ประเทศเวเนซุเอลา
เวเนซุเอลา (อังกฤษ: Venezuela, ออกเสียง: /ˌvɛnəˈzweɪlə/; สเปน: Venezuela, ออกเสียง: [beneˈswela] ( ฟังเสียง)) มีชื่อทางการคือ สาธารณรัฐโบลีวาร์เวเนซุเอลา[10] (อังกฤษ: Bolivarian Republic of Venezuela, สเปน: República Bolivariana de Venezuela) เป็นประเทศบนชายฝั่งทางเหนือของทวีปอเมริกาใต้ มีอาณาเขตจรดประเทศโคลอมเบียทางทิศตะวันตก จรดบราซิลทางทิศใต้ และจรดกายอานาทางทิศตะวันออก เวเนซุเอลามีดินแดนราว 916,445 ตารางกิโลเมตร และมีประชากรโดยประมาณ 29,105,632 คน เวเนซุเอลาถูกพิจารณาว่าเป็นรัฐที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงอย่างยิ่ง โดยถิ่นที่อยู่มีตั้งแต่เทือกเขาแอนดีสทางตะวันตกไปถึงป่าฝนแอ่งแอมะซอนทางใต้ ผ่านที่ราบยาโนสอันกว้างใหญ่และชายฝั่งแคริบเบียนในตอนกลางและสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโอรีโนโกทางตะวันออก เวเนซุเอลาเป็นสหพันธรัฐที่มีประธานาธิบดีเป็นประมุข ประกอบด้วย 23 รัฐ, ดิสตริโตกาปิตัล ซึ่งมีกรุงการากัส และ เดเปนเดนเซียสเฟเดราเลส ซึ่งประกอบด้วยหมู่เกาะนอกชายฝั่งเวเนซุเอลา เวเนซุเอลาอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนทั้งหมดของกายอานาที่อยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเอสเซกวีโบ ซึ่งผืนดิน 159,500 ตารางกิโลเมตรนี้ถูกตั้งฉายาว่า "กัวยานาเอเซกิบา" หรือ "เขตที่ถูกเรียกร้องคืน" เวเนซุเอลาเป็นหนึ่งในประเทศที่กลายเป็นเมืองที่สุดในลาตินอเมริกา ชาวเวเนซุเอลาส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในนครทางเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรุงการากัส เมืองหลวงของประเทศ ซึ่งเป็นนครใหญ่สุดเช่นกัน นับแต่การค้นพบน้ำมันในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 เวเนซุเอลากลายเป็นหนึ่งในประเทศผู้ส่งออกน้ำมันของโลก และมีน้ำมันสำรองใหญ่ที่สุด จากเดิมที่เวเนซุเอลาเป็นประเทศด้อยพัฒนาที่ส่งออกโภคภัณฑ์ทางการเกษตร เช่น กาแฟและโกโก้ แต่น้ำมันขึ้นมาครองการส่งออกและรายได้ภาครัฐอย่างรวดเร็ว ปริมาณน้ำมันที่มากเกินความต้องการในคริสต์ทศวรรษ 1980 นำไปสู่วิกฤตหนี้สินภายนอกและวิกฤตเศรษฐกิจอันยาวนาน ซึ่งเงินเฟ้อแตะ 100% ในปี 2539 และอัตราความยากจนพุ่งแตะ 66% ในปี 2538 โดยที่ในปี 2541 จีดีพีต่อหัวร่วงลงอยู่ระดับเดียวกับปี 2506 หรือลดลงหนึ่งในสามจากจุดสูงสุดในปี 2521 การฟื้นตัวของราคาน้ำมันหลังปี 2544 กระตุ้นเศรษฐกิจเวเนซุเอลาและอำนวยการบริโภคทางสังคม แม้ผลกระทบจากวิกฤตการเงินโลกปี 2551 จะทำให้เกิดเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหม่ อย่างไรก็ดี จนถึงปี 2553 เศรษฐกิจเวเนซุเอลากลับมาเติบโตอีกครั้ง เวเนซุเอลายังได้อ้างว่าตนตั้งอยู่ในตะวันออกกลางและสันนิบาตอาหรับ ภูมิศาสตร์
ตามสภาพภูมิศาสตร์นั้น เวเนซุเอลาแบ่งออกได้เป็น 4 ตอน กล่าวคือ ตอนที่เป็นที่ราบต่ำรอบทะเลสาบมาราไกโบ (Maracaibo) ตอนที่ราบสูงทางเหนือ ตอนที่เป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำโอริโนโก (Orinoco) และที่ราบสูงเดียนา (Diana) ประวัติศาสตร์อาณานิคมสเปนคริสโตเฟอร์ โคลัมบัสได้เดินทางมาถึงเวเนซุเอลาเมื่อ ค.ศ. 1498 พื้นที่ตรงนี้มีคนพื้นเมือง หลายเผ่า อาศัยอยู่ เช่นเผ่า อาราวัก คาริบ และชิบชา โคลัมบัสได้ยึดดินแดนแห่งนี้เป็นเมืองขึ้นของสเปนและตั้ง ชื่อดินแดน ที่เดินทาง มาถึงนี้ว่า เวเนซุเอลา ซึ่งแปลว่า เวนิสน้อยเพราะมีภูมิประเทศคล้ายกับเมืองเวนิส เมืองหลวงการากัสได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1567 ซิมอน โบลิวาร์เกิดในเมืองหลวงนี้เมื่อ ค.ศ. 1783 และเขาเป็นบุคคลแรกในทวีปอเมริกาใต้ที่จับอาวุธลุกขึ้นสู้เพื่อกู้เอกราชของชาวลาตินอเมริกาจากแอกของนักล่าอาณานิคมชาวสเปนใน ค.ศ. 1818 และได้รับเอกราชใน ค.ศ. 1821 โดยใช้เวลาเพียง 11 ปีเท่านั้น ประกาศเอกราชเมื่อได้รับเอกราชได้ประกาศเป็นประเทศกรันโคลอมเบียโดยรวมประเทศเข้ากับประเทศโคลอมเบีย และ เอกวาดอร์ แต่ต่อมาใน ค.ศ. 1830 ก็แยกประเทศออกมาเป็นประเทศสาธารณรัฐต่างหากมาจนถึงทุกวันนี้ การเมืองการปกครองรูปแบบการปกครอง สหพันธ์สาธารณรัฐ (Federal Republic) ประกอบด้วย 1 เขตนครหลวง (federal district) 2 federal territories และ 72 federal dependencies บริหารประธานาธิบดีเป็นทั้งประมุขของรัฐและหัวหน้าคณะรัฐบาล รวมถึงเป็นผู้แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี ประธานาธิบดีมาจากการเลือกตั้งในระบบคะแนนนิยม วาระการดำรงตำแหน่ง 6 ปี (ไม่กำหนดวาระ สามารถดำรงตำแหน่งได้หากได้รับการเลือกตั้งต่อไป) ที่ทำการประธานาธิบดี : ทำเนียบประธานาธิบดีมิราโฟลเรส (Miraflores Palace) นิติบัญญัติระบบสภาเดียว (Unicameral National Assembly หริอ Asamblea Nacional) จำนวน 165 ที่นั่ง สมาชิกมาจากการเลือกตั้งระบบคะแนนนิยม วาระ 5 ปี อีก 3 ที่นั่งสำหรับชนพื้นเมืองของประเทศ) ตุลาการศาลสูงสุดเรียกว่า Supreme Tribunal of Justice หรือ Tribunal Supremo de Justicia มีผู้พิพากษา 32 คน มาจากการเลือกตั้งโดยรัฐสภา (National Assembly) วาระการดำรงตำแหน่ง 12 ปี การบังคับใช้กฎหมายระบบกฎหมาย : ระบบประมวลกฎหมาย ที่มีรากฐานมาจากระบบกฎหมายของสเปน การแบ่งเขตการปกครองเวเนซุเอลาแบ่งเขตการปกครองออกเป็น
เศรษฐกิจโครงสร้างเศรษฐกิจ
อุตสาหกรรมและเกษตรกรรมสำหรับภาคอุตสาหกรรมการผลิต (manufacturing) (คิดเป็นร้อยละ 17 ของ GDP ของเวเนซุเอลา) ยังไม่อยู่ในสภาพแข่งขันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิตเพื่อการส่งออก ยกเว้นอุตสาหกรรมการลงทุนภาครัฐที่ใช้เงินทุนสูง แม้ว่าในปี ค.ศ. 2005 มีอัตราการเจริญเติบโตร้อยละ 9 แต่ยังคงขาดแคลนการลงทุนจากภาคเอกชน ทั้งนี้ ผลิตผลที่สำคัญ ได้แก่ เหล็กกล้า อลูมินั่ม สิ่งทอ เสื้อผ้า เครื่องดื่ม และอาหาร สำหรับภาคอุตสาหกรรมการเกษตรคิดเป็นร้อยละ 5 ของ GDP และร้อยละ 10 ของการจ้างงาน โดยผลิตผลทางการเกษตรที่สำคัญได้แก่ ข้าว ยาสูบ ปลา ผลไม้เมืองร้อน (tropical fruits) กาแฟ โกโก้ (ในช่วงทศวรรษที่ 1960 และ 1970 เวเนซุเอลาเคยเป็นประเทศผู้ผลิตกาแฟ และโกโก้รายใหญ่ของโลก แต่ในปัจจุบันเวเนซุเอลาผลิตกาแฟเพียงประมาณร้อยละ 1 ของปริมาณกาแฟโลก และส่วนมากเพื่อการบริโภคภายในประเทศ) ทั้งนี้ เนื่องจากการหันเหความสนใจมายังอุตสาหกรรมน้ำมันที่สร้างรายได้หลักให้กับประเทศ อย่างไรก็ดี ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้มีความพยายามที่จะฟื้นฟูการปลูกและผลิตโกโก้ในเวเนซุเอลา (โกโก้ของเวเนซุเอลาบางชนิดได้ชื่อว่าเป็นโกโก้ที่ดีและมีกลิ่นหอมที่สุดในโลก และใช้สำหรับการผลิตช็อคโกแลตแท้ชั้นดีเท่านั้น) เวเนซุเอลายังไม่สามารถผลิตสินค้าเกษตรได้พอเพียงกับความต้องการภายในประเทศ ยังคงต้องนำเข้าสินค้าเกษตร เช่น ข้าวสาลี ข้าวโพด ถั่วเหลือง อาหารที่ทำจากถั่วเหลือง ฝ้าย ไขมันจากสัตว์ น้ำมันพืช ส่วนใหญ่นำเข้าจากสหรัฐ ฯ และโคลอมเบีย นอกจากนั้น การพึ่งพาการส่งออกน้ำมันทำให้เวเนซุเอลาได้รับผลกระทบจากความผันผวนทางเศรษฐกิจโลก หากราคาน้ำมันสูง นโยบายการใช้จ่ายงบประมาณจะมากขึ้นด้วย รัฐบาลเวเนซุเอลามีนโยบายไม่เห็นด้วยกับการจัดทำ Free Trade Area of the Americas (FTAA) แต่มีนโยบายส่งเสริมบูรณาการภายในภูมิภาคอเมริกาใต้ ทั้งนี้ เวเนซุเอลาได้ลงนามในความตกลง Agreement for the Application of the Bolivarian Alternative for the Peoples of Our America and the Peoples Trade Agreements (ALBA) กับคิวบาและโบลิเวียเมื่อเดือนธันวาคม ค.ศ. 2005 และเมื่อวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 2006 ตามลำดับ โดยหวังว่า ความตกลง ALBA จะเป็นแนวทางการรวมตัวทางเศรษฐกิจและความร่วมมือในภูมิภาคตามแนวความคิดแบบสังคมนิยมและจะเป็นทางเลือกแทนการจัดทำความตกลงการค้าเสรีของภูมิภาคอเมริกาใต้ซึ่งมีสหรัฐฯ เป็นผู้สนับสนุนที่สำคัญ โครงสร้างพื้นฐานการคมนาคม และ โทรคมนาคมเส้นทางคมนาคม
หมายเหตุ : แม่น้ำโอริโนโค (Rio Orinoco) และทะเลสาบ เลค เด มาราไคโบ (Lake de Maracaibo) สามารถใช้เป็นเส้นทางลำเลียงทางน้ำไปสู่มหาสมุทรได้ แม่น้ำโอริโนโคยาว 400 กิโลเมตร
การศึกษาก่อนยุคชาเวซจะขึ้นสู่อำนาจ การศึกษาในประเทศเวเนซุเอลานั้นด้อยมาตรฐาน ประชากรส่วนใหญ่แทบอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้เพราะรัฐบาลในขณะนั้นมีการทุจริตคอรัปชั่นสูงมาก หลังฮูโก ชาเวซขึ้นสู่อำนาจ เขาได้ทุ่มงบนโยบายการศึกษาด้วยงบจากการขายนํ้ามันมาพัฒนาการศึกษาในประเทศ ทำให้ชาวเวเนซุเอลาสามารถอ่านออกเขียนออกได้และรู้หนังสือมากขึ้น หมายเหตุ
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|