หอยตาก
หอยตาก และ เลียะฮ์ฮาล (เขมร: លៀសហាល, เลียสฺหาลฺ; แปลว่า หอยตากแห้ง) เป็นอาหารว่างของประเทศไทยและประเทศกัมพูชา มีวัตถุดิบหลักคือ หอยทราย ซึ่งเป็นหอยน้ำจืดพบได้ทั่วไปตามแหล่งน้ำต่าง ๆ โดยนำหอยดังกล่าวมาตากแดด ก่อนนำไปคลุกเคล้าให้เข้ากับเกลือและเครื่องปรุงอื่น ๆ เพื่อแต่งรส ถือเป็นอาหารข้างถนนที่พบได้ที่อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง และพบได้ทั่วไปในประเทศกัมพูชา อย่างไรก็ตามหอยตากของทั้งสองประเทศนี้จะมีลักษณะต่างกัน คือ ในประเทศไทย ได้แก่ อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง จะนำหอยทรายไปคลุกเคล้าด้วยเครื่องเทศและเกลือเพื่อดับคาว รวมทั้งใช้เวลาประกอบอาหารค่อนข้างนาน ก่อนนำไปตากแดดอีกราวครึ่งวัน[1][2] และที่อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา จะนำหอยทรายไปขังน้ำหนึ่งคืนและนึ่งให้สุกก่อนนำไปตาก[3] ขณะที่กัมพูชาจะนำหอยไปคลุกเคล้ากับเกลือหรือพริก ใช้ระยะเวลาตากแดดสั้น ๆ เพียง 15 นาที[4] ความหลากหลายประเทศกัมพูชาในประเทศกัมพูชา มีหอยตากเช่นกัน เรียกว่า เลียะฮ์ฮาล เป็นอาหารว่างชนิดหนึ่งของกัมพูชา มีวัตถุดิบหลักคือ หอยทราย ในภาษาเขมรเรียกว่า เลียะฮ์ (លៀស)[5] ซึ่งเป็นหอยน้ำจืดที่พบได้ทั่วไปในโตนเลสาบ[6][7] หรือตามลำน้ำต่าง ๆ[4] นำมาตากแดดบนกระบะสังกะสีหรือกระบะอลูมิเนียม โดยใช้ความร้อนจากแสงอาทิตย์ทำให้หอยสุกทีละน้อย[6][7] ใช้ระยะเวลาราว 15 นาที[4] บ้างก็นำหอยมาลวกให้สุกดี ก่อนนำไปตากแดดก็มี[5] จากนั้นนำหอยดังกล่าวไปคลุกเคล้าเข้ากับเกลือ ให้มีรสชาติเค็ม ถือว่าเป็นรสดั้งเดิม[6] ปัจจุบันเลียะฮ์ฮาลมีหลายรูปแบบ ได้แก่ หอยคลุกเกลือล้วน หอยคลุกพริกกับเกลือ หอยคลุกพริกสด และหอยคลุกพริกกับน้ำตาล[7] บางเจ้ามีหอยคลุกพริกสดและบีบน้ำมะนาว[4] และบางเจ้ามีน้ำจิ้มทำจากน้ำมะขามเปียกซึ่งมีลักษณะและรสชาติใกล้เคียงกับน้ำจิ้มทะเลของไทย ไว้ให้รับประทานเคียงด้วย[7] รสชาติที่ขายดีที่สุดคือหอยที่มีรสชาติเผ็ด[4] เลียะฮ์ฮาลเป็นที่นิยมเพราะมีราคาถูก[4] สนนราคากระป๋องละ 1,500 เรียล[4][5] ถึง 5,000 เรียล[7] สามารถพบได้ทั่วไปในประเทศกัมพูชา เช่น ตามถนนสายใหญ่และตลาดกลางในกรุงพนมเปญ[4][5] เสียมราฐ ปอยเปต ในประเทศไทยพบได้ในหลักแหล่งที่มีชาวกัมพูชาอาศัยอยู่ โดยเฉพาะตลาดโรงเกลือ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว[6] อย่างไรก็ตามเลียะฮ์ฮาลถือว่าเป็นอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบที่พึงระมัดระวัง แม้จะเป็นอาหารที่ชาวกัมพูชาคุ้นเคย แต่สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่รับประทานอาจเกิดอาการท้องร่วงได้[4][6] ประเทศไทยในประเทศไทยมีการนำหอยทรายมาทำเป็นหอยตากในช่วงเดือนมีนาคมจนถึงพฤษภาคมของทุกปี พบได้ในหมู่บ้านอาพัด ตำบลจองถนน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง ซึ่งเป็นชุมชนริมทะเลสาบสงขลา โดยจะคราดหอยบริเวณปากคลองบางแก้ว จากนั้นนำหอยทรายไปล้างให้สะอาดก่อนนำไปขังน้ำราวหกชั่วโมงแล้วจึงเทน้ำออก ต่อมานำตะไคร้ หอม กระเทียม และเครื่องเทศซึ่งตำละเอียดไปคลุกเคล้ากับหอยทราย จากนั้นนำไปใส่ในภาชนะและเติมเกลือเพื่อหมักหอยเป็นระยะเวลาแปดชั่วโมง เมื่อครบกำหนดแล้ว ก็จะนำหอยที่ผ่านการหมักมาแล้วไปตากแดดบนแผ่นสังกะสี ตั้งแต่ช่วงเช้าไปจนถึงเที่ยงเพื่อให้หอยสุกและแห้งสนิท บางคนก็นำหอยที่ตากจนแห้งดีแล้วไปต้มกับน้ำเดือดก่อนรับประทาน โดยหอยตากจะมีรสชาติเค็มปนหวาน[1][2] ส่วนบ้านจระเข้หิน ตำบลจระเข้หิน อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา ชาวบ้านจะงมหอยทรายตามแหล่งน้ำมาแปรรูป โดยนำหอยทรายที่ได้มาขังน้ำทิ้งไว้หนึ่งคืนเพื่อให้หอยคายดินและสิ่งสกปรกออก จากนั้นนำหอยไปทำความสะอาด ก่อนนำไปนึ่งพอสุก นำหอยที่นึ่งแล้วไปแกะเปลือก แล้วนำไปตากแดดจนแห้ง ถือเป็นวิธีการถนอมอาหารไว้บริโภคในวันถัดไป สามารถนำหอยตากเป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหาร เช่น ผัดหอยสามรส[3] อ้างอิง
|