Share to:

 

อักษรอึนโก

อักษรอึนโก
ߒߞߏ
ชนิด
อักษร
ผู้ประดิษฐ์โซโลมานา กันเต
ช่วงยุค
ค.ศ. 1949–ปัจจุบัน
ทิศทางขวาไปซ้าย Edit this on Wikidata
ภาษาพูดภาษาอึนโก, กลุ่มภาษามันดิง (มันดินโก, มานินกา,
บัมบารา, ดยูลา)
ISO 15924
ISO 15924Nkoo (165), ​N’Ko
ยูนิโคด
ยูนิโคดแฝง
NKo
ช่วงยูนิโคด
U+07C0–U+07FF
 บทความนี้ประกอบด้วยสัญกรณ์การออกเสียงในสัทอักษรสากล (IPA) สำหรับคำแนะนำเบื้องต้นเกี่ยวกับสัญลักษณ์ IPA โปรดดู วิธีใช้:สัทอักษรสากล สำหรับความแตกต่างระหว่าง [ ], / / และ ⟨ ⟩ ดูที่ สัทอักษรสากล § วงเล็บเหลี่ยมและทับ

อักษรอึนโก (N'Ko: ߒߞߏ) เป็นอักษรที่ประดิษฐ์โดยโซโลมานา กันเตใน ค.ศ. 1949 ใช้เป็นระบบอักษรสำหรับกลุ่มภาษามันเดในแอฟริกาตะวันตก[1][2]

ประวัติ

กันเตเกิดเมื่อ พ.ศ. 2465 ในวัยหนุ่ม เขาไม่พอใจมากเมื่ออ่านพบว่าชาวต่างชาติดูถูกชาวแอฟริกันว่าไร้วัฒนธรรมเพราะไม่มีระบบการเขียนเป็นของตนเอง เขาจึงพัฒนาอักษรอึนโกขึ้นมาเพื่อให้ชาวแอฟริกันใช้อักษรนี้บันทึกวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ด้วยภาษาแม่ของตนเอง เขาเขียนสื่อการสอนนับร้อยชิ้นในภาษามาลินเกด้วยอักษรอึนโก ปัจจุบันงานเขียนของเขาหาอ่านได้จากสมาคม ICRA-N'KO

ลักษณะ

เขียนจากขวาไปซ้าย แนวนอน เครื่องหมายใต้สระบอกเสียงนาสิก เครื่องหมายบนสระบอกความยาวของเสียงหรือวรรณยุกต์

อักษร

อักษรอึนโกเขียนจากขวาไปซ้ายด้วยตัวอักษรที่เชื่อมต่อถึงกัน เครื่องหมายใต้สระบอกเสียงนาสิก เครื่องหมายบนสระบอกความยาวของเสียงหรือวรรณยุกต์

สระ

ɔ o u ɛ i e a
ߐ ߏ ߎ ߍ ߌ ߋ ߊ

พยัญชนะ

r t d t͡ʃ d͡ʒ p b
ߙ ߕ ߘ ߗ ߖ ߔ ߓ
m gb l k f s rr
ߡ ߜ ߟ ߞ ߝ ߛ ߚ
ŋ h j w n ɲ
ߒ ߤ ߦ ߥ ߣ ߢ

วรรณยุกต์

อักษรอึนโกมีเครื่องหมายเสริมสัทอักษรเพื่อระบุวรรณยุกต์และความยาวสระ 7 แบบ

สูง ต่ำ สูงขึ้น ตกลง
สั้น ߫ ߬ ߭
ยาว ߯ ߰ ߱ ߮

ตัวเลข

0 1 2 3 4 5 6 7 8 9
߀ ߁ ߂ ߃ ߄ ߅ ߆ ߇ ߈ ߉

ยูนิโคด

อึนโก
Unicode.org chart (PDF)
  0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 A B C D E F
U+07Cx ߀ ߁ ߂ ߃ ߄ ߅ ߆ ߇ ߈ ߉ ߊ ߋ ߌ ߍ ߎ ߏ
U+07Dx ߐ ߑ ߒ ߓ ߔ ߕ ߖ ߗ ߘ ߙ ߚ ߛ ߜ ߝ ߞ ߟ
U+07Ex ߠ ߡ ߢ ߣ ߤ ߥ ߦ ߧ ߨ ߩ ߪ ߫ ߬ ߭ ߮ ߯
U+07Fx ߰ ߱ ߲ ߳ ߴ ߵ ߶ ߷ ߸ ߹ ߺ          


อ้างอิง

  1. Eberhard, David; Simons, Gary; Fennig, Charles, บ.ก. (2019). "N'ko". Ethnoloque. สืบค้นเมื่อ June 12, 2019.
  2. Oyler, Dianne (Spring 2002). "Re-Inventing Oral Tradition: The Modern Epic of Souleymane Kanté". Research in African Literatures. 33 (1): 75–93. doi:10.1353/ral.2002.0034. JSTOR 3820930. OCLC 57936283. S2CID 162339606.

ข้อมูลทั่วไป

แหล่งข้อมูลอื่น

Kembali kehalaman sebelumnya