ฟาโรห์ทาเคลอตที่สาม
อูเซอร์มาอัตเร เซเทปเอนอามุน ทาเคลอตที่ 3 ซิ-เอเซ (ทรงครองราชย์ระหว่าง 774 – 759 ปีก่อนคริสตกาล) เป็นพระราชโอรสพระองค์โตและทรงเป็นผู้สืบทอดพระราชบัลลังก์ของฟาโรห์โอซอร์คอนที่ 3 พระองค์ทรงขึ้นปกครองในช่วงห้าปีแรกด้วยการสำเร็จราชการร่วมกับพระราชบิดา ตามที่ปรากฏในหลักฐานจากบันทึกระดับแม่น้ำไนล์ หมายเลข 13 (ซึ่งเท่ากับปีที่ 28 แห่งการคองราชย์ของฟาโรห์โอซอร์คอนที่ 3 ถึงปีที่ 5 แห่งการครองราชย์ของฟาโรห์ทาเคลอตที่ 3) และทรงสืบต่อพระราชบัลลังก์จากพระราชบิดาของพระองค์ในฐานะฟาโรห์ในปีต่อมา ก่อนหน้านั้นพระองค์ทรงดำรงตำแหน่งมหาปุโรหิตแห่งอามุนที่ธีบส์ เคยมีการเชื่อว่าะรัองค์ทรงครองราชย์เป็นระยะเวลาเพียง 7 ปี จนกระทั่งมีการค้นพบจารึกจากอาไมดาในโอเอซิสดัคลา ในปี ค.ศ. 2005 ซึ่งมีการบันทึกที่ระบุช่วงเวลาถึงปีที่ 13 แห่งการครองราชย์ของพระองค์[1] ผู้สืบทอดพระราชบัลลังก์ฟาโรห์ทาเคลอตที่ 3 เป็นพระสวามีของพระนางอิร์ทิอูบาสต์ ซึ่งการบันทึกเกี่ยวกับพระองค์ว่า "ในฐานะพระราชธิดาของกษัตริย์บนโลงพระศพของพระราชโอรสของพระองค์ โอซอร์คอน จี""[2] และอีกพระองค์ พระนางอิร์ทิอูบาสต์ ("บี") ดูเหมือนจะเป็นพระราชธิดาของกษัตริย์[3] แต่ในที่สุด ฟาโรห์รุดอามุนกลับทรงขึ้นมาปกครองครองต่อจากพระองค์ ซึ่งเป็นพระอนุชาและเป็นพระราชโอรสอีกพระองค์ของฟาโรห์โอซอร์คอนที่ 3 แทนที่จะเป็นพระราชโอรสพระองค์ใดพระองค์หนึ่งใน 3 พระองค์ที่รู้จัก คือ เจ้าชาย/มหาปุโรหิตโอซฮร์คอน เอฟ, เจ้าชายอิเทสอามุน ผู้ซึ่งปรากฏบนจารึกของอังค์เฟนมุต ซึ่งเป็นพระราชนัดดาของพระองค์ในห้องสมุดกลางครอยดอน และสุดท้ายคือ ประกาศกแห่งอามุนขั้นที่สอง นามว่า ดเจดพทาห์เอฟอังค์ ดี ซึ่งปรากกฏร่วมในรูปสลักทือบิงเงิน หมายเลข 1734 และในจารึก ซีจี 41006 ของพระราชปนัดดาพระองค์โตของพระองค์นามว่า นัคต์บาสเทรู[4] จากหลักฐานทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นว่า ฟาโรห์ทาเคลอตที่ 3 ทรงต้องมีพระชนมพรรษามากแล้วและยืนกว่าพระราชโอรสทั้งสามพระองค์ ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่พระเชษฐาของกษัตริย์จะทรงขึ้นครองพระราชบัลลังก์ หากกษัตริย์ยังมีพระราชโอรสที่ยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่[5] โดยตามประเพณีดั้งเดิมของชาวอียิปต์กำหนดให้พระราชโอรสของกษัตริย์สืบต่อจากพระราชบิดาโดยตรง อ้างอิง
บรรณานุกรม
|