Share to:

 

มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ

มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
Huachiew Chalermprakiet University
ชื่อย่อม.ฉ.ก. / HCU
คติพจน์เรียนรู้เพื่อรับใช้สังคม
ประเภทสถาบันอุดมศึกษาเอกชนไม่แสวงหากำไร
สถาปนา17 ธันวาคม พ.ศ. 2524 (43 ปี)
นายกสภาฯศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.เกษม สุวรรณกุล
อธิการบดีรองศาสตราจารย์ ดร.อุไรพรรณ เจนวาณิชยานนท์
ผู้ศึกษา6,458 คน (2566)[1]
ที่ตั้ง
ศูนย์บางพลี
ถนนเทพรัตน ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 10540
วิทยาเขตยศเส
120 ถนนอนันตนาค แขวงป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร 10100
เพลงแสงทอง
ต้นไม้ต้นโพธิ์
สี สีเหลืองทอง
มาสคอต
ประตูเสด็จ / ประติมากรรมพระบรมโพธิสมภาร
เว็บไซต์www.hcu.ac.th

มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2524[2] โดยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลจีนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยชื่อของมหาวิทยาลัย "หัวเฉียว" (จีน: 華僑) หมายถึงชาวจีนโพ้นทะเล และเป็นชื่อที่มูลนิธิใช้เป็นชื่อของโรงพยาบาลและวิทยาลัยของมูลนิธิอยู่แล้ว

มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ มีวิทยาเขต 1 แห่ง คือ วิทยาเขตยศเส ตั้งอยู่บริเวณถนนอนันตนาค แขวงป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2535[3]

ประวัติ

มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติก่อกำเนิดมาจาก วิทยาลัยหัวเฉียว ซึ่งมีรากฐานเติมโตมาจากโรงเรียนผดุงครรภ์อนามัย ก่อตั้งโดยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่ก่อเกิดขึ้นจากพลังศรัทธาในคุณธรรมแห่งไต้ฮงภิกขุ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิ โดยมีภารกิจในการบำเพ็ญทาน การสร้างสถานพยาบาลและบรรเทาสาธารณภัยเพื่อมวลชน รวมถึงการทำงานด้านการศึกษา โดยเปิดสอนหลักสูตรพยาบาลในระดับปริญญาตรีเป็นหลักสูตรแรก

ต่อมาในปี พ.ศ. 2533 ในวาระที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งมีวาระครบรอบ 80 ปี จึงได้ระดมทุนจากชาวไทยเชื่อสายจีนเพื่อใช้ในการก่อสร้าง เมื่อได้รับการอนุมัติจากทบวงมหาวิทยาลัยให้ยกสถานะเป็นมหาวิทยาลัย จึงเริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2535 โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ทั้งยังได้เสด็จพระราชดำเนินมาเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดมหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2537 และถือเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งเดียวในประเทศไทยที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเป็นประธานในพิธีเปิดมหาวิทยาลัยให้ เนื่องจากพระองค์ทรงเป็นประธานในพิธีเปิดมหาวิทยาลัยให้กับของรัฐบาลเท่านั้น ซึ่งไม่เคยเป็นประธานเปิดมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งใดเลย จึงเป็นผลนำมาซึ่งความปลาบปลื้มและนับเป็นสิริมงคลอันใหญ่หลวงแก่ชาวมหาวิทยาลัย และชาวจีนโพ้นทะเลในไทยที่ได้ร่วมมือกันก่อตั้งสถาบันการศึกษานี้

ตั้งแต่นั้นมา มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติได้ทำหน้าที่ในฐานะสถาบันอุดมศึกษา ในการผลิตบัณฑิตออกไปรับใช้สังคมและประเทศชาติ โดยยึดกระแสพระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงดำรัสไว้ครั้งเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดมหาวิทยาลัยว่า "ขอให้ทำมหาวิทยาลัยแห่งนี้ให้ดี" เป็นกระแสพระราชดำรัสที่ยังความปลาบปลื้มแก่คณะผู้ก่อตั้ง คณะผู้บริหาร คณาจารย์ และบุคลากรของมหาวิทยาลัย เป็นล้นพ้น และก่อให้เกิดความมุ่งมั่นที่จะพัฒนามหาวิทยาลัยแห่งนี้ให้บรรลุผลสำเร็จตามปณิธานที่ตั้งไว้ นั่นคือ "การกระจายโอกาส และสร้างความเสมอภาคในระดับอุดมศึกษา ส่งเสริมวัฒนธรรมอันดีงามตามพื้นฐานพระพุทธศาสนา และบูชาคุณธรรมบรรพชน เพื่อสร้างบัณฑิตที่รู้รอบ รู้ลึก และมีความชำนาญงาน โดยเน้นความเป็นเลิศทางวิชาการ เพื่อสร้างบัณฑิตผู้รู้จริง ปฏิบัติงานได้จริง ควบคู่กับการมีคุณธรรม พร้อมที่จะถ่ายทอดวิชา และอุทิศตนเพื่อรับใช้สังคมอย่างเต็มภาคภูมิ" เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามวิสัยทัศน์ที่วางไว้ นั่นคือ "มุ่งหวังให้เป็นมหาวิทยาลัยปวงชนที่มีมาตรฐานสากล ทันสมัย มีความพร้อมสำหรับการแข่งขัน และพึ่งตนเองได้"

สัญลักษณ์

  • ตัวอักษรกลางรูปวงกลม นำมาจากสัญลักษณ์ของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง คือ 善 อ่านว่า ซ่าน (shàn) ในภาษาจีนกลางหรือ เสียง ในภาษาแต้จิ๋ว หมายถึง "คุณงามความดี บริสุทธิคุณ การกระทำความดี"
  • ส่วนวงกลมชั้นนอก มีอักษรไทย/จีน/อังกฤษ บอกชื่อ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ภาษาจีนเขียนว่า 華僑崇聖大學 อ่านว่า หัวเฉียวฉงเซิ่งต้าเสฺว (huáqiáo chóngshèng dàxué) ในภาษาจีนกลาง หรือ ฮั่วเคี้ยวฉ่งเสี่ยไต่ฮัก ในภาษาแต้จิ๋ว โดยคำว่า 華僑 หมายถึงชาวจีนโพ้นทะเล 崇聖 หมายถึงเฉลิมพระเกียรติ และ 大學 หมายถึงมหาวิทยาลัย โดยรวมจึงหมายถึง มหาวิทยาลัยที่ลูกหลานชาวจีนโพ้นทะเลสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ

หลักสูตร

“มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ” เปิดสอนระดับปริญญาตรี ภาคปกติ ปริญญาต่อเนื่อง 2 ปี ทั้งภาคปกติและภาคสมทบ (เรียนเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์) หลักสูตรนานาชาติ (International Program) เพื่อเพิ่มทักษะภาษาต่างประเทศ เพื่อใช้ในการประกอบอาชีพ และเพื่อเตรียมพร้อมเข้าศึกษาต่อต่างประเทศในระดับสูง พร้อมกับเปิดโอกาสให้นักศึกษาต่างชาติได้เข้ามาศึกษาในสาขาวิชาต่าง ๆ ควบคู่ไปกับวัฒนธรรมไทย และระดับบัณฑิตศึกษา เพื่อผลิตนักบริหารมืออาชีพสู่ภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม และผู้นำทางสังคมในภาครัฐและเอกชน ภายใต้การจัดการเรียนการสอนของคณะต่าง ๆ รวม 14 คณะวิชา ได้แก่

  • คณะพยาบาลศาสตร์ (เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งแรกที่เปิดสอนหลักสูตรพยาบาล ในระดับปริญญาตรี)
  • คณะสังคมสงเคราะห์และสวัสดิการสังคม (เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งแรกและแห่งที่สองของประเทศไทยที่เปิดสอนหลักสูตรสังคมสงเคราะห์)
  • คณะศิลปศาสตร์
  • คณะบริหารธุรกิจ
  • คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
  • คณะสาธารณสุขศาสตร์และสิ่งแวดล้อม(เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งแรกที่เปิดสอนหลักสูตรสาธารณสุขศาสตร์)
  • คณะนิเทศศาสตร์
  • คณะเภสัชศาสตร์
  • คณะเทคนิคการแพทย์
  • คณะกายภาพบำบัด
  • คณะการแพทย์แผนจีน (เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งแรกที่เปิดสอนหลักสูตรแพทย์แผนจีน)
  • คณะนิติศาสตร์
  • วิทยาลัยจีนศึกษา
  • โครงการจัดตั้งคณะแพทยศาสตร์
  • โครงการจัดตั้งคณะสัตวแพทยศาสตร์
  • โครงการจัดตั้งคณะทันตแพทยศาสตร์
  • บัณฑิตวิทยาลัย

รวม 33 สาขาวิชา ครอบคลุมทั้งด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ ด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ เปิดสอนสาขาดังนี้

  • สาขาพยาบาลศาสตร์
  • สาขาการแพทย์แผนจีน
  • สาขาเภสัชศาสตร์
  • สาขาเทคนิคการแพทย์
  • สาขากายภาพบำบัด
  • สาขาวิชาอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
  • สาขาอนามัยสิ่งแวดล้อม
  • สาขาการจัดการโรงพยาบาล

ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

  • วิทยาการคอมพิวเตอร์
  • วิทยาศาสตร์การแพทย์

ด้านมนุษยศาสตร์

  • ภาษาจีน
  • ภาษาอังกฤษ
  • ภาษาและวัฒนธรรมไทย
  • ภาษาไทยเพื่อการสื่อสารสำหรับชาวต่างประเทศ
  • หลักสูตรเอกคู่ (Double-Major) ภาษาอังกฤษ-จีน และภาษาอังกฤษ-ภาษาไทย

ด้านสังคมศาสตร์

  • สังคมสงเคราะห์ศาสตร์
  • บริหารธุรกิจ (บัญชี การจัดการ การตลาด การเงิน ธุรกิจระหว่างประเทศ คอมพิวเตอร์ธุรกิจ เศรษฐศาสตร์ธุรกิจ การจัดการอุตสาหกรรม)
  • นิติศาสตร์
  • นิเทศศาสตร์ (วิทยุและโทรทัศน์ การออกแบบนิเทศศิลป์ ประชาสัมพันธ์ โฆษณาและการสื่อสารการตลาด ศิลปะการแสดง สื่อมัลติมีเดียและสื่อใหม่)
  • การท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมบริการเพื่อการท่องเที่ยว
  • สาขาการโรงแรม

สำหรับปริญญาโท การจัดการหลักสูตรเน้นที่คุณภาพมากกว่าปริมาณ โดยเลือกหลักสูตรที่เป็นจุดแข็งของมหาวิทยาลัย ทั้งด้านประสบการณ์และความพร้อม ได้แก่

  • พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลเวชปฏิบัติชุมชน
  • วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการจัดการระบบสุขภาพ
  • สังคมสงเคราะห์ศาสตรมหาบัณฑิต สาขาบูรณาการนโยบายสวัสดิการสังคม
  • บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (MBA.)
  • การจัดการมหาบัณฑิต สาขาการจัดการอุตสาหกรรม
  • เภสัชศาสตรมหาบัณฑิต
  • วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเครื่องสำอาง
  • ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวรรณคดีสมัยใหม่และร่วมสมัย (สอนเป็นภาษาจีน) ร่วมกับมหาวิทยาลัยหัวเฉียว (จีน)

คณะ

สถาบัน/ศูนย์และหน่วยงานในมหาวิทยาลัย

ชมรมต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัย

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

13°36′46″N 100°45′29″E / 13.612757°N 100.758124°E / 13.612757; 100.758124

Kembali kehalaman sebelumnya