เทศบาลเมืองแม่เหียะ
เทศบาลเมืองแม่เหียะ เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับเทศบาลเมืองภายในอำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลแม่เหียะทั้งตำบล แม่เหียะเป็นที่ตั้งของแปลงวิจัยเกษตรกับอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และเป็นที่ตั้งของอุทยานหลวงราชพฤกษ์ กับเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ตลอดจนวัดพระธาตุดอยคำ ทั้งหมดถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ ตำบลแม่เหียะใช้เวลาเพียงสิบหกปีสามารถพัฒนาจากองค์การบริหารส่วนตำบลขึ้นเป็นเทศบาลเมือง เมืองแม่เหียะสามารถผลักดันตนเองจนกลายเป็นเมืองอัจฉริยะ ซึ่งมีการนำ เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาประยุกต์ใช้ในงานราชการส่วนท้องถิ่นและงานบริการประชาชนได้ก้าวหน้าที่สุดในไทย รัฐบาลกำหนดให้เมืองแม่เหียะเป็นต้นแบบท้องถิ่นดิจิทัลแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศตั้งแต่ปี 2565 ประวัติเทศบาลเมืองแม่เหียะ เดิมเป็นสภาตำบล[2] มีฐานะเป็นส่วนหนึ่งของส่วนราชการภูมิภาค ต่อมาในปี พ.ศ. 2538 สภาตำบลแม่เหียะได้รับสถานะเป็นนิติบุคคลและเป็นส่วนราชการท้องถิ่น[3] ต่อมาในปี พ.ศ. 2543 ได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นองค์การบริการส่วนตำบลจนถึง พ.ศ. 2550 จึงได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นเทศบาลตำบล ปี พ.ศ. 2554 จากการที่เทศบาลตำบลแม่เหียะ เป็นตำบลที่มีการพัฒนาและมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว สภาเทศบาลตำบลแม่เหียะจึงได้มีมติให้ส่งเรื่องยกฐานะเป็นเทศบาลเมืองไปยังรัฐสภา ในวันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2554 เทศบาลตำบลแม่เหียะจึงได้รับการยกฐานะขึ้นเป็น เทศบาลเมือง[4] ภูมิศาสตร์ลักษณะภูมิประเทศ เป็นที่ลาดเชิงเขา ที่เนิน สลับกับพื้นที่ค่อนข้างราบ มีเทือกเขาดอยสุเทพผ่านทางด้านทิศตะวันตกของตำบล ความสูงจากระดับน้ำทะเลเฉลี่ย 300 เมตร โดยพื้นที่ลาดจะลาดจากทิศเหนือไปทิศใต้และจากทิศตะวันตกไปทิศตะวันออก[5] แหล่งน้ำที่สำคัญคือ ลำห้วยแม่เหียะและคลองชลประทาน ตำบลแม่เหียะมีอาณาเขตติดต่อ 5 ตำบลใน 2 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่[5]
ตราสัญลักษณ์ตราประจำเทศบาล[6] เป็นรูปวงกลม ขอบบนวงกลมใหญ่มีอักษร "เทศบาลเมืองแม่เหียะ" และขอบล่างมีอักษร "จังหวัดเชียงใหม่" ในตราสัญลักษณ์ประกอบด้วย
เขตการปกครองตำบลแม่เหียะแบ่งออกเป็น 10 หมู่[7] 12 หมู่บ้าน ได้แก่
ประชากรและสังคม
ตำบลแม่เหียะมีประชากรทั้งหมด 19,707 คน แบ่งเป็น ชาย 8,896 คน หญิง 10,811 คน ข้อมูลเมื่อสิ้นปี พ.ศ. 2564[1] ตำบลแม่เหียะเป็นตำบลแถบชานของเวียงเชียงใหม่ ในอดีตประชาชนดั้งเดิมในพื้นที่มีส่วนใหญ่มีฐานะยากจนทำเกษตรกรรมและหาของป่าเป็นหลัก เนื่องด้วยการเกิดขึ้นของทางหลวงสองสายที่เชื่อมกับตัวเมือง ได้แก่ ทางหลวงเชียงใหม่–ฮอด (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108) และถนนเลียบคลองชลประทาน (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 121) ทำให้ความเจริญเริ่มเข้ามา ประชาชนในพื้นที่สามารถเดินทางไป-กลับจากตัวเมืองได้สะดวกมากขึ้น เริ่มมีโครงการบ้านจัดสรรเข้ามาในพื้นที่ จากการที่ตำบลด้านหลังติดภูเขา มีคลองชลประทานและลำห้วยแม่เหียะไหลผ่าน ทำให้มีสภาพแวดล้อมและธรรมชาติที่สวยงาม นี่เองทำให้ตั้งแต่ พ.ศ. 2527 เริ่มมีชาวตะวันตกเริ่มเข้ามาอาศัยในตำบลแม่เหียะ ความเจริญของแม่เหียะก้าวกระโดดขึ้นอย่างจากการเกิดขึ้นของสามโครงการใหญ่ อย่าง ถนนสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี, อุทยานหลวงราชพฤกษ์ และเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี สามโครงการนี้ทำให้แม่เหียะกลายเป็นตำบลแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ มีการเข้ามาของห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ โครงการบ้านจัดสรรตลอดจน ร้านอาหารมากมาย สิ่งเหล่านี้ผลักดันให้แม่เหียะเป็นหนึ่งในตำบลที่เติบโตอย่างรวดเร็วของประเทศไทย ใช้เวลาเพียง 16 ปีก็สามารถยกฐานะจากองค์การบริหารส่วนตำบล ขึ้นเป็นเทศบาลเมือง ในขณะที่จำนวนชาวต่างชาติที่พำนักในแม่เหียะก็มากขึ้นตามลำดับ การคลัง
การขนส่งตำบลแม่เหียะมีถนนสายหลัก 3 สาย ได้แก่
สถานที่สำคัญ
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|