อักษรลายตัย
อักษรลายตัย หรือ อักษรท้ายลายตัย (เวียดนาม: Chữ Thái Lai Tay) เป็นระบบการเขียนของชาวไทญ้อในจังหวัดเหงะอาน ประเทศเวียดนาม[2] ที่ใช้เขียนภาษาญ้อ รูปร่างคล้ายอักษรไทยฝักขามที่เคยใช้ในล้านนา ชื่ออักษรนี้มีชื่อเรียกหลายชื่อ เช่น อักษรญ้อลายตัย,[3] อักษรเหงะอาน, อักษรไทญ้อ, อักษรท้ายลายตัย, อักษรกวี่เจิว[4] ต้นกำเนิดเบื้องต้นมีแชล แฟร์ลุส (Michel Ferlus) นักวิชาการชาวฝรั่งเศสจัดให้อักษรลายตัยอยู่ในกลุ่มอักษรเขมร โดยแยกออกเป็นสองกลุ่ม คือ อักษรสุโขทัยและฝักขาม (ซึ่งพัฒนาไปเป็นอักษรไทยและลาว) และอีกกลุ่มคือ อักษรไทเวียด ลายตัย และลายปาว ของชาวไทในเวียดนาม[4] แฟร์ลุสกล่าวอีกว่าชาวไทรับรูปแบบอักษรเขมรทั้งหมดไปใช้โดยขาดการเรียนรู้อย่างเหมาะสม ในเวลาต่อมาเมื่อชาวไทกระจายทั่วภาคพื้นทวีปอุษาคเนย์ พวกเขาก็ยังคงรักษาลักษณะดั้งเดิมของอักษรเขมรยุคก่อนพระนครไว้ได้ หากแต่ไม่มีการเรียงลำดับอักษร หรือการใช้ตัวเลข[4] อย่างไรก็ตาม ชาวไทในเวียดนามมีอักษรใช้ครั้งแรกตั้งแต่ช่วงต้นคริสต์ศวรรษที่ 16 เป็นต้นมา[1] รูปลักษณ์อักษรลายตัยมี 29 พยัญชนะ โดยมี 8 ตัวที่สามารถพบในตำแหน่งท้ายพยางค์ และมีสัญลักษณ์สระ 13 แบบ ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งใต้พยัญชนะ หรือบางส่วนตั้งอยู่ทางขวาของพยัญชนะ[4][3] อักษรลายตัยยังคงเป็นอักษรสระประกอบแท้ และพยัญชนะที่ไม่มีรูปสระจะออกเสียงด้วยสระลดรูป <o>, [ɔ] ซึ่งต่างจากระบบการเขียนอักษรไทอื่น ๆ[3] อักษรนี้ยังมีตัวแฝดสำหรับสระและตัวผสมพยัญชนะท้ายอีก 9 ตัว[3] อักษรนี้เขียนจากบนลงล่างและจากขวาไปซ้าย แบบเดียวกับอักษรจีน เพราะชาวไทเหล่านี้เคยใช้อักษรจีนเขียนภาษาของตนมาก่อนที่จะรับรูปแบบการเขียนอักษรฝักขามจากล้านนาและลาว อักษรลายตัยไม่มีวรรณยุกต์ ส่วนใหญ่มักเขียนโดยไม่มีเครื่องหมายวรรคตอน แต่อาจพบในเอกสารตัวเขียนบางอันที่มีเครื่องหมายวรรคตอนเหมือนกับของจีน อักษรนี้ไม่มีตัวเลข โดยจะเขียนตัวเลขเป็นรูปตัวอักษร[3]
การใช้งานปัจจุบันไม่ค่อยมีการใช้งานอักษรนี้แล้ว แต่มีเอกสารตัวเขียนมากพอที่จะให้นักภาษาศาสตร์ศึกษาได้ นักวิชาการไทญ้อที่มีอายุมากบางคนสามารถอ่านเอกสารเหล่านี้ได้[4] ชุมชนไทญ้อในปัจจุบันมีการสอนและศึกษาอักษรนี้ โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลท้องถิ่นและบรรดาครู[3] ยูนิโคดทางยูนิโคดเสนอให้ลงรหัสอักษรนี้ลงไป[3] อ้างอิง
บรรณานุกรม
|