ราชวงศ์ที่สิบห้าแห่งอียิปต์
ราชวงศ์ที่สิบห้าแห่งอียิปต์ เป็นราชวงศ์ต่างแดนจากเอเชียตะวันตกในสมัยอียิปต์โบราณ ซึ่งสถาปนาราชวงศ์ขึ้นโดยฟาโรห์ซาทิลิส ซึ่งได้เข้ารุกรานดินแดนและสามารถพิชิตอียิปต์ล่างในเวลาต่อมา[1] ราชวงศ์ที่สิบห้า ราชวงศ์ที่สิบหก และราชวงศ์ที่สิบเจ็ดแห่งอียิปต์ จะถูกรวมกันอยู่ในช่วงเวลาที่เรียกว่า สมัยช่วงระหว่างกลางครั้งที่สอง ราชวงศ์ที่สิบห้ามีระยะเวลาปกครองอยู่ช่วงประมาณระหว่าง 1650 ถึง 1550 ปีก่อนคริสตกาล[2][3] ประวัติราชวงศ์กล่าวกันว่าฟาโรห์แห่งราชวงศ์ที่สิบห้าเป็นชาวคานาอัน[4] เป็นที่ทราบกันดีว่าฟาโรห์คาโมสจากราชวงศ์ที่สิบเจ็ดแห่งอียิปต์ทรงเรียกฟาโรห์อะโพฟิส ซึ่งเป็นหนึ่งในฟาโรห์ของราชวงศ์ว่า "ประมุขแห่งเรทเจนู (ซึ่งก็คือ คานาอัน)"[5][6] ฟาโรห์แห่งราชวงศ์ที่สิบห้าทรงได้ก่อตั้ง "ราชอาณาจักรของชาวเอชียแห่งที่สองในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ" ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ซึ่งอาจรวมถึงคานาอันด้วย ถึงแม้ว่าจะขาดหลักฐานทางโบราณคดีก็ตาม[7][8] ราชวงศ์นี้ปกครองอยู่ได้ประมาณ 108 ปี[9][10] ฟาโรห์พระองค์แรกซึ่งเรียกอีกอย่างว่า ฮิกซอส (ḥḳꜣw-ḫꜣswt, "คนเลี้ยงแกะ" ตามคำกล่าวของแอฟริกานัส) นำได้พสกนิกรของพระองค์เข้ายึดครองพื้นที่ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนล์และตั้งรกรากในเมืองหลวงของพระองค์ที่เมืองอวาริส ซึ่งเป็นเหตุให้ราชวงศ์ที่สิบสี่แห่งอียิปต์ล่มสลายลง[4] อย่างไรก็ตาม ไม่ปรากฏหลักฐานของความขัดแย้งในเวลาช่วงนั้น และการตั้งถิ่นฐานของชาวคานาอันในพื้นที่ดังกล่าวอาจจะเกิดขึ้นอย่างค่อนข้างสงบ เนื่องจากสภาวะสุญญากาศทางอำนาจที่เหลือจากการล่มสลายของราชวงศ์ที่สิบสี่[6] อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ภายหลังกับผู้ปกครองชาวอียิตป์ในช่วงเวลานั้นเป็นไปอย่างด้วยความขัดแย้งที่รุนแรง[11] ฮิกซอสชาวอวาริสในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนล์ถูกชาวอียิปต์เรียกว่า "อามู" ซึ่งเป็นคำที่ใช้เรียกชาวซีเรียและเลแวนต์ หรือศัตรูของฟาโรห์รามเสสที่ 2 ในสมรภูมิคาเดช ซึ่งได้รับการแปลโดยทั่วไปว่าเป็น "ชาวเอเชียตะวันตก" โดยนักไอยคุปต์วิทยา[12] คำว่า ฮิกซอส เป็นคำที่ใช้เพื่อระบุตัวเหล่าหัวหน้าเผ่าจากต่างแดน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ผู้ปกครองของชาวเอเชีย" ซึ่งมีมาก่อนราชวงศ์ที่สิบห้าและหลังจากนั้นด้วย[12][13] โดยไม่ใช่ตำแหน่งอย่างเป็นทางการของผู้ปกครองราชวงศ์ที่สิบห้า และไม่เคยพบร่วมกับตำแหน่งยศราชวงศ์ ยกเว้นกรณีหายากกรณีหนึ่งในคำจารึกจากเทล อัด-ดับ'อา ที่กล่าวถึงฟาโรห์นิรนามและอธิบายว่าพระองค์ทรงเป็น ฮิกซอส[13] "ฮิกซอส" ค่อนข้างเป็นคำทั่วไป ซึ่งพบแยกจากตำแหน่งยศราชวงศ์และรายการรัชสมัยในช่วงหลังสิ้นสุดราชวงศ์ที่สิบห้า[13][14] ในอีกกรณีหนึ่ง ฟาโรห์คิอานดำริว่าจะใช้พระอิสริยยศ "ฮิกซอส" ในช่วงต้นรัชสมัยของพระองค์ หลังจากนั้นก็ทรงเลิกใช้ตำแหน่งดังกล่าวแล้วมาใช้ตำแหน่งยศราชวงศ์ตามแบบอียิปต์เมื่อพระองค์สามารถรุกรานอียิปต์ทั้งหมด[13] มีเพียงฟาโรห์จำนวนสี่พระองค์แรกของราชวงศ์ที่สิบห้าเท่านั้นที่ใช้ทรงใช้พระอิสริยยศ "ฮิกซอส" และหลังจากนั้นตำแหน่งยศราชวงศ์ก็กลายเป็นตำแหน่งแบบอียิปต์ล้วน[14] พระราชอาณาจักรความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเป็นประจำกับราชวงศ์ของผู้ปกครองพื้นเมืองอียิปต์ที่อยู่ทางใต้ยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งประกอบไปด้วย ราชวงศ์ที่สิบหก ราชวงศ์ท้องถิ่นอไบดอส และราชวงศ์ที่สิบเจ็ด โดยมีช่วงสั้นๆ ของช่วงความสงบในระหว่างที่มีความสัมพันธ์กับดินแดนนิวเบีย[4] ไม่นานหลังจากการยึดครองดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนล์ ซึ่งเข้ามามีอำนาจแทนที่ราชวงศ์ที่สิบสี่ ราชวงศ์ที่สิบห้าก็ขยายตัวเข้ายึดครองเมมฟิส ซึ่งนำไปสู่การล่มสลายของราชวงศ์ที่สิบสามที่เมืองเมมฟิส เมื่ออำนาจทางการเมืองของอียิปต์ได้ล่มสลายลงที่เมืองเมมฟิส ราชวงศ์ใหม่ก็สถาปนาขึ้นทางด้านทิศใต้ ซึ่งก็คือราชวงศ์ท้องถิ่นอไบดอส และราชวงศ์ที่สิบหกแห่งอียิปต์ที่เมืองธีบส์[15] หลังจากสถาปนาราชวงศ์ขึ้นประมาณ 20 ปี ราชวงศ์ที่สิบห้าก็ได้ขยายอำนาจการปกครองไปทางใต้จนถึงเมืองธีบส์ ซึ่งนำสู่ความขัดแย้งกับฟาโรห์เนเฟอร์โฮเทปที่ 3[4][15] ดินแดนอียิปต์ทั้งหมดถูกพิชิตในรัชสมัยของฟาโรห์คิอาน[13] และราชวงศ์ท้องถิ่นอไบดอสก็ได้หายสาบสูญไปในช่วงเวลาการพิชิตทางใต้ครั้งนี้ด้วย[15] อนุสรณ์สถานจำนวนมากจากพื้นที่ที่ถูกพิชิตได้ถูกนำขึ้นไปทางเหนือสู่เมืองอวาริส และอีกหลายแห่งมีจารึกเพิ่มเติม โดยเฉพาะโดยช่วงรัชสมยฟาโรห์อเปปิ[16] อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ก็มีการโต้แย้งจากอเล็กซานเดอร์ อิลิน-โทมิช ที่ว่า ดินแดนที่ปกครองโดยตรงโดยฟาโรห์ฮิกซอสแห่งอวาริสนั้นน่าจะจำกัดอยู่ที่บริเวณดินแดนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำฝั่งตะวันออก และอาณาเขตการควบคุมเหนืออียิปต์กลางยังไม่แน่ชัด[17] ในท้ายที่สุด ราชวงศ์ที่สิบห้าแห่งอียิปต์ก็ล่มสลายลงด้วยการพิชิตเมืองอวาริสโดยฟาโรห์อาโมสที่ 1[4] การค้าราชวงศ์ที่สิบห้ามีความสัมพันธ์ทางการค้ากับดินแดนคานาอันและไซปรัสเป็นส่วนใหญ่[4][18][19] มีการกล่าวกันว่าการค้ากับคานาอันนั้นเป็นไปอย่าง "เข้มข้น" โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการนำเข้าสินค้าดินแดนคานาอันจำนวนมาก และอาจจะสะท้อนถึงต้นกำเนิดของราชวงศ์นั้นมาจากคานาอันได้[19] ตามข้อความบนจารึกศิลาของฟาโรห์คาโมส ชาวฮิกซอสนำเข้า "รถศึกและม้า เรือ ไม้ซุง ทองคำ ลาพิชลาซูลี เงิน เทอร์ควอยซ์ ทองแดง ขวานจำนวนมาก น้ำมัน ธูป ไขมัน และน้ำผึ้ง"[18] ราชวงศ์ที่สิบห้ายังส่งออกสิ่งของจำนวนมากที่ปล้นมาจากทางตอนใต้ของอียิปต์ โดยเฉพาะรูปสลักอียิปต์ไปยังพื้นที่ของคานาอันและซีเรีย การถ่ายโอนโบราณวัตถุของอียิปต์ไปยังตะวันออกใกล้เหล่านี้อาจจะเกี่ยวข้องโดยเฉพาะกับฟาโรห์อะโพฟิส[19] ความสัมพันธ์ทางการค้ากับไซปรัสก็มีความสำคัญเช่นกัน[20] ศาสนาความสัมพันธ์ของราชวงศ์ที่สิบห้ากับประเพณีทางศาสนาของอียิปต์นั้นยังคลุมเครือ และในช่วงราชวงศ์ที่สิบแปดมีการกล่าวกันว่า "พวกเขาขึ้นมาปกครองโดยไม่ยอมรับเทพรา"[14] มีการบันทึกไว้ว่า ราชวงศ์นี้ได้ทำลายอนุสรณ์สถานและยึดขโมยเอารูปสลักของอียิปต์ เช่นเดียวกับการปล้นสุสานหลวง ฟาโรห์อาโมสที่ 1 ยังกล่าวอีกว่า "พีระมิดหลายแห่งนั้นถูกรื้อทิ้งลง"[21] ผู้ปกครองผู้ปกครองจากราชวงศ์ที่สิบห้าที่เป็นที่ทราบมีดังนี้:[22]
ราชวงศ์ที่สิบห้าแห่งอียิปต์ เป็นราชวงศ์ชาวฮิกซอสราชวงศ์แรกที่ไม่สามารถปกครองดินแดนอียิปต์ได้ทั้งหมด ซึ่งมีศูนย์กลางปกครองที่เมืองอวาริส โดยชาวฮิกซอสจะปกครองอยู่ในบริเวณทางตอนเหนือของอียิปต์ เนื่องจากพวกเขาได้แทรกซึมเข้ามาจากทางตะวันออกเฉียงเหนือของอียิปต์ พระนามและลำดับของฟาโรห์นั้นยังไม่แน่นอน บันทึกพระนามแห่งตูรินได้ระบุว่ามีฟาโรห์ชาวฮิกซอสจำนวนหกพระองค์ โดยมีฟาโรห์ที่มีความหลุมเครือพระนามว่า คามูดิ ซึ่งระบุว่าเป็นฟาโรห์พระองค์สุดท้ายของราชวงศ์ที่สิบห้า จำนวนฟาโรห์ที่ทรงพระนามว่า อเปปินักวิชาการบางคนเสนอความเห็นว่ามีฟาโรห์อะโพฟิสจำนวนสองพระองค์ที่ทรงพระนาม "อเปปิ" แต่เนื่องด้วยสาเหตุหลักเป็นเพราะปรากฏพระนามครองพระราชบัลลังก์จำนวนสองพระนามที่เกี่ยวข้องฟาโรห์พระองค์นี้คือ อาวอเซอร์เร และ อาเกนเอนเร อย่างไรก็ตาม คิม รีฮอล์ต นักไอยคุปต์วิทยาชาวเดนมาร์ก ได้ยืนยันไว้ในการศึกษาของเขาเกี่ยวกับสมัยช่วงระหว่างกลางครั้งที่สองว่า พระนามครองพระราชบัลลังก์ทั้งสองพระนามนี้ล้วนหมายถึงบุคคลคนเดียวกันก็คือ ฟาโรห์อเปปิที่ 1 ซึ่งเป็นผู้ปกครองอียิปต์เป็นระยะเวลา 40 + X ปี[24] สิ่งนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากพระนามครองพระราชบัลลังก์พระนามที่สามในรัชสมัยของพระองค์ก็คือ เนบเคเปชเร[25] โดยฟาโรห์อะโพฟิสน่าจะทรงใช้พระนามครองราชบัลลังก์ที่แตกต่างกันในช่วงรัชสมัยอันยาวนานของพระองค์ สถานการณ์เช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยปราศจากแบบอย่างหรือแบบคู่ขนาน เนื่องจากฟาโรห์หลายพระองค์ รวมทั้งฟาโรห์เมนทูโฮเทปที่ 2 ฟาโรห์รามเสสที่ 2 ที่มีชื่อเสียง รวมไปถึงฟาโรห์เซติที่ 2 ที่ทรากันว่าพระองค์ทรงใช้พระนามครองพระราชบัลลังก์สองพระนามในรัชสมัยของพระองค์ อ้างอิง
บรรณานุกรม
|