ประสงค์ สุ่นศิริ
นาวาอากาศตรี ประสงค์ สุ่นศิริ (เกิด 11 สิงหาคม พ.ศ. 2470) เป็นนักการเมือง นักเขียน และอดีตทหารอากาศชาวไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (พลเอกเปรม ติณสูลานนท์) ผู้อำนวยการหนังสือพิมพ์แนวหน้า และอดีตประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ประวัติประสงค์ สุ่นศิริ เป็นชาวอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี เกิดเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2470 สมรสกับนางสุคนธ์ สุ่นศิริ [1] ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และศึกษาต่อที่ โรงเรียนฝึกหัดครูบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ก่อนไปเรียนต่อปริญญาตรีและปริญญาโท สาขาการบริหาร ที่สหรัฐอเมริกา การทำงานประสงค์ สุ่นศิริ เริ่มรับราชการเป็นครูอยู่ที่โรงเรียนประจำจังหวัดราชบุรี ต่อมาได้รับการโอนไปรับราชการทหารที่กรมข่าวทหารอากาศ ติดยศเรืออากาศตรี (ร.ต.) เป็นนายทหารคนสนิทติดตาม สิทธิ เศวตศิลา ไปอยู่ที่สำนักรักษาความปลอดภัย กองทัพอากาศ จากนั้นในปี พ.ศ. 2509 ได้รับทุนไปเรียนด้านข่าวกรองที่กองทัพอากาศ สหรัฐอเมริกา เมื่อเดินทางกลับมาได้ย้ายไปสังกัดสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ดำรงตำแหน่งหัวหน้ากอง1 สมช., ผู้อำนวยการกองข่าว สมช., ผู้ช่วยเลขาธิการ สมช., รองเลขาธิการ สมช. และ พ.ศ. 2523 เป็นเลขาธิการ สมช. ต่อจาก สิทธิ เศวตศิลา ที่เกษียณอายุราชการ ในปี พ.ศ. 2529 ได้ลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการ สมช. เพื่อมารับตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ของเปรม ติณสูลานนท์ ในสมัยรัฐบาล "เปรม 5" ภาพลักษณ์ของ ประสงค์ ที่เชี่ยวชาญด้านงานข่าวกรอง ทำให้ได้ฉายาว่า "ซีไอเอเมืองไทย" และได้อีกหนึ่งฉายา คือ "นายกฯน้อย" จากการที่เป็นเลขาธิการของ เปรม[2] การเมืองหลังเกษียณอายุในปี พ.ศ. 2530 ประสงค์ สุ่นศิริ ได้เข้าทำงานการเมืองเต็มตัว โดยรับหน้าที่เป็นเลขาธิการพรรคความหวังใหม่ จากนั้น พ.ศ. 2535 ได้ย้ายมาร่วมงานกับพรรคพลังธรรม เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2535/2 และได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ในรัฐบาล "ชวน 1" [3] ต่อมาในปี พ.ศ. 2537 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้เข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ และหัวหน้าพรรคพลังธรรม ประสงค์ สุ่นศิริจึงลาออกไปตั้งพรรคนำไทย ร่วมกับนายอำนวย วีรวรรณ จนในปี พ.ศ. 2539 เปิดตัวในฐานะสื่อมวลชน เป็นผู้อำนวยการหนังสือพิมพ์แนวหน้า เขียนคอลัมน์ "น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริพูด" มาจนถึงปัจจุบัน[4]มีจุดยืนค้านรัฐบาลอย่างชัดเจน ทั้งรัฐบาลนายบรรหาร ศิลปอาชา, รัฐบาลพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ กระทั่งปี พ.ศ. 2540 ได้เข้ามารับตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย ในปี พ.ศ. 2547 ในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร น.ต.ประสงค์ได้ทำการตรวจสอบและวิพากษ์วิจารณ์ตัว พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างหนัก จนได้รับฉายาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า "ปีศาจคาบไปป์" เนื่องจากเป็นบุคคลที่ชอบสูบและคาบไปป์จนเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งต่อมา น.ต.ประสงค์ได้เข้าร่วมกับนักธุรกิจและนักการเมืองหลายคน อาทิ นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์, นายเอกยุทธ อัญชันบุตร, พล.ท.เจริญศักดิ์ เที่ยงธรรม ก่อตั้งกลุ่มประชาชนเพื่อชาติและราชบัลลังก์ ขึ้นมาในกลางปีเดียวกันเพื่อทำการชุมนุมขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรขึ้นที่ท้องสนามหลวง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งหลังจากมีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นในต้นปี พ.ศ. 2549 สมาชิกในกลุ่มนี้หลายคนก็ได้เข้าร่วมเคลื่อนไหวกับทางกลุ่มพันธมิตรฯด้วย หลังการรัฐประหารในวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 ประสงค์ มีข่าวว่าจะได้รับตำแหน่งสำคัญหลายตำแหน่ง อาทิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมหรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แต่ท้ายสุดก็ได้เพียงแค่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติและเป็นประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ปี พ.ศ. 2550 เท่านั้น วิกฤตการณ์การเมืองไทย พ.ศ. 2556–2557
ผลงานเขียน
เครื่องราชอิสริยาภรณ์เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ
อ้างอิง
|