Share to:

 

จิวท่าย

จิวท่าย
周泰
ภาพวาดจิวท่ายสมัยราชวงศ์ชิง
เฟิ่นเวย์เจียงจฺวิน (奮威將軍)
ดำรงตำแหน่ง
ค.ศ. 219 (219) – ค.ศ. ? (?)
เจ้าเมืองฮันต๋ง (漢中太守)
(ในนาม)
ดำรงตำแหน่ง
ค.ศ. 219 (219) – ค.ศ. ? (?)
ขุนพลปราบคนเถื่อน (平虜將軍)
ดำรงตำแหน่ง
ค.ศ. 217 (217) – ค.ศ. 219 (219)
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิดไม่ทราบ
อำเภอเฟิ่งไถ มณฑลอานฮุย
เสียชีวิตป. ค.ศ. 223[a][2]
บุตร
  • โจวเช่า
  • โจวเฉิง
อาชีพขุนพล
ชื่อรองโย่วผิง (幼平)
บรรดาศักดิ์หลิงหยางโหว (陵陽侯)

จิวท่าย หรือ โจวไท่ (เสียชีวิตประมาณปี ค.ศ. 223) ชื่อรอง โย่วผิง เป็นนายทหารที่รับใช้ซุนกวน ขุนศึกในช่วงปลายราชวงศ์ฮั่นตะวันออกและช่วงต้นยุคสามก๊กของประเทศจีน ก่อนหน้านั้นรับใช้ซุนเซ็ก ผู้เป็นพี่ชายซุนกวนและผู้ดำรงตำแหน่งคนก่อนหน้า[2]

รับใช้ซุนเซ็ก

จิวท่ายมาจากเมืองเซี่ยไก๋ (下蔡縣) นครจิ่วเจียง (九江郡) (ปัจจุบันคืออำเภอเฟิ่งไถ มณฑลอานฮุย) มีอุปนิสัยซื่อสัตย์และสุภาพ ในช่วงประมาณต้นทศวรรษ 190 จิวท่ายและเจียวขิมเข้ามารับใช้ซุนเซ็กที่กำลังพิชิตกังตั๋งและออกรบร่วมกันหลายครั้ง หลังจากอองลองยอมแพ้ ซุนเซ็กได้ยึดครองนครกัวจิ (ปัจจุบันคือนครเช่าชิง มณฑลเจ้อเจียง) และแต่งตั้งจิวท่ายเป็นผู้นำทหารหน่วยพิเศษ (別部司馬) และมอบทหารส่วนหนึ่งไว้ใต้บังคับบัญชา[3]

ช่วยชีวิตซุนกวน

ซุนกวน ผู้เป็นน้องชายของซุนเซ็ก ชื่นชอบในตัวจิวท่ายจึงขอให้จิวท่ายย้ายไปอยู่ในหน่วยของเขา มีอยู่ครั้งหนึ่ง ซุนเซ็กยกทัพไปปราบโจรที่ลุกฮือขึ้นมาในหกเมืองของนครกัวจิ และทิ้งซุนกวนไว้ในเมืองเชวี่ยนเฉิง (宣城縣; ปัจจุบันคือเมืองเชวี่ยนเฉิง มณฑลอานฮุย) กับนายทหารไม่ถึง 1,000 นาย ซุนกวนประมาทและไม่ได้ตั้งแนวรับเอาไว้ เมื่อโจรนับพันบุกเข้ามา ซุนกวนพยายามหนี แต่ก็ถูกล้อมเอาไว้[4] โจรเหล่านั้นเข้าโจมตีซุนกวนและฆ่าม้าทิ้ง ทำให้คนของซุนกวนตื่นตระหนก มีเพียงจิวท่ายเท่านั้นที่พุ่งเข้าไปปกป้องซุนกวนและทำให้คนของซุนกวนที่อยู่ใกล้เขาฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากปราบโจรสำเร็จ จิวท่ายมีบาดแผลลึก 12 แห่งทั่วร่างกายและใช้เวลานานพอสมควรในการฟื้นฟู ถ้าวันนั้นจิวท่ายไม่อยู ซุนกวนก็คงตายไปแล้ว ซุนเซ็กประทับใจในความกล้าหาญจึงแต่งตั้งจิวท่ายเป็นเจ้าเมือง (長) เฉิ้งกู่ (春穀縣; ปัจจุบันคือทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองฝันชั้ง มณฑลอานฮุย)[4]

รบกับเล่าซุน

ในปี 199 จิวท่ายติดตามซุนเซ็กเพื่อบุกโจมตีเล่าชุนที่เมืองหวัน (皖縣; ปัจจุบันคือเมืองเฉียนชั่น มณฑลอานฮุย) และหองจอที่นครเจียงเซีย (江夏郡; เมืองหลวงของเจียงเซียปัจจุบันอยู่ที่เขตซินโจว เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์) เมื่อกลับมาจากการรบ จิวท่ายเดินทางผ่านนครยู่จัง (豫章郡) และได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าเมือง (長) อี๋ฉ้วน (宜春縣; ปัจจุบันคือนครอี๋ฉ้วน มณฑลเจียงซี) ชาวเมืองที่อยู่ภายใต้การปกครองของจิวท่ายช่วยจัดหาเงินทุนและเสบียงที่จำเป็นให้แก่กองทัพของเขา[5]

รับใช้ซุนกวน

ซุนเซ็กถูกลอบสังหารในปี 200 ขณะกำลังออกล่าสัตว์ โดยซุนกวนรับช่วงต่อ ในปี 208 จิวท่ายเข้าร่วมรบในศึกเจียงเซีย ภายหลังในปีนั้น จิวท่ายเข้าร่วมรบในศึกเซ็กเพ็กภายใต้การบัญชาของจิวยี่และเทียเภา ทัพพันธมิตรของซุนกวนและเล่าปี่เอาชนะทัพโจโฉไปได้ ไม่นานหลังจากศึกเซ็กเพ็ก จิวท่ายรบในศึกเจียงหลิง ทัพซุนกวนเอาชนะโจหยินและยึดนครหนาน (南郡; ปัจจุบันคือเมืองจิงโจว มณฑลหูเป่ย์) หลังจากจบศึก จิวท่ายได้รับคำสั่งให้ไปรักษาการณ์ที่เมืองเสิน (岑縣)[6]

ศึกหรูฉื้อ

ในปี 217 โจโฉบุกซุนกวนอีกครั้ง นำไปสู่ศึกหรูฉื้อ จิวท่ายเข้าร่วมรบในแนวป้องกัน และทัพซุนกวนสามารถเอาชนะไปได้ หลังจากโจโฉถอยทัพ จิวท่ายได้รับการแต่งตั้งเป็นขุนพลปราบคนเถื่อน (平虜將軍) และได้รับคำสั่งให้ป้องกันหรูฉื้อไว้ ในช่วงเวลานั้น จูเหียนและชีเซ่งก็อยู่ที่หรูฉื้อและเป็นผู้ใต้บัญชาของจิวท่าย แต่ก็ลังเลที่จะรับคำสั่ง ซุนกวนเดินทางไปยังหรูฉื้อและจัดงานเลี้ยงให้แก่นายหทารที่นั่น ซุนกวนรินเหล้าให้จิวท่ายด้วยตัวเองและขอให้จิวท่ายถอดชุดออก ซุนกวนชี้ไปยังทุกแผลและถามว่าได้แผลมาจากไหน จิวท่ายก็ตอบว่าแผลนี้มาจากศึกนี้ เมื่อตอบเสร็จ ซุนกวนบอกให้จิวท่ายใส่ชุดและพวกเขาก็มีความสุขกันตลอดทั้งคืน ในวันรุ่งขึ้น ซุนกวนออกประกาศให้มอบร่มจักรพรรดิแก่จิวท่าย[7]

เจียงเปี่ยวเฉฺวียน (江表傳) ระบุเพิ่มเติมไว้ว่า

ซุนกวนยกแขนของจิวท่ายขึ้นมาและน้ำตานองหน้า ซุนกวนเรียกชื่อรองของจิวท่ายและพูดว่า "อิ้วผิง เจ้าต่อสู้เหมือนกับหมีและเสือให้กับข้าและพี่ชายของข้า เจ้าพร้อมจะสละชีวิตและเจ้าก็มีแผลทั่วร่างกาย แผลเป็นเหล่านี้เหมือนกับว่าถูกสลักเข้าไปในผิวหนังของเจ้า จะไม่ให้ข้าปฏิบัติต่อเจ้าเหมือนพี่ชาย และไม่ให้มอบหมายงานทางทหารแก่เจ้าได้อย่างไร? เจ้าได้ทำประโยชน์แก่ง่อก๊กอย่างมากมาย และข้าจะยืนเคียงข้างเจ้าไม่ว่าจะเป็นเกียรติหรืออับอาย และข้าจะแบ่งปันความสุขและความเศร้าโศกกับเจ้า อิ้วผิง จงมีความสุขเถิด อย่าหมดกำลังใจจากการที่เจ้ามาจากพื้นหลังต่ำต้อยเลย" ซุนกวนจึงมอบร่มไหมจักรพรรดิที่มีผ้าคลุมสีน้ำเงินแก่จิวท่าย หลังจากงานเลี้ยงเสร็จสิ้น ซุนกวนขอให้จิวท่ายไปส่งนอกหรูฉื้อ โดยมีเสียงกลองและแตรในพื้นหลัง[8]

จูเหียน ชีเซ่ง และคนอื่น ๆ ประทับใจในตัวจิวท่ายและยอมรับคำสั่งแต่โดยดี

บุกจิงโจว

ในปี 219 ซุนกวนส่งลิบองไปบุกยึดมณฑลจิงโจวจากกวนอู หลังจากบุกยึดสำเร็จ ซุนกวนวางแผนที่จะบุกเล่าปี่ในฉู่ (ครอบคลุมพื้นที่มณฑลเสฉวนและนครฉงชิ่งในปัจจุบัน) จึงแต่งตั้งจิวท่ายเป็นผู้ปกครองนครฮั่นจง ถึงแม้ว่าฮั่นจงจะอยู่ภายใต้การควบคุมของเล่าปี่ในขณะนั้น อีกทั้งยังแต่งตั้งเป็น General of Vehement Might (奮威將軍) และมอบยศขุนนาง "Marquis of Lingyang" (陵陽侯) ให้

เสียชีวิต

จิวท่ายเสียชีวิตในรัชสมัยหฺวางอู่ (黄武) (222-229) ของพระเจ้าซุนกวน[1] ไม่มีการระบุปีที่เสียชีวิตไว้ แต่ Rafe de Crespigny นักจีนวิทยาชาวออสเตรเลีย ประมาณไว้ว่าเป็น ค.ศ. 223[2]

ทายาท

โจวเช่า (周邵) ลูกชายของจิวท่าย ได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกองทหารม้า (騎都尉) และบัญชาทหารจำนวนหนึ่ง จิวเช่ารบกับโจหยินในศึกหรูฉื้อในปี 222-223 ในปี 228 จิวเช่าเข้าร่วมศึกเซ็กเต๋งภายใต้การบัญชาของลกซุน ทัพง่อเอาชนะทัพวุยที่นำทัพโดยโจฮิวไปได้ จิวเช่าเสียชีวิตในปี 230 โจวเฉิง (周承) ผู้เป็นน้องชายรับช่วงต่อ โดยโจวเฉิงสืบทอดตำแหน่งทางการทหารต่อจากพี่ชายและตำแหน่งขุนนางต่อจากพ่อ[9]

ในวัฒนธรรมสมัยนิยม

จิวท่ายปรากฏตัวเป็นตัวละครที่เล่นได้ในซีรีส์เกมส์ไดนาสตีวอริเออร์และวอริเออร์โอโรจิของค่ายโคเอ

เชิงอรรถ

หมายเหตุ

  1. ซานกั๋วจื้อบันทึกว่าจิวท่ายเสียชีวิตในช่วงศักราช Huangwu (222-229) ในรัชสมัยซุนกวน[1]

อ้างอิง

  1. 1.0 1.1 (黃武中卒。) Sanguozhi vol. 55.
  2. 2.0 2.1 2.2 de Crespigny (2007), p. 1148.
  3. (周泰字幼平,九江下蔡人也。 ... 與蔣欽隨孫策為左右,服事恭敬,數戰有功。策入會稽,署別部司馬,授兵。) Sanguozhi vol. 55.
  4. 4.0 4.1 (權愛其為人,請以自給。策討六縣山賊,權住宣城,使士自衞,不能千人,意尚忽略,不治圍落,而山賊數千人卒至。權始得上馬,而賊鋒刃已交於左右,或斫中馬鞌,衆莫能自定。惟泰奮激,投身衞權,膽氣倍人,左右由泰並能就戰。賊旣解散,身被十二創,良乆乃蘇。是日無泰,權幾危殆。策深德之,補春穀長。) Sanguozhi vol. 55.
  5. (後從攻皖,及討江夏,還過豫章,復補宜春長,所在皆食其征賦。) Sanguozhi vol. 55.
  6. (從討黃祖有功。後與周瑜、程普拒曹公於赤壁,攻曹仁於南郡。荊州平定,將兵屯岑。) Sanguozhi vol. 55.
  7. (曹公出濡須,泰復赴擊,曹公退,留督濡須,拜平虜將軍。時朱然、徐盛等皆在所部,並不伏也,權特為案行至濡須鄔,因會諸將,大為酣樂。權自行酒到泰前,命泰解衣,權手自指其創痕,問以所起。泰輒記昔戰鬬處以對,畢,使復服,歡讌極夜。其明日,遣使者授以御蓋。) Sanguozhi vol. 55.
  8. (江表傳曰:權把其臂,因流涕交連,字之曰:「幼平,卿為孤兄弟戰如熊虎,不惜軀命,被創數十,膚如刻畫,孤亦何心不待卿以骨肉之恩,委卿以兵馬之重乎!卿吳之功臣,孤當與卿同榮辱,等休戚。幼平意快為之,勿以寒門自退也。」即勑以己常所用御幘青縑蓋賜之。坐罷,住駕,使泰以兵馬導從出,鳴鼓角作鼓吹。) Jiang Biao Zhuan annotation in Sanguozhi vol. 55.
  9. (子邵以騎都尉領兵。曹仁出濡須,戰有功,又從攻破曹休,進位裨將軍,黃龍二年卒。弟承領兵襲侯。) Sanguozhi vol. 55.

บรรณานุกรม

  • ตันซิ่ว (คริสต์ศตวรรษที่ 3). สามก๊กจี่ (ซานกั๋วจื้อ).
  • de Crespigny, Rafe (2007). A Biographical Dictionary of Later Han to the Three Kingdoms 23-220 AD. Leiden: Brill. ISBN 9789004156050.
  • เผย์ ซงจือ (คริสต์ศตวรรษที่ 5). อรรถาธิบายสามก๊กจี่ (ซานกั๋วจื้อจู้).
Kembali kehalaman sebelumnya