ชลน่าน ศรีแก้ว
นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว (เกิด 4 มิถุนายน พ.ศ. 2504) ชื่อเล่น ไหล่ เป็นแพทย์และนักการเมืองชาวไทย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดน่าน เขต 2 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อดีตผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประวัติชลน่านเกิดเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2504 ที่ตำบลไหล่น่าน อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน เป็นบุตรของนายใจ และนางหมาย ศรีแก้ว สำเร็จการศึกษาแพทย์ศาสตรบัณฑิต จากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อปีการศึกษา พ.ศ. 2529 (ร่วมรุ่นกับ นายแพทย์ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ และ นายแพทย์บัญญัติ เจตนจันทร์) และปริญญาโทรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต (MPA) จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ในปี พ.ศ. 2542 ชลน่านใช้ชีวิตคู่ร่วมกับแพทย์หญิงนวลสกุล บำรุงพงษ์ โดยมิได้จดทะเบียนสมรส มีบุตรธิดา 2 คน[2][3] การทำงานนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว เป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลเวียงสา อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน และเคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว อำเภอปัว จังหวัดน่าน ระว่างปี พ.ศ. 2538–2543 ต่อมาได้เข้ามาทำงานการเมือง เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดน่าน สังกัดพรรคไทยรักไทย ในปี พ.ศ. 2547 ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และปี พ.ศ. 2548 เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยมี ศาสตราจารย์ นายแพทย์ สุชัย เจริญรัตนกุล เป็นรัฐมนตรีว่าการสาธารณสุข ในรัฐบาล พ.ต.ท ทักษิณ ชินวัตร และเป็นกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) นอกจากนั้นแล้ว เขายังได้รับแต่งตั้งเป็นรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ในระยะหนึ่งอีกด้วย ปลายปี พ.ศ. 2552 สื่อมวลชนประจำรัฐสภา ได้ตั้งฉายานักการเมือง โดยให้ฉายานายแพทย์ชลน่านเป็น "ดาวสภาฯ" ด้วยบทบาทการอภิปรายโดยมุ่งเน้นข้อมูลมากกว่าการใช้วาทะศิลป์[4] ชลน่านได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร[5] (ครม.ยิ่งลักษณ์ 3) เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2555 กระทั่งได้รับโปรดเกล้าฯ ให้พ้นจากความเป็นรัฐมนตรีในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2556[6] ต่อมาเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2564 เขาได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ต่อจากสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ และเนื่องจากในขณะนั้นพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคฝ่ายค้านที่มีจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมากที่สุดในขณะนั้น จึงทำให้เขาเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรไปโดยปริยาย โดยมีพระบรมราชโองการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2564[7] หลังการเลือกตั้งใหญ่ในปี พ.ศ. 2566 ชลน่านเป็นผู้เสนอชื่อพิธา ลิ้มเจริญรัตน์[8] และเศรษฐา ทวีสิน[9] ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภาเพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม และ 22 สิงหาคม ตามลำดับ โดยพิธาได้รับเสียงเห็นชอบไม่ถึงเกณฑ์ที่รัฐธรรมนูญกำหนด และมติรัฐสภาในสัปดาห์ถัดมา ห้ามการเสนอชื่อพิธาซ้ำ[10][11] ส่วนเศรษฐาได้รับเสียงเห็นชอบเกินเกณฑ์ที่กำหนด และได้เป็นนายกรัฐมนตรี[12] ทั้งนี้ ก่อนหน้าการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งที่สาม พรรคเพื่อไทยถูกวิจารณ์อย่างหนักหลังจากนำพรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคพลังประชารัฐเข้าร่วมรัฐบาล ทำให้สังคมทวงถามสัญญาที่ชลน่านให้ไว้ก่อนการเลือกตั้งว่าหากพรรคเพื่อไทยนำทั้ง 2 พรรคเข้าร่วมรัฐบาล ตนจะลาออกจากหัวหน้าพรรค ส่งผลให้แฮชแท็ก #ชลน่านลาออกกี่โมง ติดอันดับในทวิตเตอร์[13] ต่อมาชลน่านได้กล่าวว่าตนจะลาออกจากหัวหน้าพรรคเพื่อไทยหลังการจัดตั้งรัฐบาลเสร็จสิ้น[14] ในที่สุด เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2566 เวลา 16.00 น. ชลน่านได้แถลงข่าวลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค ณ ที่ทำการพรรค ส่งผลให้คณะกรรมการบริหารพรรคที่เหลืออยู่ต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคชุดรักษาการ ได้มีมติเลือกรองศาสตราจารย์ ชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค ทำหน้าที่รักษาการหัวหน้าพรรค และเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ภายใน 60 วันคือภายในวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2566[15] ต่อมาในวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2566 เขาได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในช่วงเวลาที่ดำรงตำแหน่งเขาได้ขับเคลื่อนโครงการตามนโยบายของรัฐบาลหลายอย่าง เช่น โครงการสามสิมบาทรักษาทุกที่ ซึ่งเป็นการต่อยอดจากโครงการสามสิบบาทรักษาทุกโรค เป็นต้น แต่ต่อมาในวันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2567 ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2544 สังกัดพรรคไทยรักไทย และได้รับเลือกตั้งมาอีก 5 สมัยต่อกันเป็นลำดับ คือ
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|