อสมท
บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) (อังกฤษ: MCOT Public Company Limited; ชื่อย่อ: บมจ.อสมท, MCOT PCL.) เป็นรัฐวิสาหกิจในรูปแบบบริษัทมหาชนจำกัด ภายใต้การกำกับของรัฐบาลไทย ผ่านสำนักนายกรัฐมนตรี โดยมีรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลรัฐวิสาหกิจนี้ในปัจจุบันคือ จิราพร สินธุไพร[1] ประกอบธุรกิจสื่อมวลชน ดังนี้
โดยที่ทำการส่วนกลางในปัจจุบัน ตั้งอยู่เลขที่ 63/1 ถนนพระราม 9 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ประวัติบจก.ไทยโทรทัศน์จอมพล ป.พิบูลสงคราม เล็งเห็นถึงความสำคัญ ของการจัดบริการวิทยุและโทรทัศน์ ขึ้นในประเทศไทย จึงนำเสนอในรูป โครงการจัดตั้งวิทยุโทรภาพ ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี แต่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรส่วนมากกลับไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรง เนื่องจากเห็นว่าสิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดิน จึงยุติโครงการดังกล่าวลงชั่วคราว[2] ต่อมาในระหว่าง กันยายน-พฤศจิกายน พ.ศ. 2495 มีกลุ่มข้าราชการกรมประชาสัมพันธ์ ประกอบด้วย หลวงสารานุประพันธ์ (นวล ปาจิณพยัคฆ์), พลโทหม่อมหลวงขาบ กุญชร, ประสงค์ หงสนันทน์, พลตำรวจเอกเผ่า ศรียานนท์, เล็ก สงวนชาติสรไกร, พลอากาศโทมุนี มหาสันทนะ เวชยันต์รังสฤษฎ์ และนาวาอากาศเอกเลื่อน พงษ์โสภณ ดำเนินการระดมทุน ด้วยการเสนอขายหุ้นต่อกรมประชาสัมพันธ์เป็นเงิน 11 ล้านบาท จึงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐอีก 8 แห่ง เป็นเงิน 9 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 20 ล้านบาท และใช้เป็นทุนจดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท ไทยโทรทัศน์ จำกัด เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2495[3] องค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทยสืบเนื่องจากเหตุการณ์นองเลือด 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 สรรพสิริ วิรยศิริ กรรมการผู้จัดการในขณะนั้น นำกล้องภาพยนตร์ออกถ่ายทำข่าวบริเวณท้องสนามหลวงและหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แล้วกลับไปล้างฟิล์มและตัดต่อด้วยตนเอง เพื่อรายงานข่าว ทั้งทางไทยทีวีสีช่อง 9 และวิทยุ ท.ท.ท. ตามความเป็นจริง จึงทำให้เขา, ราชันย์ ฮูเซ็น และลูกน้องอีก 2-3 คนถูกปลดออกจากทุกตำแหน่ง กอปรกับประสบปัญหาในการหาเงินทุนมาดำเนินกิจการต่อ คณะรัฐมนตรีซึ่งนำโดยธานินทร์ กรัยวิเชียร จึงลงมติให้ยุบเลิกกิจการ เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2520 และมีการตราพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย พุทธศักราช 2520 เมื่อวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2520 โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการจัดตั้งองค์การของรัฐบาล พุทธศักราช 2496 เพื่อดำเนินการจัดตั้ง องค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย (อ.ส.ม.ท.) โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อประกอบกิจการสื่อสารมวลชน และกิจการอื่นที่เกี่ยวข้องหรือต่อเนื่อง หรือใกล้เคียงกับกิจการสื่อสารมวลชน ทั้งภายในและภายนอกราชอาณาจักร รวมถึงให้โอนพนักงานและลูกจ้างของ บจก.ไทยโทรทัศน์ เข้าเป็นพนักงานของ อ.ส.ม.ท. พร้อมทั้งรับโอนกิจการวิทยุและโทรทัศน์ของ บจก.ไทยโทรทัศน์ มาดำเนินงานสืบต่อ ซึ่งพระราชกฤษฎีกาฉบับดังกล่าว มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2520[3] ต่อมาในวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2520 อ.ส.ม.ท. ได้ก่อตั้งหน่วยงานเพิ่ม คือ สำนักข่าวไทย เพื่อดำเนินงานผลิตและเผยแพร่ข่าวสาร นับว่าเป็นสำนักข่าวแห่งแรกของไทย และในปี พ.ศ. 2532 อ.ส.ม.ท. ดำเนินการจัดสรรคลื่นความถี่ โทรทัศน์ผ่านระบบเคเบิล, สัมปทานให้เอกชนเช่าสัมปทานและความถี่ และร่วมดำเนินธุรกิจกับเอกชน ในการให้บริการโทรทัศน์ระบบบอกรับเป็นสมาชิก เป็นครั้งแรกของประเทศไทย คือ ไอบีซี (เริ่มสัญญาเมื่อ 17 เมษายน พ.ศ. 2532) ซึ่งต่อมารวมกิจการกับยูทีวี (เริ่มสัญญาเมื่อ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2536 ปัจจุบันคือทรูวิชันส์) ทั้งนี้ ยังมีสถานีโทรทัศน์ไทยสกายอีกแห่งหนึ่ง (ปัจจุบันยุติการออกอากาศแล้ว) บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)จากนั้นเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2547 อ.ส.ม.ท. ดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เพื่อแปลงสภาพเป็นนิติบุคคล ประเภทบริษัทมหาชนจำกัด ตามพระราชบัญญัติทุนรัฐวิสาหกิจฯ[3] โดยมีทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 600 ล้านหุ้น ปัจจุบันมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ จำนวนร้อยละ 65[4] บมจ.อสมท เข้าจดทะเบียนซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2547 และกระจายหุ้นสู่มหาชน เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2547 ก่อนหน้านั้น อ.ส.ม.ท. จดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท พาโนราม่า เวิลด์ไวด์ จำกัด เป็นบริษัทย่อย เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2546 สำหรับผลิตรายการและสารคดีให้กับ บมจ.อสมท, หน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อเผยแพร่หรือจำหน่ายแก่สถานีโทรทัศน์ ทั้งในและต่างประเทศ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่
ตราสัญลักษณ์พ.ศ. 2495 - พ.ศ. 2520บจก.ไทยโทรทัศน์ ใช้ตราสัญลักษณ์ของสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีช่อง 4 เป็นตราสัญลักษณ์ของหน่วยงาน พ.ศ. 2520 - พ.ศ. 2547หลังก่อตั้ง อ.ส.ม.ท. จึงเปลี่ยนสัญลักษณ์เป็นรูปวงกลม ภายในเป็นรูปคลื่นกระจายสัญญาณ โดยฝั่งบนมีสีที่กระจายอยู่ 3 สี คือ แดง เขียว น้ำเงิน และมีตัวอักษรคำว่า อ.ส.ม.ท. แบบโค้งสีดำ อยู่ฝั่งล่างพื้นหลังเป็นเหลือง ซึ่งอยู่ฝั่งล่าง แต่ในเอกสารจะใช้แบบโครงเส้น พ.ศ. 2547 - ปัจจุบันหลังจากการแปรรูปรัฐวิสาหกิจเป็น บมจ.อสมท ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2547 ก็ใช้สัญลักษณ์ของโมเดิร์นไนน์ทีวี มาเป็นสัญลักษณ์ประจำหน่วยงาน ผู้บริหารองค์กร
ตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดขององค์กรแห่งนี้ เรียกว่า ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) ส่วนตำแหน่งผู้บริหารองค์กรนั้น มีการเปลี่ยนชื่อไปตามการแปรรูปองค์กร แต่ผู้ดำรงตำแหน่งนี้ ถือว่าเป็น "ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์" ในทุกสมัยจนถึงปัจจุบัน โดยในยุคแรกคือ บจก.ไทยโทรทัศน์ ใช้ชื่อตำแหน่งว่า กรรมการผู้จัดการ ต่อมาในยุค อ.ส.ม.ท. ใช้ชื่อตำแหน่งว่า ผู้อำนวยการ และในยุคปัจจุบันคือ บมจ.อสมท ใช้ชื่อตำแหน่งว่า กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ โดยที่ปรากฏต่อไปนี้ เป็นรายนามของผู้บริหารนับแต่ พ.ศ. 2520 จนถึงปัจจุบัน[6] รายนามประธานคณะกรรมการบจก.ไทยโทรทัศน์
อ.ส.ม.ท.
บมจ.อสมท
รายนามผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีช่อง 4
อ.ส.ม.ท.
บมจ.อสมท
การประกอบธุรกิจช่อง 9 เอ็มคอต เอชดีกิจการวิทยุโทรทัศน์ภาคพื้นดินของ บมจ.อสมท โดยตรงคือ ช่อง 9 เอ็มคอต เอชดี ซึ่งเปลี่ยนชื่อมาจาก สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีช่อง 4 (2498-2517), สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 9 (พ.ศ. 2517 - 2545) และ สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ (พ.ศ. 2545 - 2558) ตามลำดับ ก่อตั้งเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2498 และเปลี่ยนมาออกอากาศ ด้วยระบบโทรทัศน์สี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2517 ดำเนินการแพร่ภาพตลอด 24 ชั่วโมง โดยออกอากาศจากสถานีแม่ข่าย ซึ่งตั้งอยู่ภายในสำนักงานใหญ่ ถนนพระราม 9 ไปยังสถานีเครือข่ายในส่วนภูมิภาค จำนวน 53 สถานีทั่วประเทศ มีขอบเขตการให้บริการ ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ประมาณร้อยละ 87 และมีประชาชนอยู่ในเขตพื้นที่บริการ ประมาณร้อยละ 88.5 เครือข่ายโทรทัศน์ดาวเทียมเอ็มคอตกิจการวิทยุโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมซึ่งดำเนินงานโดย บมจ.อสมท ได้แก่ เครือข่ายโทรทัศน์ดาวเทียมเอ็มคอต ออกอากาศด้วยระบบดิจิทัลตลอด 24 ชั่วโมง จำนวน 2 ช่องรายการคือ เอ็มคอตวัน (MCOT1) และเอ็มคอตเวิลด์ (MCOT World) เริ่มแพร่ภาพเป็นปฐมฤกษ์ เมื่อวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2550 ซึ่งเป็นโอกาสคล้ายวันสถาปนา อ.ส.ม.ท. ครบรอบ 30 ปี โดยทั้งสองช่องรายการ ออกอากาศรายการ และสาระต่างๆ รวมทั้งข่าวสาร การถ่ายทอดสด และกีฬาต่าง ๆ เป็นต้น ปัจจุบันทั้ง 2 ช่อง ได้ยุติออกอากาศแล้ว [15][16] สถานีวิทยุเอ็มคอตเรดิโอกิจการวิทยุกระจายเสียงในการกำกับดูแลของ บมจ.อสมท คือ สถานีวิทยุ อสมท เอ็มคอต เรดิโอ ก่อตั้งเมื่อ วันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2497 ภายใต้ชื่อ สถานีวิทยุกระจายเสียง ท.ท.ท. ของ บจก.ไทยโทรทัศน์ ในปัจจุบันทำการส่งกระจายเสียงทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค มีจำนวนสถานีทั่วประเทศทั้งหมดจำนวน 47 สถานี ประกอบไปด้วย สถานีวิทยุที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร ระบบ FM 6 สถานี และในส่วนภูมิภาค ส่งกระจายเสียงในระบบ FM 41 สถานี มีขอบเขตการให้บริการครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศประมาณ 92.4% และมีประชาชนอยู่ในเขตพื้นที่บริการประมาณ 93.8% ในปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการขออนุญาตเพื่อทำการจัดตั้งสถานีเครือข่ายเพิ่มเติม เพื่อขยายขอบเขตการให้บริการ
สำนักข่าวไทยกิจการบริการข่าวสาร ในการกำกับดูแลของ บมจ.อสมท คือ สำนักข่าวไทย ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2520 เป็นศูนย์กลางในการผลิต รวบรวม จัดเก็บ วิเคราะห์ และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร โดยนำเสนอผ่านทางสื่อของบริษัท ได้แก่ สถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 เอ็มคอตเอชดี, เครือข่ายสถานีวิทยุ อสมท เอ็มคอต เรดิโอ, สื่ออิเล็กทรอนิกส์ผ่านทางเว็บไซต์อีกด้วย นอกจากนี้ยังได้ขยายความร่วมมือด้านต่าง ๆ รวมทั้งการแลกเปลี่ยนข่าวสารกับสำนักข่าว และสื่อสำคัญ ๆ ทั่วโลก ธุรกิจอื่น ๆบมจ.อสมท มีธุรกิจคือ บริษัท พาโนรามา เวิลด์ไวด์ จำกัด เพื่อผลิตรายการโทรทัศน์และสารคดีโทรทัศน์ ก่อตั้งเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2546 รวมถึงธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ บมจ.อสมท ยังร่วมดำเนินกิจการกับผู้ประกอบการรายอื่น ประกอบด้วย 2 กิจการหลักที่สำคัญคือ ร่วมกับ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด (BEC) ในการดำเนินกิจการสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ในระยะเวลา 50 ปี (หมดสัญญาไปตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 และปัจจุบันคือช่อง 3 เอชดี) รวมทั้งให้เช่าเวลาจัดรายการ และโฆษณาทางสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 105.5 เมกะเฮิร์ตซ์ และร่วมกับบริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) (เดิมคือบริษัท อินเตอร์เนชันแนลบรอดแคสติงคอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ยูทีวีเคเบิลเน็ตเวิร์ก จำกัด (มหาชน) ก่อนจะควบรวมกิจการเมื่อปี พ.ศ. 2541) ในการดำเนินกิจการโทรทัศน์ระบบบอกรับเป็นสมาชิก โดยมีชื่อว่า ทรูวิชั่นส์ (เดิมชื่อ ไอบีซี/ยูทีวี, ยูบีซี, ยูบีซี-ทรู, ทรูวิชันส์-ยูบีซี) อนึ่ง บมจ.อสมท ยังเคยร่วมกับบริษัท สยามบรอดแคสติง จำกัด เพื่อดำเนินกิจการโทรทัศน์ระบบบอกรับเป็นสมาชิก ภายใต้ชื่อไทยสกายทีวี ระหว่างปี พ.ศ. 2534 - 2540 อีกด้วย อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|