ขนมลูกกวาด
ขนมลูกกวาด บ้างเรียก ลูกกวาดไทย เป็นลูกกวาดรูปแบบหนึ่งของไทย มีสองรูปแบบ คือ ขนมลูกกวาดแบบชาวบ้าน ซึ่งทำจากกะทิกับน้ำตาลปึกกวนกันจนเหนียว มีรสชาติหวานมัน[1] และขนมลูกกวาดแบบชาววัง ซึ่งแบบชาววังนี้ปรากฏอยู่ในราชสำนักของพระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดาเป็นสำคัญ มีลักษณะพิเศษคือ เคลือบด้วยน้ำตาลที่มีรูปร่างแหลม ภายในสอดไส้เม็ดบัว เมล็ดแตงโม เมล็ดฟักทอง หรือถั่วต่าง ๆ ถือเป็นอาหารที่ต้องทำอย่างพิถีพิถัน และต้องใช้ความอดทนอย่างสูง[2] ขนมลูกกวาดแบบชาววังนี้มีลักษณะใกล้เคียงกับซกซา (束砂) ซึ่งเป็นลูกกวาดของประเทศจีนตอนใต้[3] และคมเปโต (金平糖) ซึ่งเป็นลูกกวาดของประเทศญี่ปุ่น[4] ลูกกวาดชาวบ้านลูกกวาดของชาวบ้าน จะมีกรรมวิธีที่ไม่ซับซ้อนมากนัก คือจะนำกะทิไปผสมกับน้ำตาลปึก กวนจนเหนียวเข้ากัน[1] ลูกกวาดชาววังลูกกวาดของชาววัง มีกรรมวิธีที่ต้องใช้ความพิถีพิถัน และความอดทนสูง เพราะต้องใช้นิ้วมือเปล่า ๆ ในการกวนลูกกวาดกลับไปกลับมาในกระทะทองเหลืองที่รนไฟจนร้อน จนกว่าน้ำตาลจะจับตัวกับเม็ดผลไม้จนแห้งเป็นหนามแหลมสวยงาม[1][5] หม่อมหลวงเนื่อง นิลรัตน์ อดีตนางข้าหลวงในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้านิภานภดล วิมลประภาวดี กรมขุนอู่ทองเขตขัตติยนารี และเป็นหลานสาวของหม่อมเจ้าสะบาย นิลรัตน์ หัวหน้าห้องเครื่องในราชสำนักพระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา กล่าวถึงวิธีการทำขนมลูกกวาดชาววังไว้ว่า
เหตุที่ต้องใช้นิ้วทั้งห้าลงไปกวนในกระทะ ก็เพราะหากใช้ช้อนหรือทัพพีลงไปกวน ลูกกวาดก็จะไม่ขึ้นหนามแหลม เป็นเม็ดหุ้มน้ำตาลอย่างเดียวดูไม่สวยงาม[2] โดยหม่อมหลวงเนื่อง อธิบายอีกว่า "...คนทำเอาปลายนิ้วมือถูไปถูมากับก้นกระทะทองที่ร้อน หนังปลายนิ้วมือสึกไป ๆ จนบางเข้าทุกที เอามือบีบปลายนิ้วเลือดจะซึมออกมาซิบ ๆ เมื่อมือบางถึงขั้นนี้ก็ต้องเลิกทำ เอาคนอื่นมาเปลี่ยนแทน คนอื่นเป็นอีกก็เปลี่ยนอีก..."[5] โดยมากขนมลูกกวาดแบบชาววังจะใช้สีจากธรรมชาติในการแต่งสีสันเย็นตาให้ขนมสวยงามน่ารับประทานขึ้น ได้แก่ สีขาว สีชมพูอ่อน สีฟ้าอ่อน สีเหลืองอ่อน สีเขียวอ่อน เมื่อขนมเย็นดีแล้ว ก็จะเทใส่ขวดโหลขวดละสี เวลาจะรับประทานก็จะเอาทุกสีมาเคล้ารวมกันในจาน หนามที่แหลมฟูก็ยิ่งทำให้ลูกกวาดชาววังดูน่ารับประทานยิ่ง[2][5] อย่างไรก็ตามขนมลูกกวาดแบบชาววังนี้มีลักษณะใกล้เคียงกันกับลูกกวาดจีน หรือซกซา (束砂) หนึ่งในขนมจันอับหรือขนมมงคลของกวางตุ้งและแต้จิ๋ว[3] และยังใกล้เคียงกับคมเปโต (金平糖) ซึ่งเป็นลูกกวาดแบบญี่ปุ่น ทำจากเกล็ดน้ำตาลเคลือบงา ได้รับอิทธิพลจากขนมหวานโปรตุเกสผ่านมิชชันนารีผู้เผยแผ่ศาสนาในอดีต แต่ลูกกวาดแบบญี่ปุ่นนี้ไม่ต้องใช้มือเปล่าแบบลูกกวาดชาววังของไทย หากต้องกวนในกระทะใหญ่ขอบสูง[4] หรือเตาหมุนที่เรียกว่า โดระ[6] ใช้ระยะเวลาทำยาวนานราว 2-3 สัปดาห์ จนมีหนามมน ๆ ดูน่ารับประทาน[4] คมเปโตมีรสชาติหวานแหลม นิยมรับประทานคู่กับน้ำชา ทั้งยังมีรูปร่างน่ารัก มีอายุการเก็บยาวนาน เหมาะสำหรับการเป็นของฝาก[6] อ้างอิง
|