐานเศรษฐกิจ (2024-03-18). "WAVE ตั้ง"อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี" นั่งประธานบอร์ด มีผลแล้ว". thansettakij.
  29. ""เอ๋ อรรถวิชช์" โผล่ชมภาพยนตร์พร้อม "พีระพันธุ์ รทสช." เผยยังไม่สมัครพรรค ช่วยงานด้านกฎหมายก่อน". mgronline.com. 2024-06-24.
  30. "ต้อนรับอบอุ่น 'อรรถวิชช์' สวมเสื้อรวมไทยสร้างชาติ เสริมแกร่งทีมกฎหมาย". ไทยโพสต์. 20 สิงหาคม 2024. สืบค้นเมื่อ 21 สิงหาคม 2024.
  31. https://thaipublica.org/wp-content/uploads/2015/03/%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%99-%E0%B8%AA.%E0%B8%AA.-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%87-1-%E0%B8%9B%E0%B8%B5.pdf
  32. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๕๖ เก็บถาวร 2022-04-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๓๐ ตอนที่ ๓๐ ข หน้า ๑๓, ๖ ธันวาคม ๒๕๕๖
  33. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๕๓ เก็บถาวร 2022-11-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๒๗ ตอนที่ ๑๔ ข หน้า ๖๑, ๘ ธันวาคม ๒๕๕๓

แหล่งข้อมูลอื่น

Kembali kehalaman sebelumnya