บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์
พลเอก บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ อดีตนายทหาร และนักการเมือง สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์, อดีตประธานมูลนิธิศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมทหาร, อดีตประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก, อดีตนายทหารราชองครักษ์พิเศษ[1] อดีตตุลาการศาลทหารสูงสุด อดีตรองประธานราชตฤณมัยสมาคม และประธานองค์การพิทักษ์สยาม ประวัติพล.อ. บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย เกิดเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2485 ที่อำเภอท่าหลวง จังหวัดลพบุรี พล.อ. บุญเลิศ สมรสกับนางธิดา แก้วประสิทธิ์ มีบุตรด้วยกัน 2 คนคือ
การศึกษา
ประวัติการทำงานรับราชการทหารพล.อ. บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ เคยดำรงตำแหน่ง ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก นายทหารราชองครักษ์พิเศษ[2] ตุลาการศาลทหารสูงสุด รองประธานราชตฤณมัยสมาคมและประธานองค์การพิทักษ์สยาม ในช่วงปี พ.ศ. 2520 พล.อ. บุญเลิศ ซึ่งขณะนั้นมียศเป็นพันตรี ได้เข้าร่วมในกบฏ 26 มีนาคม พ.ศ. 2520 ที่มี พล.อ. ฉลาด หิรัญศิริ เป็นแกนนำในการล้มรัฐบาลของนายธานินทร์ กรัยวิเชียร ที่มาจากการแต่งตั้งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินของ พล.ร.อ. สงัด ชลออยู่ อย่างไรก็ตามการก่อรัฐประหารครานั้นไม่ได้ประสบความสำเร็จ[3] การเมืองนับจากวันนั้นเป็นเวลาหลายปีที่ พล.อ. บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ห่างหายจากสารบททางการเมือง แต่ในวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2555 ชื่อของพล.อ. บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ได้กลับมามีบทบาททางการเมืองอีกครั้ง ในฐานะประธานองค์การพิทักษ์สยาม ที่ประกาศเสียงดังฟังชัดว่าจะเป็นแกนนำมวลชนชุมนุมใหญ่ขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ดีเดย์วันที่ 24 พฤศจิกายนนี้ โดยมี "ธง" นำประเทศไทยย้อนเวลาไปสู่การ "แช่แข็ง" นักการเมืองไม่ให้มายุ่งกับการปฏิรูปประเทศเป็นเวลาอย่างน้อย 2 ปี ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 พล.อ. บุญเลิศได้เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ของพรรคประชาธิปัตย์ ในลำดับที่ 26[4] นายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทยนอกจากนี้แล้ว พล.อ. บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ยังดำรงตำแหน่งนายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทยด้วย ซึ่งนับเป็นการดำรงตำแหน่งในช่วงที่สำคัญที่ทางไทยมีปัญหาบาดหมางกับทางสหพันธ์มวยสากลสมัครเล่นนานาชาติ หรือไอบ้า จนเกือบจะถูกตัดสิทธิให้เข้าร่วมแข่งขันในกีฬาโอลิมปิก และถูกให้ออกจากสมาชิกสหพันธ์ฯ[5] ซึ่งในการแข่งขันโอลิมปิก 2012 ที่กรุงลอนดอน พล.อ. บุญเลิศ ได้ประกาศไว้ว่าหากนักกีฬาไทยไม่อาจคว้าเหรียญทองมาได้ จะลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งต่อมาก็ไม่มีใครสามารถคว้าเหรียญทองมาได้จริง (ที่ประสบความสำเร็จสูงสุด คือ แก้ว พงษ์ประยูร ที่ได้เหรียญเงินในรุ่นไลต์ฟลายเวต) พล.อ. บุญเลิศ ก็ได้ลาออกจริงตามที่ได้ให้วาจาไว้[6] เครื่องราชอิสริยาภรณ์เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศอ้างอิง
|