มหาอำมาตย์โท นายพลตรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนมรุพงษ์ศิริพัฒน์ (27 พฤษภาคม พ.ศ. 2406 – 5 เมษายน พ.ศ. 2466) เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อดีตองคมนตรีในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้บังคับการกรมทหารรักษาพระองค์ อัครราชทูตพิเศษประจำกรุงปารีส และข้าหลวงเทศาภิบาลมณฑลกรุงเก่า ทรงเป็นต้นราชสกุลวัฒนวงศ์[1]
พระประวัติ
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนมรุพงศ์ศิริพัฒน์ มีพระนามเดิมว่า พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าวัฒนานุวงศ์ เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 63 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาบัว (ธิดาเจ้าพระยานครศรีธรรมราช (น้อย ณ นคร)) ประสูติเมื่อวันพุธ ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 7 ปีกุน เบญจศก จ.ศ. 1225 ตรงกับวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2406 พระองค์มีศักดิ์เป็นพระราชปนัดดาในสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ทางฝั่งพระมารดา มีพระเชษฐา พระเชษฐภคินีและพระอนุชาร่วมเจ้าจอมมารดา 5 พระองค์ ได้แก่
- พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมลักษณเลิศ (ประสูติ พ.ศ. 2398 พระชันษา 2 ปี)
- พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนศิริธัชสังกาศ (พ.ศ. 2400-2453)
- พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอรไทยเทพกัญญา (พ.ศ. 2402-2449)
- พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนมรุพงษ์ศิริพัฒน์ (พ.ศ. 2406-2466)
- พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดำรงฤทธิ์ (ประสูติ พ.ศ. 2407 พระชันษา 3 ปี)
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาขึ้นเป็น พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นมรุพงษ์ศิริพัฒน์ ทรงศักดินา 15000[2] เมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2438 (ร.ศ. 114)
วันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2455 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการดำรัสสั่งให้เลื่อนขึ้นเป็น พระเจ้าบรมวงษ์เธอ กรมขุนมรุพงษ์ศิริพัฒน์ ทรงศักดินา 15000[3]
พระตำหนักของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นมรุพงศ์ศิริพัฒน์ ตั้งอยู่ท้ายเกาะลอย เรียกว่าตำหนักตะพานเกลือ เนื่องมีวัดตะพานเกลือ หรือ สะพานเกลือเป็นวัดโบราณสมัยกรุงศรีอยุธยาตั้งอยู่ในละแวกนั้น (ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของวิทยาลัยต่อเรือพระนครศรีอยุธยา) ในคราวที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสต้นครั้งที่ 2 เมื่อปี 2449 พระองค์ได้เสด็จมาประทับที่พระตำหนักแห่งนี้
วังของพระองค์ ปัจจุบันคือ โรงเรียนเบญจมราชาลัย[4] โดยพระองค์ได้ทรงอุทิศให้รัฐบาลเพื่อเป็นพระบรมราชานุสรณ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนมรุพงศ์ศิริพัฒน์ ประชวรพระวักกะพิการมานาน อาการทรงและทรุดเรื่อยมาจนสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2466 เวลา 01:45 น. สิริพระชันษา 59 ปี 313 วัน เวลา 18:00 น. พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ มาพระราชทานน้ำสรงพระศพ เจ้าพนักงานตั้งพระลองบนแว่นฟ้า 2 ชั้น แล้วประกอบพระโกศกุดั่นน้อย ตั้งเครื่องยศ[5]มีพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2466 ณ พระเมรุ ท้องสนามหลวง[6]
การทรงงาน
พระองค์ทรงรับราชการดังนี้
- พ.ศ. 2430 รับพระราชทานพระยศนายพันโท[7]
- 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2430 ดำรงตำแหน่งองคมนตรีในรัชกาลที่ 5[8][9]
- วันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2432 รับพระราชทานพระยศนายพันเอก[10]
- วันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2434 ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเป็นราชองครักษ์[11] ทรงรับราชการในกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภราชองครักษ์
- พ.ศ. 2434 ทรงรับตำแหน่งอัครราชทูตประจำกรุงปารีส กรุงโรม กรุงมาดริด และกรุงลิสบอน[12]
- 24 กันยายน พ.ศ. 2434 ทรงเข้ากราบถวายบังคมลา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ได้รับพระราชทานหลั่งน้ำพระมหาสังข์และทรงเจิม[13]
- 27 กันยายน พ.ศ. 2434 เสด็จประทับเรือกลไฟใหญ่ออกจากกรุงเทพมหานคร[14] และเสด็จกลับถึงพระนคร[15] เมื่อ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2438
- 28 มกราคม พ.ศ. 2438 (ร.ศ. 114) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รับตำแหน่งรัฐมนตรี[16] (คือกรรมการกฤษฎีกาในปัจจุบัน) ทรงดำรงตำแหน่งจนถึง 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2446 (ร.ศ. 122)
- พ.ศ. 2440 ได้รับพระราชทานพระยศนายพลตรี
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงจัดระเบียบการปกครองแบบมณฑลเทศาภิบาล ภายใต้ดูแลของ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ได้รวมเอา 8 หัวเมือง คือ กรุงเก่า (พระนครศรีอยุธยา) อ่างทอง สระบุรี ลพบุรี อินทบุรี (ปัจจุบันคืออำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี) พรหมบุรี (ปัจจุบันคืออำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี) พระพุทธบาท (ปัจจุบันคืออำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี) และสิงห์บุรีเข้าเป็นมณฑลกรุงเก่า และตั้งที่ว่าการมณฑลที่มณฑลกรุงเก่า เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2438 (ร.ศ. 114) พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าวัฒนานุวงศ์ทรงดำรงตำแหน่งข้าหลวงเทศาภิบาลของมณฑลกรุงเก่าพระองค์แรก[17]
ต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นข้าหลวงเทศาภิบาลสำเร็จราชการมณฑลปราจีณบุรีแทนพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอลังการ ที่ลาออกจากตำแหน่ง[18]
นายพลตรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นมรุพงษ์ศิริพัฒน์ เป็นผู้สำเร็จราชการมณฑลกรุงเก่า และมณฑลปราจีณบุรีในคราวเดียวกัน จนเมือ พ.ศ. 2449 (ร.ศ. 125) พระองค์ได้ทรงขอพระราชทานพ้นจากตำแหน่งข้าหลวงเทศาภิบาลมณฑลกรุงเก่า[19] เพื่อปกครองมณฑลปราจีณบุรีแต่เพียงมณฑลเดียว[20][21] โดยทรงดำรงตำแหน่งถึงปี พ.ศ. 2458
พระโอรสและธิดา
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนมรุพงษ์ศิริพัฒน์ ทรงเป็นต้นราชสกุลวัฒนวงศ์ มีหม่อม 3 ท่าน ได้แก่
- หม่อมเชื้อสาย (สกุลเดิม: บุนนาค) ธิดาพระยาราชพงษานุรักษ์ (ชม บุนนาค)
- หม่อมนุ่ม (สกุลเดิม: บุนนาค)
- หม่อมชุ่ม
โดยมีพระโอรสพระธิดารวมทั้งหมด 7 พระองค์ ดังนี้
พระเกียรติยศ
พระอิสริยยศ
- พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าวัฒนานุวงศ์ (27 พฤษภาคม พ.ศ. 2406 - 1 ตุลาคม พ.ศ. 2411)
- พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าวัฒนานุวงศ์ (1 ตุลาคม พ.ศ. 2411 - 29 มีนาคม พ.ศ. 2438)
- พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นมรุพงษ์ศิริพัฒน์ (29 มีนาคม พ.ศ. 2438 - 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453)
- พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นมรุพงษ์ศิริพัฒน์ (23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 - 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2455)
- พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนมรุพงษ์ศิริพัฒน์ (11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2455 - 5 เมษายน พ.ศ. 2466)
ธรรมเนียมพระยศของ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนมรุพงษ์ศิริพัฒน์ |
---|
ธงประจำพระอิสริยยศ |
การทูล | ใต้ฝ่าพระบาท |
---|
การแทนตน | ข้าพระพุทธเจ้า |
---|
การขานรับ | พ่ะย่ะค่ะ/เพคะ |
---|
พระยศ
พระยศทหาร
- 27 เมษายน พ.ศ. 2432: นายพันเอก[10]
- 24 มกราคม พ.ศ. 2450: นายพลตรี[23]
พระยศพลเรือน
พระยศเสือป่า
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ
พงศาวลี
พงศาวลีของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนมรุพงษ์ศิริพัฒน์
|
|
อ้างอิง
- เชิงอรรถ
- ↑ "ประกาศกรมราชเลขานุการ เรื่อง พระราชทานนามสกุล สำหรับสืบเชื้อพระวงศ์ พระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น 4" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 32 (0 ง): 138. 18 เมษายน พ.ศ. 2458. สืบค้นเมื่อ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2561.
- ↑ "พระบรมราชโองการ ประกาศการสถาปนา พระเจ้าน้องยาเธอ พระวรวงษ์เธอ เปนต่างกรม แลสถาปนา หม่อมเจ้าเปนพระองคเจ้า แลเลื่อนตำแหน่งยศข้าราชการผู้ใหญ่" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 13 (1): 18. 5 เมษายน ร.ศ. 114. สืบค้นเมื่อ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2561.
- ↑ "พระบรมราชโองการ ประกาศ เลื่อนและตั้งกรมพระองค์เจ้า และเจ้าพระยา" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 29 (ก): 245–246. 13 พฤศจิกายน ร.ศ. 131. สืบค้นเมื่อ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2561.
- ↑ https://www.br.ac.th/home2017/index.php/2016-12-26-02-05-11/2016-12-28-06-22-01
- ↑ "ข่าวสิ้นพระชนม์" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 40 (ง): 78. 8 เมษายน 2466. สืบค้นเมื่อ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2561.
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา,การพระเมรุท้องสนามหลวง เล่ม 40, ตอน ง, 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2466, หน้า 4101
- ↑ พระราชทานสัญญาบัตร
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ข่าวตั้งปริวีเคาน์ซิลเลอร์, เล่ม 4, หน้า 45
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, สัญญาบัตรปริวีเคาน์ซิลเลอร์, เล่ม 4, หน้า 47-48
- ↑ 10.0 10.1 พระราชทานสัญญาบัตรพลเรือนและทหาร (หน้า 36)
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานสัญญาบัตร, เล่ม 8, ตอน 24, 13 กันยายน พ.ศ. 2434, หน้า 220
- ↑ ราชทูตสยาม
- ↑ ราชทูตวิเศษ ผู้ช่วยทูต นักเรียนถวายบังคมลา
- ↑ ราชทูตวิเศษ ผู้ช่วยทูต นักเรียนถวายบังคมลา (หน้า 237)
- ↑ ข่าวพระเจ้าน้องยาเธอพระองค์เจ้าวัฒนานุวงษ์ เสด็จกลับจากประเทศยุโรป
- ↑ "การรับตำแหน่งรัฐมนตรี" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 12 (44): 431. 2 กุมภาพันธ์ ร.ศ. 114. สืบค้นเมื่อ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2561.
- ↑ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2443/030/394_1.PDF
- ↑ "แจ้งความกระทรวงมหาดไทย เรื่อง พระวรวงษ์เธอ พระองค์เจ้าอลังการ ขอลาออกจากตำแหน่งข้าหลวงเทศาภิบาล มณฑลปราจีนบุรี ให้พระเจ้าน้องยาเธอ กรมมหมื่นมรุพงษ์ศิริพัฒน์ สำเร็จราชการมณฑลปราจีนบุรี ให้พระยาโบราณบุรานุรักษ์ รั้งตำแหน่งข้าหลวงเทศาภิบาลมณฑลกรุงเก่า" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 20 (36): 629. 6 ธันวาคม ร.ศ. 122. สืบค้นเมื่อ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2561.
- ↑ https://www.br.ac.th/home2017/index.php/2016-12-26-02-05-11/2016-12-29-03-52-19
- ↑ "แจ้งความกระทรวงมหาดไทย [เรื่อง พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นมรุพงษ์ขอพระราชทานพ้นจากข้าหลวงเทศาภิบาลสำเร็จราชการมณฑลกรุงเก่า และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้พระยาโบราณบุรานุรักษ์เป็นข้าหลวงเทศาภิบาลมณฑลกรุงเก่า]" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 23 (9): 183. 3 มิถุนายน ร.ศ. 125. สืบค้นเมื่อ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2561.
- ↑ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2457/D/2218.PDF
- ↑ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2453/D/2273_1.PDF
- ↑ พระราชทานสัญญาบัตรทหารบก
- ↑ ประกาศพระบรมราชโองการ ประกาศพระราชทานยศ แก่ข้าราชการกระทรวงมหาดไทย
- ↑ พระราชทานสัญญาบัตรกองเสือป่า
- ↑ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2455/D/2216.PDF
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม 8, ตอน 52, 27 มีนาคม พ.ศ. 2434, หน้า 469
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ วันที่ 5 ธันวาคม รัตนโกสินทร์ ศก 131, เล่ม 29, ตอน 0 ง, 29 ธันวาคม พ.ศ. 2455, หน้า 2207
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, รายพระนามและนามผู้ที่จะได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ในงานพระราชพิธีฉัตรมงคล, เล่ม 29, ตอน 0 ง, 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2455, หน้า 1829
- ↑ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2455/D/1900.PDF
- ↑ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2450/044/1194.PDF
- ↑ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2436/037/403.PDF
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 4 เก็บถาวร 2016-03-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม 21, ตอน 32, 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2447, หน้า 564
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเหรียญดุษฎีมาลา เก็บถาวร 2018-02-10 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม 17, ตอน 30, 21 ตุลาคม พ.ศ. 2443, หน้า 396
- ↑ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2451/035/1012.PDF
- ↑ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2441/026/283.PDF
- ↑ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2451/029/829_1.PDF
- ↑ "พระราชทานพระบรมราชานุญาตเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 7 (ตอน 36): หน้า 315. 7 ธันวาคม2432. สืบค้นเมื่อ 23 มิถุนายน 2562.
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานพระบรมราชานุญาตเครื่องราชอิสริยาภรณ์เฮนรีดีไลออนกรุงบรันสวิก, เล่ม ๒๗ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๔๕, ๑๐ เมษายน ๑๒๙
- บรรณานุกรม
- สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร. ราชสกุลวงศ์. พิมพ์ครั้งที่ 14, กรุงเทพฯ : สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร, 2554. 296 หน้า. หน้า 74. ISBN 978-974-417-594-6
แหล่งข้อมูลอื่น
- Jeffy Finestone. 2542. สมุดพระรูป พระราชโอรส พระราชธิดา พระราชนัดดาใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว. ปรียนันทนา รังสิต,ม.ร.ว. โลมาโฮลดิ้ง
|
---|
สมเด็จพระ / กรมสมเด็จพระ | | |
---|
กรมพระยา | |
---|
กรมพระ | |
---|
กรมหลวง | |
---|
กรมขุน | |
---|
กรมหมื่น | |
---|
- = สืบราชสมบัติ
- = สยามมกุฎราชกุมาร
- * = กรมพระราชวังบวร
- ตัวเอียง = ฝ่ายใน
- ตัวหนา = ยังทรงพระชนม์
- † = หลังสิ้นพระชนม์
- X = ถอดจากฐานันดรศักดิ์
|
|
|
---|
รัชกาลที่ 1 | | |
---|
รัชกาลที่ 2 | |
---|
รัชกาลที่ 3 | |
---|
รัชกาลที่ 4 | |
---|
รัชกาลที่ 5 | |
---|
รัชกาลที่ 6 | ไม่มีพระราชโอรส |
---|
รัชกาลที่ 7 | ไม่มีพระราชโอรส-ธิดา |
---|
รัชกาลที่ 8 | ไม่มีพระราชโอรส-ธิดา |
---|
รัชกาลที่ 9 | |
---|
รัชกาลที่ 10 | |
---|
()* สืบราชสมบัติ** กรมพระราชวังบวรสถานมงคล()^ สยามมกุฎราชกุมารX ถูกถอดจากฐานันดรศักดิ์ |