ถวิล ไพรสณฑ์
ถวิล ไพรสณฑ์ (เกิด 8 สิงหาคม พ.ศ. 2480) เป็นอดีตที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล[1] อดีตรัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัย ในรัฐบาลชวน หลีกภัย อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 8 สมัย (กรุงเทพมหานคร จังหวัดนครศรีธรรมราช และแบบบัญชีรายชื่อ) และเป็นอดีตมือกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์[2] ประวัติถวิล ไพรสณฑ์ เกิดเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2480 ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช[3] ในครอบครัวชาวสวนชาวนา เข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนบ้านนาวา ต่อมาจึงได้เข้ามาศึกษาต่อที่โรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร กรุงเทพมหานคร และเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และปริญญาเดียวกัน ที่มหาวิทยาลัยซีราคิวส์ สหรัฐ การทำงานถวิล ไพรสณฑ์ เข้ารับราชการเป็นปลัดเทศบาลตำบลสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ต่อมาจึงได้ย้ายเข้ามาเป็นเลขานุการนายกเทศมนตรีกรุงเทพมหานคร และได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าเขตพระนคร เขตบางขุนเทียน และเป็นผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน กรุงเทพมหานคร จากนั้นในปี พ.ศ. 2526 ถวิล ไพรสณฑ์ จึงได้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครศรีธรรมราช เขต 2 สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมัยแรก และ สมัยที่สอง ปี 2529 พรรคประชาธิปัตย์ จากนั้นเขาจึงย้ายมาร่วมตั้งพรรคการเมืองกับกลุ่มของนายเฉลิมพันธ์ ศรีวิกรม์ คือ พรรคประชาชน[4] ในปี 2531 และยุบพรรคไปรวมกับพรรคเอกภาพ ในปี 2532 ต่อมาถวิลจึงได้ย้ายมาลงสมัครในกรุงเทพมหานคร เขต 9 ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2535 สังกัดพรรคพลังธรรม และได้รับการเลือกตั้งอย่างต่อเนื่องเรื่อยมา ทั้งยังได้รับตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ในปี พ.ศ. 2535[5] และตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัย ในปี พ.ศ. 2538[6] ด้วย จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2539 จึงได้ย้ายกลับไปสังกัดพรรคประชาธิปัตย์เช่นเดิมอีกครั้ง ต่อมาในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2554 ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ[7] และได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.อีกสมัย ในปี 2562 เขาได้ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ในลำดับที่ 39[8] แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง ต่อมาในปี พ.ศ. 2565 นายถวิล ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ได้ย้ายไปร่วมงานการเมืองกับพรรคก้าวไกล โดยให้เหตุผลว่ามีอุดมการณ์เรื่องการกระจายอำนาจท้องถิ่นที่ตรงกัน และไม่ขอรับตำแหน่งทางการเมืองใด ๆ[9] สภาผู้แทนราษฎรถวิล ไพรสณฑ์ เคยได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาแล้ว 8 สมัย คือ
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|