มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคามRajabhat Maha Sarakham University |
ตราพระราชลัญจกร สัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัย |
ชื่อเดิม | สถาบันราชภัฏมหาสารคาม |
---|
ชื่อย่อ | มรม. / RMU |
---|
คติพจน์ | วิชาการเป็นเลิศ ประเสริฐคุณธรรม นำชุมชนพัฒนา |
---|
ประเภท | สถาบันอุดมศึกษาของรัฐ |
---|
สถาปนา | 15 มิถุนายน พ.ศ. 2547; 20 ปีก่อน (2547-06-15) |
---|
สังกัดการศึกษา | กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม |
---|
สังกัดวิชาการ | คณะวิชา |
---|
งบประมาณ | 486,252,400 บาท (พ.ศ. 2568)[1] |
---|
นายกสภาฯ | รองศาสตราจารย์ สุวกิจ ศรีปัดถา (ทำหน้าที่แทน) |
---|
อธิการบดี | ผู้ช่วยศาสตราจารย์ เนตรชนก จันทร์สว่าง (รักษาการแทน) |
---|
อาจารย์ | 588 คน (พ.ศ. 2567)[2] |
---|
บุคลากรทั้งหมด | 966 คน (พ.ศ. 2567)[2] |
---|
ผู้ศึกษา | 12,149 คน (พ.ศ. 2562)[3] |
---|
ที่ตั้ง | |
---|
วิทยาเขต | ศูนย์หนองคาย |
---|
เพลง | มาร์ชราชภัฏมหาสารคาม |
---|
ต้นไม้ | ต้นจาน (ทองกวาว) |
---|
สี | ██ สีเขียว ██ สีแดง |
---|
เว็บไซต์ | เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย |
---|
มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม (อังกฤษ: Rajabhat Maha Sarakham University, อักษรย่อ: มรม. – RMU) เป็นสถาบันอุดมศึกษาของรัฐในจังหวัดมหาสารคาม พัฒนามาจากวิทยาลัยครูมหาสารคามที่ได้รับการสถาปนาในปี พ.ศ. 2505 และสถาบันราชภัฏมหาสารคามในปีพ.ศ. 2535 ตัวมหาวิทยาลัยตั้งอยู่ในตัวเมืองมหาสารคาม ใกล้กับมหาวิทยาลัยมหาสารคาม พื้นที่ในเมืองและมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตมหาสารคาม[4]
ประวัติ
มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม มีพื้นที่ 454 ไร่ มีอาคาร 57 หลัง และมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคามศูนย์หนองโน ตั้งอยู่ที่บ้านหนองโน หมู่ 1 , หมู่ 5
และบ้านกุดแคน หมู่ 6 ตำบลหนองโน (โคกก่อ) อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม มีพื้นที่ 1,050 ไร่ 3 งาน 32 ตารางวา เป็นที่ตั้งของคณะเทคโนโลยีการเกษตร และโครงการเกษตรทฤษฏีใหม่ตามแนวพระราชดำริ
- พ.ศ. 2468 ตั้งเป็น “โรงเรียนประถมกสิกรรม” ขึ้นที่บริเวณวิทยาลัยเทคนิคมหาสารคามในปัจจุบัน
- พ.ศ. 2470 ได้ย้ายไปตั้งที่โคกอีด่อย อยู่ห่างจากตัวเมืองมหาสารคามไปทางทิศตะวันตกประมาณ 4 กิโลเมตร ซึ่งเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคามในปัจจุบัน
- พ.ศ. 2473 เปลี่ยนฐานะเป็นโรงเรียนประถมวิสามัญและฝึกหัดครูกสิกรรมชั้นต่ำ
- พ.ศ. 2474 ได้ยุบเลิกแผนแผนกฝึกหัดครูกสิกรรมชั้นต่ำเหลืออยู่เฉพาะโรงเรียนประถมวิสามัญ
- พ.ศ. 2481 ยกฐานะเป็นโรงเรียนประกาศนียบัตรจังหวัด
- พ.ศ. 2498 เปลี่ยนฐานะเป็นโรงเรียนฝึกหัดครู
- พ.ศ. 2505 (1 พฤษภาคม) ได้ยกฐานะเป็นวิทยาลัยครูมหาสารคาม
- พ.ศ. 2519 จัดระบบงานใหม่ตามพระราชบัญญัติวิทยาลัยครู และ พ.ศ. 2518 มีผลให้วิทยาลัยครูมหาสารคามเป็นสถาบันอุดมศึกษา
- ต่อมาในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2535 วิทยาลัยครูทุกแห่งได้รับพระราชทานนามว่า “สถาบันราชภัฏ” แปลว่า “คนของพระราชา” ใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า “ Rajabhat Institute” และต่อท้ายด้วยชื่อเดิมหรือชื่อจังหวัด ทำให้ในวันที่ 25 มกราคม 2538 จึงได้มีการยกฐานะเป็นสถาบันราชภัฏมหาสารคาม และดำเนินงานตามพระราชบัญญติสถาบันราชภัฏ พ.ศ. 2538[5] และวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2538 พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าพระราชทานพระราชลัญจกรประจำพระองค์ ให้เป็นตราสัญลักษณ์ประจำสถาบันราชภัฏจึงเกิดเป็น “สถาบันราชภัฏมหาสารคาม” และวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2538 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าพระราชทานพระราชลัญจกรประจำพระองค์ ให้เป็นตราสัญลักษณ์ประจำสถาบันราชภัฏ
- ต่อมา พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. 2547[6] ซึ่งส่งผลให้สถาบันราชภัฏมหาสารคามเปลี่ยน สถานะเป็น “มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม” [7]
- พ.ศ. 2561 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้ง รองศาสตราจารย์ ดร.นิรุต ถึงนาค เป็นอธิการบดี ตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2561[8]
คณะ
ปัจจุบันมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม เปิดสอนในระดับอนุบาล อนุปริญญา ปริญญาตรี ประกาศนียบัตรบัณฑิต ปริญญาโท และปริญญาเอก มีทั้งหลักสูตรทั่วไปและหลักสูตรภาคสมทบ ประกอบด้วยคณะทั้งหมด 9 คณะ 1 บัณฑิตวิทยาลัย และ 1 โรงเรียน ได้แก่
- 1.คณะครุศาสตร์
- 2.คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
- 3.คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
- 4.คณะวิทยาการจัดการ
- 5.คณะเทคโนโลยีการเกษตร
- 6.คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ
- 7.คณะนิติศาสตร์
- 8.คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์
- 9.คณะวิศวกรรมศาสตร์)
โดยแยกออกเป็น 2 กลุ่มวิชาดังนี้
กลุ่มวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
- คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
- วท.บ.สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์
- วท.บ.สาขาวิชาเคมี
- วท.บ.สาขาวิชาฟิสิกส์และฟิสิกส์ประยุกต์
- วท.บ.สาขาวิชาชีววิทยา
- วท.บ.สาขาคณิตศาสตร์
- วท.บ.สาขาวิชาเทคโนโลยีชีวภาพ
- วท.บ.สาขาวิชาสถิติศาสตร์ประยุกต์
- วท.บ.สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม
- วท.บ.สาขาวิชาสาธารณสุขชุมชน
- วท.บ.สาขาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ (ต่อเนื่อง)
- คณะวิทยาการจัดการ
- บช.บ.สาขาวิชาการบัญชี
- บธ.บ.สาขาวิชาการจัดการ
- บธ.บ.สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ
- บธ.บ.สาขาวิชาการโรงแรมและการท่องเที่ยว
- บธ.บ.สาขาวิชาการตลาด
- บธ.บ.สาขาวิชาการบริหารการเงิน
- ศศ.บ. หรือ นศ.บ.สาขาวิชานิเทศศาสตร์
- บธ.บ. หรือ ศ.บ.สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์
- บธ.บ.สาขาธุรกิจดิจิทัล (หลักสูตร WIL)
- คณะเทคโนโลยีการเกษตร
- วท.บ.สาขาวิชาเกษตรศาสตร์
- วท.บ.สาขาวิชาเทคนิคการสัตวแพทย์และการพยาบาลสัตว์
- วท.บ.สาขาวิชาเทคโนโลยีการอาหาร
- วท.บ.สาขาวิชาสัตวศาสตร์
- วท.บ.สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศการเกษตร
- วท.บ.สาขาวิชาบริหารธุรกิจเกษตร
- วท.บ.สาขาวิชานวัตกรรมเทคโนโลยีจักรกล
- คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ
- วท.บ.สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ
- วท.บ.สาขาวิชาเทคโนโลยีมัลติมีเดียและแอนิเมชั่น
- วท.บ.สาขาวิชาเทคโนโลยีดิจิทัล
- วท.บ.สาขาวิชาการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศดิจิทัล
- คณะวิศวกรรมศาสตร์
- วศ.บ.วิศวกรรมคอมพิวเตอร์
- วศ.บ.วิศวกรรมการจัดการ
- วศ.บ.วิศวกรรมพลังงานและสิ่งแวดล้อม
- วท.บ. หรือ ทล.บ.เทคโนโลยีไฟฟ้า
- วท.บ. หรือ ทล.บ.เทคโนโลยีอุตสาหกรรมการผลิต
- วท.บ.การจัดการงานช่างและผังเมือง
กลุ่มมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
- คณะครุศาสตร์
- ค.บ.สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ศึกษา
- ค.บ.สาขาวิชาจิตวิทยาฯ-คอมพิวเตอร์ศึกษา
- ค.บ.สาขาวิชาบรรณารักษ์ศึกษาและภาษาอังกฤษ
- ค.บ.สาขาวิชาวิทยาศาสตร์
- ค.บ.สาขาวิชาอุตสาหกรรมศิลป์
- ค.บ.สาขาวิชาการประถมศึกษา
- ค.บ.สาขาวิชาชีววิทยา
- ค.บ.สาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย
- ค.บ.สาขาวิชาสังคมศึกษา
- ค.บ.สาขาวิชาคณิตศาสตร์
- ค.บ.สาขาวิชาดนตรีศึกษา
- ค.บ.สาขาวิชาการศึกษาพิเศษและภาษาไทย
- ค.บ.สาขาวิชาฟิสิกส์
- ค.บ.สาขาวิชาเคมี
- ค.บ.สาขาวิชาการสอนภาษาจีน
- ค.บ.สาขาวิชาพลศึกษา
- ค.บ.สาขาวิชาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา
- ค.บ.สาขาวิชาภาษาไทย
- ค.บ.สาขาวิชาสังคมศึกษา
- ค.บ.สาขาวิชาศิลปศึกษา
- ศศ.บ.สาขาวิชาการจัดการกีฬา
- วท.บ.สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา
- คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์
- ศศ.บ.สาขาวิชาภาษาอังกฤษ
- ศศ.บ.สาขาวิชาภาษาอังกฤษธุรกิจ
- ศศ.บ.สาขาวิชา Joint-Degree English Program
- ศศ.บ.สาขาวิชาภาษาไทย
- ศศ.บ.สาขาวิชาภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร
- ศศ.บ.สาขาวิชาดนตรี
- ศศ.บ.สาขาวิชานาฏศิลป์และการละคร
- ศศ.บ.สาขาวิชาบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์
- ศศ.บ.สาขาวิชาภาษาจีน
- ศศ.บ.สาขาวิชาปรัชญา สังคม และวัฒนธรรม
- ศศ.บ.สาขาวิชาการจัดการสิ่งแวดล้อมชุมชน
- ศศ.บ.สาขาวิชาสังคมศาสตร์เพื่อการพัฒนาท้องถิ่น
- ศล.บ.สาขาวิชาศิลปกรรม
- ศล.บ.สาขาวิชาวิจิตรศิลป์
- คณะนิติศาสตร์
- คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์
- รป.บ.สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์
- ร.บ.สาขาวิชารัฐศาสตร์
- รป.บ.สาขาการบริหารจัดการท้องถิ่นและการบริหารการพัฒนา (หลักสูตร WIL)
หน่วยงานสนับสนุน
|
วันราชภัฏ
ทุกวันที่ 14 กุมภาพันธ์ [9]ของทุกปี เป็น “วันราชภัฏ” สืบเนื่องจากวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2535 พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนาม สถาบันราชภัฏแก่วิทยาลัยครูมหาสารคาม และวิทยาลัยครูทั่วประเทศ และได้มีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้อัญเชิญตราพระราชลัญจกรส่วนพระองค์ เป็นตราประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคามและมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมหาที่สุดมิได้ เป็นสิ่งที่นำความภาคภูมิใจสูงสุดมาสู่ชาวมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม และมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศ ซึ่งชาวมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคามในฐานะสถาบันอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น สมควรจะเทิดพระมหากรุณาธิคุณนี้ไว้เหนือเกล้าและจงรักภักดีด้วยการตั้งปณิธานที่จะประพฤติ และปฏิบัติหน้าที่เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท ในการพัฒนาประเทศและบำบัดทุกข์ บำรุงสุขแก่พี่น้อง ประชาชนชาวไทย ดังนั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ถือว่าเป็นวันราชภัฏ ซึ่งชาวมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคามจึงถือเป็นการสถาปนามหาวิทยาลัยด้วยเช่นกัน[10]
คำว่า “ราชภัฏ” ให้ความหมายว่า “คนของพระราชา…ข้าของแผ่นดิน” หากตีความตามความรู้สึกยิ่งกินใจและตีความได้กว้างขวางยิ่งขึ้นไปอีกนั่นก็คือ “การถวายงานประดุจข้าราชบริพารที่รับใช้ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทที่ต้องถวายงานอย่างสุดความสามารถ สุดชีวิต และสุดจิตสุดใจ” ซึ่งการเป็นคนของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทย่อมเป็นข้าของแผ่นดินอีกด้วย เนื่องจากว่าใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทผู้เป็นมิ่งขวัญของพวกเราชาวราชภัฏ ทรงเป็นแบบอย่างการทรงงานเพื่อบ้านเมือง และแผ่นดินอย่างที่มิเคยทรงหยุดพักแม้เพียงนิด แม้ยามที่ทรงประชวรก็ไม่เคยหยุดทรงงาน เพื่อความสุขของปวงชนชาวสยามของพระองค์นั้นเองด้วยเหตุผลเหล่าใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทจึงได้พระราชทานพระราชลัญจกร อันเป็นเครื่องประกอบพระราชอิศริยยศ พระราชอิศริยศักดิ์ ลงมาเป็นตราสัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏ ประหนึ่งเครื่องเตือนความทรงจำว่าพวกเราชาวราชภัฏคือ “คนของพระราชา และข้าของแผ่นดิน”
เนื่องในวันราชภัฎ[11] ในทุกๆ มหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม และมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศ จึงได้จัดกรรมต่างๆ ขึ้นอาทิ การทำบุญตักบาตร การจัดนิทรรศการ การเสวนาทางวิชาการ และการมอบรางวัลต่างๆ เป็นต้น ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ดีต่อการสนับสนุนอุดมการณ์ของ “ชาวราชภัฎ” หนึ่งในรอบปีมีวาระสำคัญอย่างยิ่งที่พวกเราเลือดราชภัฎจะถือโอกาสในการทำงานเพื่อสนองแนวทางพระราชดำริสืบต่อพระราชปณิธานและสืบสานพระราชประสงค์ เหมาะสมกับการเป็น “ข้ารองพระยุคลบาทยิ่ง” และอย่างให้ชาวราชภัฏทุกท่านสำนึกอยู่เสมอว่า “มีหน้าที่อุทิศตนทำงานทุกอย่าง เพื่อเป็นบทพิสูจน์ความจงรักภักดิ์ดี และเทิดทูนใต้ฝ่าละอองธุรีพระบาท และล้นเกล้าล้นกระหม่อมทุกๆ พระองค์อย่างหาที่สุดมิได้ สำคัญนักเรียน นักศึกษา ครู คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ พวกเราชาวราชภัฏต้องเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเกศี ด้วยการปฏิบัติทึกภาระกิจที่ได้รับมอบหมายประหนึ่งทำถวายใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทในทุกกรณี เพราะพวกเราชาวราชภัฎคือ “คนของพระราชา ข้าของแผ่นดิน”
พิธีพระราชทานปริญญาบัตร
- ปี พ.ศ. 2527-2537 พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 พระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร) เสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ในการพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาแก่ผู้สำเร็จจากวิทยาลัยครูมหาสารคาม - วิทยาลัยครูทั่วประเทศ ณ อาคารใหม่สวนอัมพร พระราชวังดุสิต กรุงเทพมหานคร
- ปี พ.ศ. 2548 [12]พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 พระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณฯ สยามมกุฎราชกุมาร) เสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม[13]-มหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ หอประชุมไพรพยอม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี
- ปี พ.ศ. 2547-2559 [14]พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 พระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 10 (เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณฯ สยามมกุฎราชกุมาร) เสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม[15]-มหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ หอประชุมมหาวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร
- ปี พ.ศ. 2560 - 2563 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้วยพระองค์เองในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม - มหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ หอประชุมมหาวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร
- ปี พ.ศ. 2565 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 พระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม - มหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ หอประชุมมหาวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร
- ปี พ.ศ. 2566 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 พระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายพลากร สุวรรณรัฐ องค์มนตรี เป็นตัวแทนพระองค์ ไปในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม - มหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ หอประชุมมหาวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร
ครุยวิทยฐานะ
ครุยวิทยฐานะของมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม เป็นชุดครุยสากล แบ่งสีฮุดตามปริญญาที่สำเร็จการศึกษา
สีฮุดประจำปริญญา
1.ครุศาสตรบัณฑิต = สีฟ้า
่2.วิทยาศาสตรบัณฑิต = สีเหลือง
- คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ทุกสาขาวิชา)
- คณะเทคโนโลยีการเกษตร (ทุกสาขาวิชา)
- คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ (ทุกสาขาวิชา)
- คณะวิศวกรรมศาสตร์ (เฉพาะ เทคโนโลยีบัณฑิต)
- คณะครุศาสตร์ (เฉพาะ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา)
3.ศิลปศาสตรบัณฑิต = สีแสด
- คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
- คณะครุศาสตร์ (เฉพาะ สาขาวิชาการจัดการกีฬา)
- คณะวิทยาการจัดการ (เฉพาะ สาขานิเทศศาสตร์)
4.ศิลปบัณฑิต = สีแดง
- คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ (เฉพาะสาขาวิจิตศิลป์, สาขาทัศนศิลป์)
5.บริหารธุรกิจบัณฑิต = สีชมพู
6.บัญชีบัณฑิต = ██ สีฟ้าอ่อน
- คณะวิทยาการจัดการ (เฉพาะ สาขาการบัญชี)
7.นิติศาสตรบัณฑิต = ██ สีขาว
8.รัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต = สีเขียวหัวเป็ด
- คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ (เฉพาะ สาขารัฐประศาสนศาสตร์, สาขาการบริหารจัดการและการบริหารการพัฒนา)
9.รัฐศาสตรบัณฑิต = ██ สีเขียวอ่อน
- คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ (เฉพาะ สาขารัฐศาสตร์)
10.วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต = ██ สีแดงเลือดนก
นายกองค์การบริหารนักศึกษา/ประธานสภานักศึกษา
ปีการศึกษา
|
นายกองค์การบริหารนักศึกษา
|
ประธานสภานักศึกษา
|
ผู้ดำรงตำแหน่ง
|
คณะ/ชั้นปี
|
สังกัด
|
ผู้ดำรงตำแหน่ง
|
คณะ/ชั้นปี
|
สังกัด
|
2567
|
นายชลันธร แก้วโกฏ
|
ครุศาสตร์/3
|
พรรคดอกจาน
|
นายเทวฤทธิ์ กล่ำดิษฐ
|
วิทยาการจัดการ/4
|
พรรคพลังนักศึกษา
|
2566
|
นายรัตนพล คิดไร
|
ครุศาสตร์/4
|
พรรคดอกจาน
|
นายนนธกร หันสา
|
มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์/4
|
พรรคพลังนักศึกษา
|
2565
|
นายศราวุธ ถวิลคำ
|
มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์/4
|
พรรคพลังนักศึกษา
|
นายณัฐพงษ์ ภักดีรัก
|
รัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์/4
|
พรรคพลังนักศึกษา
|
2564
|
นางสาวสิริลักษณ์ ยาผาง
|
มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์/4
|
พรรคพลังนักศึกษา
|
นางสาวยุวดี ศิริบุตรวงศ์
|
รัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์/4
|
พรรคพลังนักศึกษา
|
2563
|
นายอภิชาติ นันทะแสง
|
นิติศาสตร์/4
|
พรรคลูกพระวรุณ
|
นายอธิพงษ์ จันทร์เสน
|
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี/4
|
พรรคพลังนักศึกษา
|
2562
|
นายคมสันต์ แสงงาม
|
ครุศาสตร์/4
|
พรรคดอกจาน
|
นายธนพงษ์ จุติรักษ์
|
รัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์/4
|
พรรคเก้าประสาน
|
2561
|
นายเกริกเกียรติ ภูจิระ
|
ครุศาสตร์/4
|
พรรคดอกจาน
|
นายเอกราช โพธิเลกุ
|
รัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์/4
|
พรรคเก้าประสาน
|
2560
|
นายสิทธิโชค จันนามอม
|
ครุศาสตร์/4
|
พรรคดอกจาน
|
นายชุติพงศ์ แหไธสงค์
|
ครุศาสตร์/4
|
พรรคดอกจาน
|
2559
|
นายศุภชัย แสนกระจาย
|
วิทยาการจัดการ/4
|
พรรคราชภัฏ
|
นางสาวเครือมาศ ถาวิชัย
|
รัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์/4
|
พรรคเก้าประสาน
|
2558
|
นายวิฑูรย์ แข็งฤทธิ์
|
นิติศาสตร์/4
|
พรรคลูกพระวรุณ
|
นายมนตรี อริเดช
|
ครุศาสตร์/4
|
พรรคดอกจาน
|
2557
|
นายศุภนนท์ ตาบผาด
|
ครุศาสตร์/4
|
พรรคดอกจาน
|
|
ครุศาสตร์/4
|
พรรคดอกจาน
|
ศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียง
นักการเมือง
นักเขียน
- ชัชวาลย์ โคตรสงคราม นักเขียนเรื่องสั้นและนวนิยาย ได้รับรางวัลช่อการะเกดประจำปี 2535 จากเรื่องสั้นชื่อ "เจ้านกกระจิบ" รวมพิมพ์ในเล่ม "รากเหง้าเผด็จการ" โดยสุชาติ สวัสดิ์ศรี บรรณาธิการ นวนิยายสัจนิยมมหัศจรรย์ระดับพื้นผิว เรื่อง "ทะเลน้ำนม" เข้ารอบ 7 เล่ม สุดท้ายรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ประจำปีพุทธศักราช 2552
นักร้อง/นักแสดง
- ครูเต้ย อภิวัฒน์ บุญเอนก ศิลปินนักร้อง ค่ายคืนถิ่นสตูดิโอ และอดีตข้าราชการครู โรงเรียนบ้านโนนธาตุ จังหวัดขอนแก่น จบจากคณะครุศาสตร์ สาขาดนตรีศึกษา
- สายแนน โพธิ์งาม ศิลปินนักร้อง ค่ายสิงห์มิวสิค จบจากคณะมนุษย์และสังคมศาสตร์
นักกีฬา
บุคคลทั่วไป
อ้างอิง
|
---|
สัญลักษณ์ | | |
---|
คณะ | |
---|
วิทยาลัย | |
---|
โรงเรียน | |
---|
กิจกรรม | งานกีฬาประเพณีสานสัมพันธ์นิติศาสตร์มรม.-มมส |
---|
|
|
---|
สัญลักษณ์ | |
---|
กลุ่มรัตนโกสินทร์ | |
---|
กลุ่มภาคกลาง | |
---|
กลุ่มภาคเหนือ | |
---|
กลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ | |
---|
กลุ่มภาคใต้ | |
---|
อดีตมหาวิทยาลัยราชภัฎ | |
---|
|
|
---|
|
|
---|
มหาวิทยาลัย | |
---|
สถาบัน | |
---|
วิทยาลัย | |
---|
|
|
|
---|
มหาวิทยาลัย | |
---|
สถาบัน | |
---|
วิทยาลัย | |
---|
|
|
|
|
|
|
|
---|
อำเภอ | | |
---|
ประวัติศาสตร์ | |
---|
ภูมิศาสตร์ | |
---|
เศรษฐกิจ | คมนาคม | |
---|
ธุรกิจ | |
---|
ศูนย์ประชุม | |
---|
ท่องเที่ยว |
- หอนาฬิกา
- แก่งเลิงจาน
- คลองสมถวิล
- อนุเสาวรีย์เทอดรัฐธรรมนูญ
- พระพุทธรูปยืนมงคล
- พระพุทธมิ่งเมือง
- ปรางค์กู่บัวมาศ
- กู่สันตรัตน์
|
---|
|
---|
สังคม | การศึกษา | |
---|
พิพิธภัณฑ์ | |
---|
วัฒนธรรม | |
---|
กีฬา | |
---|
การเมือง | |
---|
|
---|
|